Page 143 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2559
P. 143

ประสิทธิภาพ และเพิ่มความพยายามคัดกรองเหยื่อค้ามนุษย์เชิงรุก และระบุกรณีการค้ามนุษย์ที่ไม่มีการขู่เข็ญบังคับโดยก�าลัง
        หรือสภาพขัดหนี้ และรัฐบาลควรพยายามเสนอทางเลือกอื่นที่ถูกกฎหมายให้แก่เหยื่อค้ามนุษย์ที่ต้องเผชิญกับการถูกแก้แค้น

        หรือเผชิญกับชีวิตที่ยากล�าบากเมื่อถูกส่งกลับประเทศต้นทาง ดังนั้น การที่ประเทศไทยมีการประกาศใช้พระราชบัญญัติควบคุม
        การขอทาน พ.ศ. ๒๕๕๙ โดยมีบทบัญญัติให้การขอทานถือว่ามีความผิดและมีอัตราโทษจ�าคุกไม่เกิน ๑ เดือน หรือปรับไม่เกิน
        ๑๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจ�าทั้งปรับ และผู้แสดงดนตรีหรือความสามารถอื่นใดไม่ถือเป็นการขอทาน แต่ต้องมีการขึ้นทะเบียน
        รวมถึงการขออนุญาตจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก่อนท�าการแสดง ซึ่งการขึ้นทะเบียนผู้แสดงความสามารถนั้น
        จะช่วยลดปัญหาการน�าเด็กมาแสวงหาผลประโยชน์ลงได้



                 ส่วนกลไกการช่วยเหลือเด็กขอทานที่ยังขาดการบูรณาการและประสิทธิภาพนั้น จะมีผลกระทบต่อการแก้ไขปัญหา
        เด็กขอทานในระยะยาว โดยอาจท�าให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นกับหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งอาจท�าให้การรณรงค์ให้คนในสังคม

        หยุดการให้เงินกับเด็กขอทานไม่ได้ผลบรรลุตามเป้าหมาย เนื่องจากพลเมืองดีมองไม่เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของคุณภาพ
        ชีวิตเด็ก ภายหลังการแจ้งเบาะแสไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ปัจจัยนี้ถือเป็นโจทย์ที่ท้าทายของกระทรวงการพัฒนาสังคม
        และความมั่นคงของมนุษย์ เพราะเป็นปัญหาที่ติดขัดและถูกกล่าวถึงตลอดหลายปีที่ผ่านมา และยังคงไม่ได้รับการแก้ไขอย่าง
        เป็นรูปธรรมนัก ดังนั้น ปัญหาเด็กขอทานตามข้างถนน หน่วยงานภาครัฐจึงไม่ควรละเลยหรือมองว่าเป็นปัญหาที่เล็กน้อย
        เพราะเด็กเหล่านี้ล้วนขาดโอกาสทางการศึกษาและใช้ชีวิตแบบปกติ จึงมีความเสี่ยงที่จะถูกชักจูงหรือก้าวเข้าสู่ปัญหา

        การค้ามนุษย์อื่น ๆ ได้ เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ รวมทั้งนโยบายการจัดระเบียบคนขอทานทั่วประเทศของกระทรวงการพัฒนา
        สังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ควรเดินหน้าต่อไป และมีความชัดเจนในเรื่องของแนวทางการปฏิบัติหรือด�าเนินคดี
        กับผู้ที่พาเด็กมาขอทานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันได้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งการขึ้นทะเบียนกลุ่มผู้แสดงดนตรีหรือแสดงความ

        สามารถต่าง ๆ โดยอาจต้องมีการประเมินผลของมาตรการว่าเป็นไปอย่างราบรื่นหรือไม่ อย่างไร


                 จากสถานการณ์โดยรวมของปัญหาการค้ามนุษย์ในประเทศไทย เห็นได้ว่ามีความพยายามในการแก้ไขปัญหาทั้งในภาครัฐ
        และองค์กรเอกชน และมีการประสานความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งในส่วนของการออกกฎหมาย มาตรการต่าง ๆ การเร่งรัด
        กระบวนการด�าเนินการ โดยน�าข้อเสนอแนะและข้อสังเกตต่าง ๆ ของคณะกรรมการประจ�ากติกาและคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน

        แห่งสหประชาชาติมาเป็นกรอบในการด�าเนินการ ท�าให้สถานการณ์การค้ามนุษย์ในประเทศไทยในปี ๒๕๕๙ คลี่คลายขึ้น น�ามา
        ซึ่งการพิจารณาเปลี่ยนสถานะของประเทศไทยจากการถูกก�าหนดสถานะอยู่ในระดับ Tier ๓ (กลุ่มประเทศที่สถานการณ์
        การค้ามนุษย์ไม่สอดคล้องกับมาตรฐานขั้นต�่าของ TVPA และรัฐบาลประเทศนั้นไม่ด�าเนินการแก้ไขอย่างจริงจัง) ในปี ๒๕๕๘

        มาเป็นสถานะ Tier ๒ (กลุ่มประเทศที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ) ซึ่งหากประเทศไทยมีการด�าเนินนโยบายและมาตรการที่ได้
        จัดให้มีขึ้นแล้วอย่างต่อเนื่องและจริงจังต่อไป ก็จะท�าให้สถานการณ์การค้ามนุษย์ในประเทศไทยคลี่คลายเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน


         ๕.๒  ธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน


        ๕.๒.๑ หลักการสิทธิมนุษยชน

                 การด�าเนินธุรกิจสามารถก่อให้เกิดผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนทั้งทางบวก เช่น การจ้างงาน การสร้างนวัตกรรม
        และบริการต่าง ๆ เพื่อปรับปรุงคุณภาพชีวิตของประชาชน แต่ธุรกิจก็สามารถส่งผลกระทบทางลบ รวมถึงการละเมิดสิทธิ

        ของบุคคลและชุมชนได้ ทั้งในรูปของผลกระทบต่อการด�ารงชีวิตของชุมชน การก่อมลภาวะ การโยกย้ายที่อยู่ การเอาเปรียบ
        แรงงาน เป็นต้น อย่างไรก็ตาม สนธิสัญญาระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนไม่ได้ก�าหนดพันธะผูกพันทางกฎหมายต่อ
        ภาคธุรกิจเช่นบริษัทธุรกิจไว้โดยตรง แต่ได้ก�าหนดให้รัฐเป็นผู้รับผิดชอบ มีพันธกรณีระหว่างประเทศโดยการตรากฎหมาย
                                                                                     ๒๕๕
        และบังคับใช้กฎหมายภายในประเทศที่มีบทบัญญัติให้บริษัทธุรกิจต้องเคารพต่อสิทธิมนุษยชน  หลายกรณีพบว่า แม้ธุรกิจ

                 ๒๕๕  Frequently Asked Questions about the Guiding Principles on Business and Human Rights, United Nations Human Rights Office of the
        High Commissioner


                                 รายงานผลการประเมินสถานการณ์  142  ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี ๒๕๕๙
   138   139   140   141   142   143   144   145   146   147   148