Page 40 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 40
กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
และต่อมา ส�านักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้มีหนังสือขอยกเว้นหลักเกณฑ์ดังกล่าวในต�าแหน่งสายงานแพทย์
และทันตแพทย์ โดยขอให้การก�าหนดต�าแหน่งสูงขึ้นของทั้งสองต�าแหน่งนี้เป็นระดับเชี่ยวชาญโดยไม่ต้องน�าต�าแหน่ง
ว่างมายุบรวม ซึ่งส�านักงาน ก.พ.อนุมัติตามที่ส�านักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขขอเฉพาะต�าแหน่งสายงานแพทย์
ท�าให้ต�าแหน่งสายงานแพทย์ที่ไม่ต้องน�าต�าแหน่งว่างมายุบรวมนั้น เป็นกรณีที่ส�ำนักงำน ก.พ. ปฏิบัติต่อบุคลำกร
ต�ำแหน่งสำยงำนอื่นที่ท�ำหน้ำที่ให้บริกำรสำธำรณสุขโดยไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะระหว่างบุคลากรที่มีสถานะเป็น
แพทย์ กับบุคลากรที่มีสถานะอื่น คือ ทันตแพทย์ เภสัชกร พยาบาลวิชาชีพ นักรังสีการแพทย์ นักเทคนิคการแพทย์
นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ นักกายภาพบ�าบัด นักกิจกรรมบ�าบัด นักเวชศาสตร์การสื่อความหมาย นักจิตวิทยา
นักจิตวิทยาคลินิก และนักวิชาการสาธารณสุข ท�าให้ผู้ร้องกับพวกได้รับผลกระทบในเรื่องความก้าวหน้าในสายงาน
พยาบาล ทั้งที่เป็นบุคลากรต�าแหน่งสายงานที่ท�าหน้าที่ให้บริการสาธารณสุขเช่นเดียวกัน โดยที่สายงานพยาบาล
มิได้ประสงค์ที่จะต้องเป็นระดับเชี่ยวชาญทุกคนดังเช่นสายงานแพทย์ เพียงเพื่อให้พิจารณาปรับต�าแหน่งหัวหน้า
พยาบาล (พยาบาลวิชาชีพ ๘ วช.) ในส่วนที่ยังมิได้ด�าเนินการในเรื่องโรงพยาบาลชุมชนซึ่งมีเพียงโรงพยาบาลละ ๑
ต�าแหน่ง ให้ครบถ้วนเท่านั้น นอกจากนี้ การที่ส�านักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้มีหนังสือขอให้ส่วนราชการใน
สังกัดระงับการใช้ต�าแหน่งว่าง เพื่อน�าต�าแหน่งว่างดังกล่าวมาใช้บรรจุแต่งตั้งนักเรียนทุนของรัฐบาลในสายงานแพทย์
และทันตแพทย์ เป็นกำรปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมต่อบุคลำกรต�ำแหน่งสำยงำนอื่นที่ท�ำหน้ำที่ให้บริกำรสำธำรณสุข
๒
ค�าร้องที่ ๔๘๗/๒๕๕๔: กรณีค�าสาบานตนก่อนเบิกความในศาลของแต่ละศาสนามีความ
แตกต่างกัน
ผู้ร้องอ้างว่า การสาบานตนก่อนเบิกความตามข้อความในแบบพิมพ์ของศาล ซึ่งให้ผู้ร้องสาบานว่า “หาก
ข้าพเจ้า (พยาน) เอาความเท็จมากล่าวอ้างแม้แต่น้อย ขอภยันตรายและความวิบัติทั้งปวงจงเกิดแก่ข้าพเจ้า (พยาน)
และครอบครัว (พยาน) โดยพลัน” เป็นการละเมิดสิทธิของบุคคลในครอบครัว ขัดต่อบทบัญญัติมาตรา ๓๕ ของ
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐
คณะอนุกรรมการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านกฎหมายและการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม พิจารณาข้อ
เท็จจริงประกอบกับหลักกฎหมาย เช่น รัฐธรรมนูญ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๑๒ วรรคหนึ่ง
และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๗๑ แล้วเห็นว่า จากบทบัญญัติกฎหมายดังกล่าว ผู้ที่จะให้การต่อศาลต้องกล่าว
ค�าสาบานตนหรือค�าปฏิญาณก่อนเบิกความ หากไม่ปฏิบัติตามต้องได้รับโทษตามที่ประมวลกฎหมายอาญาบัญญัติ
ไว้ ซึ่งในการกล่าวค�าสาบานหรือค�าปฏิญาณจะเป็นไปตามลัทธิทางศาสนาหรือจารีตประเพณีที่แต่ละคนนับถือ และ
เป็นเรื่องความน่าเชื่อถือของพยาน ซึ่งศาลได้ก�าหนดรูปแบบตัวอย่างค�าสาบานของแต่ละศาสนาเพื่อความสะดวก
คณะอนุกรรมการฯ มีข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในภาพรวมต่อส�านักงานศาลยุติธรรม ส�านักงานศาลปกครอง และ
กรมพระธรรมนูญ เพื่อพิจารณาถึงรูปแบบและแนวทางการปฏิบัติที่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้เกิดความเป็น
ระบบในทุกชั้นศาลและเพื่อความเป็นสากล โดยควรที่จะเป็นการเฉพาะตัวของบุคคลที่กล่าวค�าสาบาน ซึ่งไม่ควรมี
การอ้างถึงครอบครัวในทุกศาสนา เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรา ๓๐ และ ๓๕ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
พุทธศักราช ๒๕๕๐ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมีมติเห็นด้วยกับความเห็นและข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย
ของคณะอนุกรรมการฯ (รายงานผลการพิจารณา ที่ ๖๔๗/๒๕๕๕)
39