Page 43 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 43
ส�ำนักงำนคณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติ
๕
ค�าร้องที่ ๑๒๔/๒๕๕๔: กรณีผู้ร้องอ้างว่าถูกห้ามไม่ให้แต่งกายตามหลักศาสนา
ผู้ร้องนับถือศาสนาอิสลาม จบการศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยของรัฐแห่งหนึ่ง และต้องท�างาน
ที่โรงพยาบาลในสังกัดของมหาวิทยาลัยเป็นเวลา ๒ ปี ตามที่ได้ท�าสัญญาไว้กับมหาวิทยาลัย แต่โรงพยาบาลห้าม
ไม่ให้ผู้ร้องคลุมฮิญาบและแต่งกายปกปิดร่างกายขณะท�างาน ซึ่งข้อห้ามดังกล่าวขัดกับหลักศาสนาอิสลาม
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติพิจารณาค�าร้องแล้วเห็นว่าเรื่องที่ผู้ร้องกล่าวอ้างเป็นประเด็นเกี่ยวกับ
สิทธิเสรีภาพของบุคคลอันเป็นสิทธิเสรีภาพที่ได้รับการรับรองคุ้มครองไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
พุทธศักราช พ.ศ. ๒๕๕๐ จึงเป็นกรณีที่อยู่ในอ�านาจของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และได้มอบหมาย
ให้คณะอนุกรรมการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านเด็ก สตรี และความเสมอภาคของบุคคลพิจารณา โดย
อาศัยอ�านาจตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๒๕๗ พระราชบัญญัติคณะกรรมการ
สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๓ และมาตรา ๑๕ และระเบียบคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ว่าด้วยหลักเกณฑ์ในการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน พ.ศ. ๒๕๔๕
คณะกรรมการฯ ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่าโรงพยาบาลได้มีระเบียบเครื่องแต่งกายของเจ้าหน้าที่ฝ่าย
การพยาบาลฯ ตามประกาศฝ่ายการพยาบาลโรงพยาบาล เรื่อง ระเบียบเครื่องแต่งกาย แต่ในกรณีการปฏิบัติงาน
ของพยาบาลที่เป็นมุสลิม ฝ่ายการพยาบาลฯ ยังไม่มีระเบียบหรือวิธีปฏิบัติที่เกี่ยวข้องในเรื่องการแต่งกายเป็นการ
เฉพาะ
กระทรวงสาธารณสุขมีประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การแต่งกายของเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้าน
สาธารณสุข ๓ ฉบับ ได้แก่ ๑.ประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องการแต่งกายของแพทย์ ทันตแพทย์ และเภสัชกร
พ.ศ. ๒๕๔๒ ๒.ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การแต่งกายของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานด้านการพยาบาลและการ
ผดุงครรภ์ พ.ศ. ๒๕๔๒ และ ๓.ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การแต่งกายของพนักงานผู้ช่วยกายภาพบ�าบัด
พ.ศ. ๒๕๔๒ และได้มีการแจ้งเวียนแก่หน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้การแต่งกายของเจ้าหน้าที่เป็นไปตามประกาศของ
กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งขอให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติตามระเบียบดังกล่าว โดยเฉพาะกรณีผู้นับถือศาสนาอิสลามที่
อนุญาตให้แต่งเครื่องแบบตามประกาศของกระทรวงฯ และให้ใช้ผ้าคลุมฮิญาบตามระเบียบของกระทรวงฯ และแจ้ง
เจ้าหน้าที่ถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ ก. ว่าคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัย ม. โรงพยาบาล ศ. อนุญาต
ให้นักศึกษาพยาบาลที่นับถือศาสนาอิสลามแต่งกายตามหลักศาสนาโดยแต่งชุดคลุมศีรษะ (ฮิญาบ) ขณะฝึกปฏิบัติ
บนหอผู้ป่วยได้ ตามหนังสือคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัย ม.เรื่องอนุญาตให้นักศึกษาพยาบาลศาสตร์แต่งชุด
คลุมศีรษะ (ฮิญาบ) ขณะฝึกปฏิบัติบนหอผู้ป่วย
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้พิจารณาค�าร้องและความเห็นของคณะอนุกรรมการฯ แล้ว
เห็นว่า สิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลนั้น รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ ได้รับรองว่า
บุคคลย่อมได้รับความคุ้มครองมิให้รัฐกระท�าการใด ๆ อันเป็นการรอนสิทธิหรือเสียประโยชน์อันควรไว้
เพราะเหตุที่ถือศาสนา นิกายของศาสนา ลัทธินิยมทางศาสนา หรือปฏิบัติตามศาสนธรรม ศาสนบัญญัติ
หรือปฏิบัติพิธีกรรมตามความเชื่อแตกต่างจากบุคคลอื่น ซึ่งคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัย ม. ได้
มีหนังสืออนุญาตให้ผู้ร้องซึ่งในขณะศึกษาอยู่ได้แต่งกายตามหลักศาสนาอิสลามขณะฝึกปฏิบัติบนหอผู้ป่วย เมื่อวันที่
42