Page 148 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2559
P. 148

ส�าหรับภาคธุรกิจ ธุรกิจขนาดใหญ่หลายแห่งที่ได้รับผลกระทบจาก
                                                     การด�าเนินธุรกิจที่ไม่เคารพสิทธิมนุษยชน ประกอบกับผู้ลงทุนโดยเฉพาะ

                                                     บริษัทจากต่างประเทศได้ใช้เรื่อง “สิทธิมนุษยชน” เป็นเงื่อนไขในการเลือก
                                                     คู่ค้า ท�าให้ในช่วงระยะเวลา ๒ - ๓ ปีที่ผ่านมา ภาคธุรกิจมีความตื่นตัวและ
                                                     มีความพยายามในการด�าเนินธุรกิจบนการเคารพสิทธิมนุษยชนมากขึ้น
                                                     เช่น มีการรวมกลุ่มเพื่อจัดตั้ง Global Compact Network Thailand
                                                     (GCNT) มีวัตถุประสงค์เพื่อขับเคลื่อนให้ภาคธุรกิจไทยเข้าใจความส�าคัญ

            ของการด�าเนินธุรกิจตามหลักการความยั่งยืนภายใต้ข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (UN Global Compact) มีการก�าหนดแผน
            ๓ ปี (พ.ศ. ๒๕๕๗ -๒๕๕๙) ของศูนย์พัฒนาความรับผิดชอบต่อสังคมภายใต้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในการผลักดัน
            ให้บริษัทท�า CSR in process พัฒนาผู้ลงทุนให้เห็นความส�าคัญและลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบ (Socially Responsible

            Investment - SRI) หรือการก�าหนดประเด็นเรื่องสิทธิมนุษยชนในรายงานการพัฒนาอย่างยั่งยืนและรายงานประจ�าปีและ
            แบบแสดงรายการข้อมูลประจ�าปี (๕๖-๑) ของบริษัทภายใต้การก�ากับดูแลของคณะกรรมการก�ากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
            (ก.ล.ต.) การมอบรางวัลประกาศเกียรติคุณและยกย่องบริษัทจดทะเบียนที่มีความโดดเด่นในการด�าเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน
            เป็นต้น อย่างไรก็ดี การด�าเนินการดังกล่าวยังจ�ากัดอยู่ในภาคธุรกิจขนาดใหญ่และบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์


            ๕.๒.๔ การประเมินสถานการณ์                                                                                สถานการณ์สิทธิมนุษยชนกรณีเฉพาะ

                     ผลจากปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนที่เกิดจากการประกอบธุรกิจ อาจกล่าวได้ว่า ท�าให้ภาครัฐและภาคธุรกิจเกิดความ
            ตื่นตัวในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น รัฐมีความก้าวหน้าในการด�าเนินการเพื่อให้ภาคธุรกิจเคารพสิทธิมนุษยชนมากขึ้น โดยรัฐได้มี

            นโยบาย/มาตรการในการบริหารจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นจากการประกอบธุรกิจ โดยเฉพาะด้านแรงงาน เช่น การออก
            กฎหมายว่าด้วยการประมง การให้สัตยาบันในอนุสัญญาขององค์การแรงงานระหว่างประเทศที่ท�าให้ไทยต้องปฏิบัติ
            ตามมาตรฐานแรงงานสากล การด�าเนินการเพื่อจัดท�าแผนปฏิบัติการชาติว่าด้วยธุรกิจและสิทธิมนุษยชน เป็นต้น


                     อย่างไรก็ตาม ยังพบว่ารัฐบาลยังไม่พร้อมที่จะด�าเนินการอย่างเป็นรูปธรรมในทุกกรณี นอกเหนือจากกรณีที่มี  บทที่
                                                                                                                    ๕
            ผลกระทบต่อผลประโยชน์ทางการค้าและการลงทุนอย่างรุนแรง ตัวอย่างเช่น เมื่อวันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๙ คณะรัฐมนตรีได้
            มีมติรับทราบผลการพิจารณาด�าเนินการตามรายงานผลการพิจารณาค�าร้องที่มีข้อเสนอแนะนโยบายเรื่องสิทธิชุมชน
            กรณีการด�าเนินโครงการท่าเรือน�้าลึกและเขตเศรษฐกิจทวายในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ที่มีบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง

            ของไทยได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงในการพัฒนาโครงการดังกล่าว ที่มีการกระท�าที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อชาวทวาย
            ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ อาทิ การเผยแพร่ความรู้และสร้างความเข้าใจ
            เกี่ยวกับหลักการ UNGP การผลักดันให้ภาคเอกชนมีมาตรการส่งเสริมสิทธิมนุษยชน การมียุทธศาสตร์การลงทุนของประเทศ
            ที่ระบุสาระส�าคัญเรื่องสิทธิมนุษยชน โดยคณะรัฐมนตรีไม่ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปด�าเนินการตามข้อเสนอแต่อย่างใด



                     นอกจากนี้ การด�าเนินการตามหลักการ UNGP ทั้งในบทบาทหน้าที่ของรัฐในการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน (protect)
            การที่ภาคธุรกิจต้องเคารพสิทธิมนุษยชน (respect) และการเยียวยา (remedy) ยังคงมีช่องว่างหลายประการ กล่าวคือ
            หลายกรณีที่โครงการขนาดใหญ่ของรัฐ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ รวมถึงโครงการของภาคเอกชนที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ

            ได้สร้างผลกระทบทางลบในด้านสิทธิมนุษยชนต่อบุคคลและชุมชนในพื้นที่ตั้งโครงการ ขาดกระบวนการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสีย
            โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างจริงจัง ขาดกระบวนการตรวจสอบผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน (human rights
            due diligence) นอกจากนี้ กฎหมายภายในประเทศที่บังคับใช้อาจไม่เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชนสากล









                                     รายงานผลการประเมินสถานการณ์  147  ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี ๒๕๕๙
   143   144   145   146   147   148   149   150   151   152   153