Page 71 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 71

ส�ำนักงำนคณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติ



                                                       ๓๑

                ค�าร้องที่ ๕๔๔/๒๕๕๔ เรื่อง สิทธิเสรีภาพในชีวิตและร่างกายของเด็ก



                ผู้ร้องกับพวกรวม ๖ คน ได้ร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เมื่อวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๔
            ว่า ผู้อ�านวยการโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งหนึ่งใน จ.สุราษฎร์ธานี (ในขณะนั้น) มีพฤติกรรมใช้ความรุนแรงกับนักเรียน

            และบริหารงานไม่โปร่งใส จึงขอให้ตรวจสอบ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติพิจารณาค�าร้องแล้วเห็นว่าเป็น
            ประเด็นเกี่ยวกับสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกายอันเกี่ยวเนื่องกับสิทธิเด็ก ซึ่งเป็นสิทธิที่ได้รับความคุ้มครองไว้ใน
            รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ จึงเป็นกรณีที่อยู่ในอ�านาจของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน

            แห่งชาติ ตามพระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๓ และมาตรา ๑๕
                จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่ากระทรวงศึกษาธิการ โดยส�านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

            ได้มอบหมายให้ผู้อ�านวยการส�านักบริหารงานการมัธยมศึกษาตอนปลายและคณะ ตรวจสอบข้อเท็จจริงและเสนอ
            แนวทางแก้ไขปัญหา และตั้งคณะกรรมการสอบสวน ซึ่งข้อกล่าวหาของผู้ร้องไม่เป็นความจริงที่ว่าคณะกรรมการ
            ไม่ตรวจสอบข้อมูลจากผู้ร้องและคณะ นอกจากนี้ ส�านักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต ๑๑ ได้แต่งตั้ง

            คณะกรรมการ ๒ ชุดในการตรวจสอบ ซึ่งคณะกรรมการทั้ง ๒ ชุดมีความเห็นว่าผู้ถูกร้องไม่ได้มีพฤติกรรมส่อไปใน
            ทางทุจริต ส่วนประเด็นการกล่าวหาว่าผู้ถูกร้องมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เช่น การใช้ถ้อยค�าหยาบคาย การใช้ความ
            รุนแรงกับนักเรียน เป็นต้น คณะกรรมการเห็นว่าไม่มีหลักฐานว่าผู้ร้องมีพฤติกรรมตามที่กล่าวหา คณะกรรมการ

            สิทธิมนุษยชนแห่งชาติพิจารณาประเด็นค�าร้องแล้ว เห็นว่าตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว)
            พุทธศักราช ๒๕๕๗ มาตรา ๔ ประกอบรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ ว่าด้วยเรื่องสิทธิ
            เสรีภาพในชีวิตและร่างกายอันเกี่ยวเนื่องกับสิทธิเด็กนั้น รัฐธรรมนูญได้รับรองคุ้มครองว่า บุคคลย่อมมีสิทธิและ

            เสรีภาพในชีวิตและร่างกาย การทรมาน ทารุณกรรม หรือการลงโทษด้วยวิธีการโหดร้ายหรือไร้มนุษยธรรม จะ
            กระท�ามิได้ แต่การลงโทษตามค�าพิพากษาหรือตามที่กฎหมายบัญญัติไม่ถือว่าเป็นการลงโทษด้วยวิธีโหดร้าย หรือ

            ไร้มนุษยธรรม และบุคคลย่อมเสมอกันในทางกฎหมายและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกัน ชายหญิง
            มีสิทธิเท่าเทียมกัน การเลือกปฏิบัติเพราะเหตุแห่งความแตกต่างในเรื่องถิ่นก�าเนิด เชื้อชาติ ภาษา เพศ อายุ ความ
            พิการ สภาพทางกายภาพหรือสุขภาพ สถานะบุคคล ฐานะทางเศรษฐกิจและสังคม ความเชื่อทางศาสนา การศึกษา

            อบรม หรือความคิดเห็นทางการเมืองอันไม่ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญจะกระท�ามิได้ ตามมาตรา ๓๐ ประกอบกับ
            พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. ๒๕๔๖ ได้รับรองและคุ้มครองไว้ว่าห้ามมิให้ผู้ใดกระท�าอันเป็นการทารุณกรรม

            ต่อร่างกายหรือจิตใจเด็ก รวมถึงบังคับ ขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนที่ไม่สมควร ท�าให้เด็ก
            มีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระท�าผิด
                  จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีตามค�าร้องเป็นประเด็นการบริหารภายในของหน่วยงานในสังกัด

            ส�านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ซึ่งส�านักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมเขต ๑๑ ได้มีการ
            แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งเป็นไปตามระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
            พ.ศ. ๒๕๔๗ ประกอบกับส�านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ด�าเนินการมอบหมายให้ผู้อ�านวย

            การส�านักบริหารงานการมัธยมศึกษาตอนปลายและคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกชั้นหนึ่ง เพื่อเกิดความ
            เป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย โดยคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้ง ๒ ชุด ต่างมีความเห็นที่สอดคล้องกันว่า กรณี
            ร้องเรียนดังกล่าวไม่มีมูลตามที่ผู้ร้องกล่าวอ้าง ทั้งนี้ ผู้ร้องสามารถใช้สิทธิด�าเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายก�าหนดได้







                                                         70
   66   67   68   69   70   71   72   73   74   75   76