Page 66 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 66
กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
๒๘
ค�าร้องที่ ๔๗๔/๒๕๕๖: กรณีบุตรสาวถูกเพื่อนชายล่วงละเมิดทางเพศในโรงเรียน
ผู้ร้องร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เมื่อ ๑๗ กันยายน ๒๕๕๖ ว่าบุตรสาวผู้ร้อง ชื่อ นางสาว
เอ (นามสมมุติ) อายุ ๑๗ ปี ก�าลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ ที่โรงเรียน ส. ซึ่งเป็นโรงเรียนประจ�าของรัฐแห่งหนึ่ง
ในเขตปริมณฑล เป็นผู้มีความบกพร่องทางการได้ยิน แต่สามารถฟังได้บ้าง หรือพูดได้บ้าง เมื่อมีเครื่องช่วยฟัง
สามารถสื่อสารเป็นค�าสั้น ๆ และมีโรคประจ�าตัว คือ โรคหัวใจรั่ว ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการปฏิบัติของ
โรงเรียน และครูประจ�าชั้น กรณีบุตรสาวถูกเพื่อนชายล่วงละเมิดทางเพศในโรงเรียนและได้แจ้งความด�าเนิน
คดีแล้ว แต่คดีความไม่คืบหน้า
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับสิทธิและเสรีภาพและร่างกาย อัน
เกี่ยวเนื่องกับสิทธิเด็ก สิทธิสตรี และคนพิการ จึงมอบหมายให้คณะอนุกรรมการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน
ด้านเด็ก สตรี และความเสมอภาคของบุคคล ด�าเนินการตรวจสอบ โดยอาศัยอ�านาจตามรัฐธรรมนูญแห่ง
ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๒๕๗ (ซึ่งบังคับใช้ในขณะนั้น) รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
(ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ มาตรา ๔ พระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒
หมวด ๓ ระเบียบคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการตรวจสอบการละเมิด
สิทธิมนุษยชน พ.ศ. ๒๕๔๕ สรุปผลการตรวจสอบ ดังนี้
ผู้ร้องอ้างว่า นางสาวเอ เป็นเด็กพิเศษ บกพร่องทางการได้ยิน มีโรคหัวใจรั่วเป็นโรคประจ�าตัว มีอาการเส้นเลือด
แดงรั่วตรงรอยต่อ แพทย์รักษาโดยการใส่คอยเทียม ถูกเพื่อนนักเรียนชาย ชื่อ นาย ก. (นามสมมุติ) อายุ ๑๘ ปี ข่มขืน
กระท�าช�าเราในห้องน�้าชายของโรงเรียน หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวทางโรงเรียนไม่เคยแจ้งให้ผู้ร้องทราบเกี่ยวกับการ
สอบสวนพฤติกรรมเด็กนักเรียน แต่ผู้ร้องทราบเรื่องจากการสังเกตจากอาการของนางสาวเอ บุตรสาว ซึ่งมีอาการ
ซึมเศร้า ไม่ยอมพูด เก็บตัว ไม่รับประทานอาหาร นางสาวเอได้บอกกับล่ามว่าในช่วงที่เรียนอยู่ในชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ ๑ เคยถูกเพื่อนผู้ชายหลายคนใช้จานตีหัว และแทงด้วยปากกา แต่กรณีถูกข่มขืนในห้องน�้า นางสาวเอยืนยัน
ว่านาย ก. ใช้ก�าลังบังคับกระชากเข้าไปในห้องน�้า และไม่มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับนาย ก. มาก่อน ผู้อ�านวยการ
โรงเรียนชี้แจงว่าขณะเกิดเหตุติดราชการภายนอก จึงไม่ได้ติดต่อผู้ปกครองเข้ามาที่โรงเรียนทันที และในช่วงเวลา
เรียนจะไม่มีครูเดินตรวจห้องน�้าซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ เพราะครูต้องสอนในห้องเรียน ผู้ร้องได้แจ้งความด�าเนินคดี
กับนาย ก. และศาลได้พิพากษาถึงที่สุดลงโทษนาย ก. ตามค�าพิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนนทบุรี
และใบส�าคัญแสดงว่าคดีถึงที่สุด คดีหมายเลขแดงที่ ๗๐/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๕๗
ต่อมา หลังเกิดเหตุครูประจ�าชั้นที่โรงเรียนยังกล่าวหา นางสาวเอ “ว่าเป็นโรคขาดผู้ชายไม่ได้ ต้องน�าไปบ�าบัด
มีฮอร์โมนผิดปกติเพราะเป็นผู้พิการ” เป็นเหตุให้ผู้ร้องแจ้งความร้องทุกข์ในข้อหาหมิ่นประมาท แต่เนื่องจากพยาน
หลักฐานไม่เพียงพอ พนักงานอัยการศาลแขวงนนทบุรีสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา กรณีนางสาวเอ ถูกครูประจ�าชั้นท�าร้าย
ร่างกายโดยใช้ไม้ขนไก่ตี กระชากผมและตีที่หลังบุตรสาวของผู้ร้อง เป็นเหตุให้เกิดอาการชักนั้น ผู้ร้องเห็นว่าแม้ไม่มี
เลือดตกยางออก แต่ส่งผลให้เกิดภาวะทางจิตใจและเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อคอยเทียมที่หัวใจ อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้
65