Page 158 - รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการศึกษาวิจัยแผนกลยุทธ์ด้านธุรกิจและสิทธิมนุษยชนของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2562
P. 158
รายงานฉบับสมบูรณ์ (Final Report)
แผนกลยุทธ์ด้านธุรกิจและสิทธิมนุษยชนของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2562
4.1.3 แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ของสํานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม
แห่งชาติ เป็นเครื่องมือสําคัญของภาครัฐในการกําหนดทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ใน
อนาคตในกรอบระยะเวลา 5 ปี ซึ่งในปัจจุบันได้มีการดําเนินการมาเป็นรอบที่ 11 โดยในอดีตนั้น แผนพัฒนา
เศรษฐกิจจะเป็นเครื่องมือหลักในการกําหนดทิศทางในอนาคตของเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ แต่ใน
แผนพัฒนา ฯ ฉบับใหม่ (ฉบับที่ 12 พ.ศ. 2560-2564) นั้น ภาครัฐได้มีการจัดทําแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
เพื่อเป็นแนวทางในการผลักดันเศรษฐกิจในระยะยาวขึ้น จึงทําให้แผนพัฒนา ฯ ฉบับที่ 12 เป็นหนึ่งในกลไก
การผลักดันเศรษฐกิจในระยะปานกลาง เพื่อนําไปสู่ภาพอนาคตตามแผนยุทธศาสตร์ชาติอีกทอดหนึ่ง
ภาพรวมของแผนพัฒนา ฯ ฉบับที่ 12 ได้แบ่งการนําเสนอออกเป็น 5 ส่วน ได้แก่
ส่วนที่ 1 ภาพรวมการพัฒนาในช่วงแผนพัฒนา ฯ ฉบับที่ 12
ส่วนที่ 2 การประเมินสภาพแวดล้อมการพัฒนาประเทศ
ส่วนที่ 3 วัตถุประสงค์และเป้าหมายการพัฒนาในช่วงแผนพัฒนา ฯ ฉบับที่ 12
ส่วนที่ 4 ยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ
ส่วนที่ 5 การขับเคลื่อนแผนพัฒนา ฯ ฉบับที่ 12 สู่การปฏิบัติ
คณะผู้วิจัยได้ทําการทบทวนวรรณกรรม และได้สังเคราะห์เนื้อหาสําคัญที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับประเด็น
ด้านธุรกิจและสิทธิมนุษยชน ซึ่งสามารถสรุปได้ ดังนี้
1. สถานการณ์ปัจจุบันทางด้านมหภาค สามารถแบ่งการวิเคราะห์ออกได้เป็น 4 มิติ ซึ่งมี
รายละเอียด ดังนี้
1.1 มิติทางด้านเศรษฐกิจ
1.1.1 แม้ว่าข้อตกลงทางการค้าจะมุ่งเน้นในการเปิดเสรี ซึ่งทําให้เกิดการลดภาษีสําหรับสินค้า
นําเข้าและส่งออกมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน ก็พบว่าต่างประเทศมีการใช้มาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่
ภาษีเพิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ การอ้างถึงปัญหาด้านสิทธิมนุษยชน จึงทําให้ประเทศไทยจะต้องมีการ
เอาใจใส่ดูแลเพื่อปรับปรุงกฎระเบียบ สภาพแวดล้อมให้ตอบสนองต่อประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนมากยิ่งขึ้น
1.1.2 องค์ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่สั่งสมมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับ
ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์พื้นฐานแขนงใหม่ จะเป็นโอกาสที่ทําให้ธุรกิจสามารถที่จะบริหารจัดการห่วงโซ่
การผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งคณะผู้วิจัยมองว่าการผลักดันเพื่อแก้ไขปัญหาด้านสิทธิมนุษยชน
ผ่านช่องทางการสร้างความเข้มแข็งของห่วงโซ่การผลิตก็จะเป็นแนวทางหนึ่งที่มีความเป็นไปได้มากยิ่งขึ้น ใน
ขณะเดียวกัน การเข้าถึงข้อมูลและองค์ความรู้ทางอินเทอร์เน็ตยังทําให้เกิดพลังของประชาชนในการเข้ามา
ตรวจสอบประเด็นปัญหาทางด้านสังคมต่างๆ ซึ่งรวมไปถึงปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนในภาพธุรกิจ จึงเป็น
4-11

