Page 151 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2559
P. 151
ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย ตลอดจนความปลอดภัยในการด�าเนินชีวิตของคน
ในพื้นที่ รวมถึงผลกระทบต่อภาวะความเชื่อมั่น ขวัญและก�าลังใจของประชาชนในพื้นที่ ผู้หญิงจ�านวน ๒,๖๕๓ คนกลายเป็นหม้าย
และเด็กจ�านวน ๙,๘๐๖ คน กลายเป็นเด็กก�าพร้า ๒๗๗
จากสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น รัฐบาลได้
พยายามแก้ไขปัญหาสถานการณ์ด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น การใช้
ก�าลังเจ้าหน้าที่ในการปราบปรามผู้ก่อความไม่สงบ
การสร้างมวลชนสัมพันธ์เพื่อท�าความเข้าใจระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐ
กับประชาชน การส่งเสริมให้คนในพื้นที่และชุมชนมี
ความเข้มแข็ง การสร้างความร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ
เพื่อหาทางออกในการแก้ไขปัญหา ตลอดจนการด�าเนิน
กระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขกับกลุ่มที่มีอิทธิพล
ในการก่อเหตุความรุนแรง เป็นต้น โดยในระยะหลัง
กระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขเป็นแนวทางที่ถูกน�ามาใช้ในการร่วมกันแก้ไขปัญหาเพิ่มมากขึ้น กระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุข
เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ โดยรัฐบาลไทยในสมัยนั้นได้มีการลงนามในหนังสือแสดงเจตจ�านงริเริ่มเข้าสู่
๒๗๘
กระบวนการพูดคุยสันติภาพกับบุคคลที่ถูกระบุว่าเป็นแกนน�ากลุ่มที่มีอิทธิพลในการก่อเหตุความรุนแรง “กระบวนการพูดคุย
สันติภาพ” ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น “กระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุข” ด�าเนินการเรื่อยมา โดยที่สถานการณ์ความไม่สงบ
ก็ยังคงเกิดขึ้นอยู่เป็นระยะอย่างต่อเนื่อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
(คสช.) ได้ลงนามในค�าสั่งที่ ๒๓๐/๒๕๕๗ จัดตั้งกลไกขับเคลื่อนกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้
ประกอบด้วย คณะกรรมการ ๓ ระดับ คือ (๑) คณะกรรมการอ�านวยการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (The Steering
Committee for Peace Dialogue) โดยมี นายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ (๒) คณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดน
ภาคใต้ (The Peace Dialogue Panel) โดยผู้ซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นหัวหน้าคณะพูดคุย และ (๓) คณะประสานงาน
ระดับพื้นที่ (The Area-based Inter-agency Coordination Working Group) โดยมี กอ.รมน.ภาค ๔ เป็นหัวหน้าคณะ
ประสานงาน กระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ก�าหนดเป้าหมายและทิศทางเป็น ๓ ระยะ
โดยจะเป็นไปตามแนวทางปฏิบัติของนานาประเทศ ระยะแรกคือ การพูดคุยเพื่อเสริมสร้างความไว้วางใจ ระยะที่สองคือ
การบรรลุข้อตกลงแนวปฏิบัติสองฝ่าย (Code of Conduct) ที่น�าไปสู่การลดการเผชิญหน้าและยุติการใช้ความรุนแรง
และระยะที่สามคือ การบรรลุฉันทามติของทางออก (Road Map) จากความขัดแย้งด้วยสันติวิธี
๒๗๙
ในมิติด้านสิทธิมนุษยชน ผลกระทบจากการเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ส่งผลให้สิทธิของประชาชนถูกละเมิด
เช่น สิทธิในชีวิตและร่างกาย สิทธิในทรัพย์สิน สิทธิเด็ก และสิทธิสตรี เป็นต้น นอกจากนี้ การอยู่ภายใต้การบังคับใช้กฎหมายพิเศษ
ด้านความมั่นคงเป็นระยะเวลานาน ส่งผลให้สิทธิและเสรีภาพบางประการของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ต้องถูกจ�ากัด เช่น สิทธิในกระบวนการยุติธรรม สิทธิในการเดินทาง เป็นต้น
จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นคณะกรรมการประจ�ากติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง
(ICCPR) ได้มีข้อห่วงกังวลเกี่ยวกับรายงานว่ามีการทรมานและการปฏิบัติที่โหดร้าย รวมถึงการบังคับให้สูญหายในพื้นที่
จังหวัดชายแดนภาคใต้ และความกังวลต่อการใช้กฎหมายพิเศษในพื้นที่ เช่นเดียวกับคณะกรรมการประจ�าอนุสัญญาต่อต้าน
การทรมานและการประติบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรมหรือที่ย�่ายีศักดิ์ศรี (CAT) ซึ่งได้มีข้อสังเกตโดยสรุป
๒๗๗ จาก ศวชต.เปิดข้อมูลเด็กก�าพร้าจากไฟใต้กว่า ๙ พัน พบเงินเยียวยาถึงเด็กน้อย ต้องดูแลด้านจิตใจ, โดย โรงเรียนนักข่าวชายแดนใต้, ๒๕๕๙, สืบค้นจาก
http://deepsouthwatch.org/node/8414
๒๗๘ เจาะไทม์ไลน์”พูดคุยดับไฟใต้” กับ ๒ เงื่อนไข “ลดบึ้ม-หยุดฆ่าเป้าหมายอ่อนแอ, ๒๕๕๙, สืบค้นจาก https://www.isranews.org
๒๗๙ จาก เปิดโครงสร้าง’เจรจาสันติสุข’ดึงทุกกลุ่มเข้าพูดคุย, ๒๕๕๗, สืบค้นเมื่อ http://www.komchadluek.net/news/politic/197567
รายงานผลการประเมินสถานการณ์ 150 ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี ๒๕๕๙