Page 45 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 45
ส�ำนักงำนคณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติ
จากกรณีบริษัท ซ. ได้เข้าชี้แจงต่อคณะอนุกรรมการคุ้มครองสิทธิด้านเอดส์ ว่าบริษัทมิได้มีนโยบายประกาศใน
เรื่องการบังคับให้ตรวจเชื้อเอชไอวี รวมถึงน�ามาเป็นเงื่อนไขในการไม่รับสมัครบุคคลเข้าท�างาน การกระท�าดังกล่าว
เป็นการกระท�าโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของพนักงานฝ่ายบุคคล ๒ ท่าน และทางบริษัทได้มอบเงินจ�านวน ๕๐,๐๐๐
บาทเป็นสินน�้าใจช่วยเหลือผู้เสียหาย พร้อมแสดงความขอโทษต่อผู้เสียหาย และต่อมาบริษัทดังกล่าวนั้นได้มีหนังสือ
ชี้แจงการด�าเนินการเพิ่มเติมต่อคณะกรรมการฯ ว่า บริษัทได้ยกเลิกการตรวจหาเชื้อเอชไอวีกับพนักงานตั้งแต่วันที่
๑๕ มกราคม ๒๕๕๘
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติพิจารณาทั้งสองค�าร้องแล้วเห็นว่า เป็นกรณีบังคับตรวจเลือดก่อนรับเข้า
ท�างานอันเป็นการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมและอาจละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อผู้ติดเชื้อเอชไอวี จึงไม่ควรปิดกั้นเรื่องการ
ท�างานอันเป็นการเลือกปฏิบัติโดยเกินจ�าเป็นของลักษณะประเภทการจ้างงานที่เป็นสาระส�าคัญ ทั้งที่บุคคลที่ติดเชื้อ
เอชไอวีสามารถปฏิบัติงานได้ในสถานภาพเดียวกันโดยไม่จ�ากัดทางสุขภาพอนามัย
กรณีของบริษัท ท. หลังจากเข้าชี้แจงกับคณะกรรมการฯแล้วรับว่าจะด�าเนินการประชุมและรับข้อเสนอแนะ
ของคณะอนุกรรมการไปเปลี่ยนแปลงนโยบายการจ้างงานของบริษัท ส่วนกรณีของบริษัท ซ. นั้นได้มีหนังสือแจ้ง
ผลการด�าเนินงานว่าได้ยกเลิกนโยบายตรวจเลือดหาเชื้อเอชไอวีก่อนรับบุคคลเข้าท�างานแล้วตั้งแต่ ๑๕ มกราคม
๒๕๕๘ เป็นต้นมา โดยที่ในปัจจุบันนี้กฎหมายแรงงานหรือระเบียบที่เกี่ยวกับสถานประกอบการยังไม่มีข้อก�าหนด
ในเรื่องการเข้าท�างานของผู้ติดเชื้อเอชไอวี
ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายต่อคณะกรรมการคุ้มครองสวัสดิภาพแรงงานให้ความส�าคัญกับการเลือกปฏิบัติในการ
ประกอบอาชีพของผู้ติดเชื้อเอชไอวี โดยควรด�าเนินการให้ความส�าคัญกับปัญหาการเลือกปฏิบัติมากขึ้น ตลอดจน
ผลักดันให้มาตรการป้องกันการเลือกปฏิบัติที่มีอยู่เกิดผลในทางปฏิบัติ โดยเฉพาะแนวทางปฏิบัติแห่งชาติว่าด้วย
การป้องกันและบริหารจัดการด้านเอดส์ในสถานที่ท�างาน โดยให้ความส�าคัญกับมาตรการเพื่อหาเชื้อเอชไอวีก่อน
รับเข้าท�างาน การปกปิดข้อมูลส่วนบุคคล การจัดบริการที่จ�าเป็นต่อกลุ่มผู้ติดเชื้อเอชไอวี การจัดที่พักและรูปแบบ
การท�างานที่เหมาะสม เป็นต้น
๗
ค�าร้องที่ ๔๕๙/๒๕๕๖: กรณีข้าราชการส่วนท้องถิ่นร้องเรียนว่า ได้รับเงินเดือน การขอ
พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไม่เท่าเทียมและไม่เสมอภาคกับข้าราชการส่วนท้องถิ่นบาง
ต�าแหน่งและข้าราชการประเภทอื่น
ผู้ร้องร้องเรียนว่าข้าราชการส่วนท้องถิ่นที่ได้รับเงินเดือน การขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไม่เท่าเทียม
และไม่เสมอภาคกับข้าราชการส่วนท้องถิ่นบางต�าแหน่งและข้าราชการประเภทอื่น กล่าวคือ ข้าราชการส่วนท้องถิ่น
ได้รับเงินเดือนตามหลักเกณฑ์ที่ก�าหนดมาตรฐานกลางตามประกาศคณะกรรมการบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น
ซึ่งโดยทั่วไปจะมีสิทธิรับเงินเดือนเพียงอันดับเดียวเท่านั้น แต่มีพนักงานส่วนท้องถิ่นบางต�าแหน่งได้รับเงินเดือน
มากกว่า ๑ อันดับ และข้าราชการประเภทอื่น เช่น ข้าราชการต�ารวจ ข้าราชการทหาร ข้าราชการครู นอกจากนี้
ยังเห็นว่าหลักเกณฑ์การให้พนักงานส่วนท้องถิ่นขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ก็ไม่เท่าเทียมกับข้าราชการ
ประเภทอื่น จึงขอให้ตรวจสอบ
44