Page 122 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2559
P. 122

ประกันสิทธิในการเข้าถึงการบริการสาธารณสุขของรัฐให้กับประชากรกว่าร้อยละ ๙๙ ของประชากรทั้งหมด
            ของประเทศ ภายใต้หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (Universal Health Coverage – UHC)



                     นอกจากนี้ รัฐควรพัฒนาระบบสุขภาพให้มีความยั่งยืนในระบบการเงินการคลังในระยะยาว โดยปรับปรุงแก้ไข
            พระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ ทั้งในทางข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายในระบบหลักประกันสุขภาพ
            แห่งชาติ ระบบประกันสังคม และระบบสวัสดิการข้าราชการ เพื่อให้เกิดสิทธิในการเข้าถึงอย่างเท่าเทียมกัน และควรจัดให้มีการ
            บริการสาธารณสุขด้านสุขภาพจิตอย่างเพียงพอกับความต้องการ รวมทั้งให้ความส�าคัญในการพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์

            เพื่อรองรับการเข้าถึงสิทธิด้านสุขภาพจิต ถึงแม้ว่ารัฐจะมีนโยบายและมาตรการต่าง ๆ ในการประกันสิทธิด้านสุขภาพ แต่รัฐ
            คงเผชิญกับสิ่งท้าทายในการด�าเนินการเพื่อให้คุ้มครองสิทธิด้านสุขภาพอย่างเท่าเทียมกัน เช่น การคืนสิทธิ (ให้สิทธิ) ขั้นพื้นฐาน
            ด้านสาธารณสุขกับกลุ่มเด็กนักเรียนไร้สัญชาติ และไม่มีหลักฐานทางทะเบียนราษฎร การเข้าถึงหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

            ของกลุ่มคนเปราะบาง กลุ่มคนด้อยโอกาส กลุ่มคนชายขอบ กลุ่มคนที่อาศัยในเขตชนบท กลุ่มเด็กวัยรุ่น และผู้ใช้ยาเสพติด
            การจัดการลดความเหลื่อมล�้าในหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าทั้ง ๓ ระบบ ให้มีการเข้าถึงสิทธิอย่างเท่าเทียมกัน การพัฒนา
            คุณภาพของระบบสุขภาพที่มิได้จ�ากัดเพียงการให้บริการสาธารณสุขเท่านั้น แต่ต้องค�านึงถึงปัจจัยที่มีผลต่อสุขภาพ ทั้งนี้
            การบรรลุมาตรฐานสูงสุดที่เป็นไปได้ในสิทธิด้านสุขภาพต้องอาศัยเจตนารมณ์และการด�าเนินการอย่างมุ่งมั่นของรัฐ เป็นต้น


             ๔.๓  สิทธิในการประกอบอาชีพและการท�างาน
                                                                 ๒๐๕


            ๔.๓.๑ หลักการสิทธิมนุษยชน

                     กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ
            สังคม และวัฒนธรรม (International Covenant on                                                             สถานการณ์ด้านสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม
            Economic, Social and Cultural Rights: ICESCR)
            ซึ่งประเทศไทยเป็นภาคีและมีพันธกรณีที่ต้องปฏิบัติตาม
            ได้ประกันสิทธิในการประกอบอาชีพและการท�างาน ไว้ในข้อ ๖ - ๘

            ได้แก่ (๑) สิทธิในการท�างาน ซึ่งรวมถึงสิทธิของทุกคนที่จะมีโอกาสที่จะ
            หาเลี้ยงชีพโดยงานซึ่งตนเลือกหรือรับอย่างเสรี และจะด�าเนินขั้นตอน
            ที่เหมาะสมในการปกป้องสิทธินี้ (๒) สิทธิในการได้รับเงื่อนไข                                             บทที่

            การท�างานที่เหมาะสมเป็นธรรม ได้แก่ ค่าตอบแทนขั้นต�่าที่ให้แก่                                           ๔
                   ๒๐๖
            ผู้ท�างาน  สภาพการท�างานที่ปลอดภัยและถูกสุขลักษณะ
            โอกาสที่เท่าเทียมกันที่จะได้รับการส่งเสริมให้มีความก้าวหน้า
            ในการท�างานของตนในระดับที่สูงขึ้นโดยไม่ขึ้นอยู่กับข้อพิจารณาใด นอกจากเรื่องอาวุโสและความสามารถ และการพักผ่อน
            เวลาว่างและข้อจ�ากัดที่สมเหตุสมผลในเรื่องเวลาท�างานและวันหยุดเป็นครั้งคราว โดยได้รับค่าตอบแทน ตลอดจนค่าตอบแทน

            ส�าหรับวันหยุดทางการ (๓) สิทธิที่จะก่อตั้งและเข้าร่วมสหภาพแรงงาน อาทิ สิทธิของทุกคนที่จะก่อตั้งสหภาพแรงงานและเข้าร่วม
            สหภาพแรงงานตามที่ตนเลือก เพื่อส่งเสริมและคุ้มครองประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคมของตน ทั้งนี้ โดยขึ้นอยู่กับหลักเกณฑ์
            ขององค์การที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ห้ามจ�ากัด การใช้สิทธินี้ นอกจากที่ได้ก�าหนดโดยกฎหมายและที่จ�าเป็นในสังคมประชาธิปไตย

            เพื่อประโยชน์ของความมั่นคงแห่งชาติ หรือความสงบเรียบร้อยของส่วนรวม หรือการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของผู้อื่น
            สิทธิที่จะนัดหยุดงาน หากใช้สิทธิโดยสอดคล้องกับกฎหมายของประเทศนั้น




                     ๒๐๕  ในที่นี้จะเน้นไปที่สภาพปัญหาแรงงานทั่วไป ส่วนแรงงานข้ามชาติเป็นกลุ่มที่อยู่ในความห่วงกังวลเฉพาะ โปรดดูหัวข้อ ๖.๗
                     ๒๐๖  ประกอบด้วย (๑) ค่าจ้างที่เป็นธรรมและค่าตอบแทนที่เท่าเทียมกันส�าหรับงานที่มีคุณค่าเท่ากัน โดยปราศจากความแตกต่างในเรื่องใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสตรีจะได้รับ
            ประกันสภาพการท�างานที่ไม่ด้อยกว่าบุรุษ โดยได้รับค่าจ้างที่เท่าเทียมกันส�าหรับงานที่เท่าเทียมกัน (๒) ความเป็นอยู่ที่เหมาะสมส�าหรับตนและครอบครัวตามบทบัญญัติแห่งกติกานี้



                                     รายงานผลการประเมินสถานการณ์  121  ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี ๒๕๕๙
   117   118   119   120   121   122   123   124   125   126   127