Page 83 - รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ประจำปี 2558
P. 83

รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ปี ๒๕๕๘

        ๓.๓ ค�าพิพากษา

        ในปี ๒๕๕๘ ศาลอุทธรณ์มีค�าพิพากษาคดีที่เคยสร้างความสะเทือน
        ขวัญต่อประชาชน คือ คดีข่มขืนและฆาตกรรมเด็กหญิงบนขบวน
        รถไฟสายนครศรีธรรมราช - กรุงเทพฯ โดยศาลอุทธรณ์พิพากษา
        ยืนตามศาลชั้นต้นลงโทษประหารชีวิตจ�าเลยที่ ๑ และจ�าเลยที่ ๑
        ไม่ใช้สิทธิฎีกาคดีจึงถึงที่สุดโดยจ�าเลยที่ ๑ ต้องโทษตามค�าพิพากษา
        ศาลอุทธรณ์ให้ประหารชีวิต อย่างไรก็ตาม ห้ามมิให้บังคับคดี
        ตามค�าพิพากษาจนกว่าจะได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติในประมวล
        กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาว่าด้วยอภัยโทษ
                                                             ความรู้ด้านกฎหมายสิทธิมนุษยชนแก่บุคลากรในกระบวนการ
        ๓.๔ การออกกฎหมายที่มีโทษประหารชีวิต
                                                             ยุติธรรม  และประชาชน  โดยเฉพาะแนวคิดเรื่องศักดิ์ศรี
        การออกกฎหมายที่มีโทษประหารชีวิตได้มีการออกกฎหมายส�าหรับ   ความเป็นมนุษย์ และสิทธิในการมีชีวิตซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน
        ลงโทษแก่ผู้กระท�าความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ   (๒) ประกาศพักการประหารชีวิตในทางปฏิบัติอย่างเป็นทางการ
        ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๘ ๗๔   ทันที และสนับสนุนมติพักการใช้โทษประหารชีวิตของที่ประชุม
        ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยก�าหนดโทษประหารชีวิตไว้ในพระราชบัญญัติ   สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (๓) เสนอแก้ไขกฎหมายเพื่อ
        ดังกล่าว และพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดบางประการต่อการ  ลดจ�านวนความผิดอาญาที่มีบทลงโทษประหารชีวิต โดยเฉพาะ
                           ๗๕
        เดินอากาศ พ.ศ. ๒๕๕๘  เดิมมีการก�าหนดโทษประหารชีวิต   อาชญากรรมที่ไม่ถือเป็นอาชญากรรมอุกฉกรรจ์ที่สุดตามข้อ
        และเมื่อมีการออกกฎหมายใหม่ก็ยังคงโทษประหารชีวิต      บทที่  ๖  วรรคสอง  ของกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิ

        ๓.๕ แผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ฉบับที่ ๓ (พ.ศ. ๒๕๕๗ – ๒๕๖๑) ๗๖   พลเมืองและสิทธิทางการเมือง (๔) ลงนามและให้สัตยาบัน
        แผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ฉบับที่ ๓ ด้านกระบวนการยุติธรรม   รับรองพิธีสารเลือกรับ ฉบับที่ ๒ ของกติการะหว่างประเทศว่าด้วย
        ก�าหนดข้อเสนอแนะเชิงปฏิบัติการให้มีการเปลี่ยนแปลงโทษ  สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง เรื่อง มุ่งยกเลิกโทษประหารชีวิต
        ประหารชีวิตให้เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาเป็นโทษจ�าคุก  ภายในปี ๒๕๖๑ และ (๕) สร้างเรือนจ�าความมั่นคงสูงเพื่อรองรับ
        ตลอดชีวิต เพื่อสานต่อวัตถุประสงค์ในการยกระดับกฎหมาย  นักโทษประเภทคดีอุกฉกรรจ์
        ที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชนภายในประเทศให้สอดคล้องกับ
        มาตรฐานสิทธิมนุษยชนสากล โดยด�าเนินการ (๑) เผยแพร่ให้



          ๔    การประเมินสถานการณ์

        สถานการณ์โทษประหารชีวิตในประเทศไทยสามารถพิจารณาจากความคิดเห็นของสังคมต่อโทษประหารชีวิต กฎหมายที่ก�าหนดโทษประหาร
        ชีวิต แผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และสถิติโทษประหารชีวิตในประเทศไทย ดังนี้

        ๔.๑  ในขณะที่ประเทศไทยก�าหนดแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ   แต่ในปี ๒๕๕๘ กลับออกพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่า
        ฉบับที่ ๓ (พ.ศ. ๒๕๕๗ - ๒๕๖๑) ซึ่งมีขั้นตอนการด�าเนินการให้  ด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๘
        เสนอแก้ไขกฎหมายเพื่อลดจ�านวนความผิดทางอาญาที่มีบทลงโทษ  ก�าหนดฐานความผิดใหม่ที่มีโทษประหารชีวิต ซึ่งแต่เดิมไม่มี กล่าวคือ
        ประหารชีวิต โดยเฉพาะอาชญากรรมที่ไม่ถือเป็นอาชญากรรม  กรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศ หรือเจ้าหน้าที่
        อุกฉกรรจ์ที่สุด ลงนามและให้สัตยาบันรับรองพิธีสารเลือกรับ    ขององค์การระหว่างประเทศ เรียก รับ หรือยอมจะกระท�าการหรือ
        ฉบับที่ ๒ ของกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและ   ไม่กระท�าการอย่างใดในต�าแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบ
        สิทธิทางการเมือง เรื่อง มุ่งยกเลิกโทษประหารชีวิต ภายใน ปี ๒๕๖๑   ด้วยหน้าที่ และยังคงโทษประหารชีวิตไว้ในพระราชบัญญัติว่าด้วย


        ๗๔   มาตรา ๑๒๓/๒๒ ผู้ใดเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศ หรือเจ้าหน้าที่ขององค์การระหว่างประเทศ เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดส�าหรับตนเอง
        หรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระท�าการหรือไม่กระท�าการอย่างใดในต�าแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ต้องระวางโทษจ�าคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจ�าคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่
        หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือประหารชีวิต
        ๗๕   มาตรา ๑๘ ผู้ใดกระท�าการอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษประหารชีวิต จ�าคุกตลอดชีวิต หรือจ�าคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่หกแสนบาทถึงแปดแสนบาท (๑)
        ท�าลายอากาศยานในระหว่างบริการ และ (๒) ท�าให้อากาศยานในระหว่างบริการเสียหายจนเป็นเหตุให้อากาศยานนั้นไม่สามารถท�าการบินได้ หรือเป็นเหตุหรือน่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อ
        ความปลอดภัยของอากาศยานในระหว่างการบิน
        ๗๖  แผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติฉบับที่ ๓ (พ.ศ. ๒๕๕๗ –๒๕๖๑) กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม กันยายน ๒๕๕๖, น.๓๘
         53
   78   79   80   81   82   83   84   85   86   87   88