Page 87 - รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ประจำปี 2558
P. 87

รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ปี ๒๕๕๘



          ๔    การประเมินสถานการณ์


        เมื่อพิจารณาสถานการณ์ในรอบปีที่ผ่านมา เห็นได้ว่ารัฐบาลยังมี
        การด�าเนินการบังคับใช้กฎหมายที่จ�ากัดสิทธิและเสรีภาพในการ
        แสดงความเห็นทางการเมืองอย่างเข้มข้น หลายกรณีพบว่าเป็นการ
        บังคับใช้กฎหมายในลักษณะป้องปรามก่อนที่จะมีการกระท�าผิด
        ในบางกรณี เจ้าหน้าที่ของรัฐได้เชื่อมโยงการตรวจสอบการกระท�า
        ของเจ้าหน้าที่รัฐที่ประชาชนสงสัยว่าอาจมีการทุจริตคอร์รัปชัน
        กับการเคลื่อนไหวทางการเมือง ดังกรณีกิจกรรม “นั่งรถไฟไป
        อุทยานราชภักดิ์ ส่องแสงหากลโกง” ซึ่งจัดโดยกลุ่มประชาธิปไตย
        ศึกษา ในการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เรียกร้องให้ตรวจสอบ
        ข้อสงสัยเกี่ยวกับการทุจริตในการก่อสร้างโครงการ และถูกแจ้ง
        ข้อหาผู้จัดกิจกรรมดังกล่าว จ�านวน ๖ คน ฐานขัดค�าสั่งของ
        คสช. ร่วมกันชุมนุมทางการเมืองเกิน ๕ คนขึ้นไป นอกจากนี้
        การจ�ากัดเสรีภาพในการแสดงความเห็นและการแสดงออก
        ยังกระทบถึงการแสดงออกของบุคคลและชุมชนที่ได้รับ
        ความเดือดร้อนจากนโยบาย มาตรการและโครงการต่าง ๆ
        ทั้งของรัฐและของเอกชน เช่น การห้ามการประชุมของชาวบ้าน
        เรื่องที่ดิน การห้ามการประชุม เรื่อง “ผลกระทบจากโรงไฟฟ้า
        ถ่านหิน ต่อชุมชนและทรัพยากรธรรมชาติในเขตพะลึน” จัดโดย
        มูลนิธิสิทธิมนุษยชนแห่งแดนมอญ (Human Rights Foundation
        of Mon Land – HURFOM)  และมูลนิธิฟื้นฟูชีวิตและธรรมชาติ
        (FER/TERRA) และการจับกุมการชุมนุมของกลุ่มผู้ค้าลอตเตอรี่
        รายย่อย อ�าเภอวังสะพุง จังหวัดเลย โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่าขัดค�าสั่ง
        คสช. (กรณีจัดกิจกรรม) หรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการ  คณะกรรมการประจ�ากติกา ICCPR ให้ความส�าคัญต่อเสรีภาพ
        ชุมนุมสาธารณะ (กรณีชุมนุม) แต่ในบางกรณี ยังมีการชุมนุมของ  ในการแสดงความเห็นและการแสดงออกว่ามีความจ�าเป็นต่อความ
        บางกลุ่มเกิดขึ้นได้บ้าง อาทิ การชุมนุมของกลุ่มเกษตรกรและการ  โปร่งใสและการตรวจสอบได้ของรัฐ และจ�าเป็นต่อการประกัน
        ชุมนุมชาวประมงหลังมีมาตรการห้ามเรือท�าประมงผิดกฎหมาย     สิทธิต่าง ๆ ในกติกา ICCPR และได้วางแนวทางการรอนสิทธิ
        จึงเห็นได้ว่า หลายกรณี มีการจ�ากัดสิทธิและเสรีภาพในการ  ในเสรีภาพในการแสดงความเห็นและการแสดงออกว่า การรอนสิทธิ
        แสดงออกค่อนข้างกว้างขวาง และเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ใช้  ด้วยเหตุแห่งความมั่นคงของชาติหรือความสงบเรียบร้อยของ
        ดุลพินิจที่มีผลให้เกิดการปฏิบัติที่แตกต่างกันในเรื่องต่าง ๆ    สาธารณะ (ordre public) หรือด้วยเหตุแห่งสาธารณสุขและ
                                                             ศีลธรรม นั้น รัฐจ�าเป็นต้องด�าเนินการด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง
                                                             และจ�าเป็นต่อวัตถุประสงค์อันชอบธรรม การจ�ากัดสิทธิด้วยเหตุ
                                                             ดังกล่าวต้องเป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด (strict requirements)
                                                             ได้สัดส่วน มีความจ�าเพาะของกรณีที่จะส่งผลกระทบต่อเหตุเช่นว่า
                                                             (in specific and individualized fashion the precise
                                                             nature  of  the  threat)  มีความเชื่อมโยงโดยตรงและส่งผล
                                                             ชัดเจนจากการใช้สิทธินั้น (a direct and immediate
                                                             connectionbetween the expression and the threat)
                                                             และต้องมั่นใจว่าไม่เป็นการจ�ากัดข้อมูลสู่สาธารณะของสื่อ
                                                             นักวิชาการนักสิ่งแวดล้อม หรือนักปกป้องสิทธิมนุษยชนที่เป็นไป
                                                             เพื่อประโยชน์ของสาธารณะอย่างชอบธรรม






         57
   82   83   84   85   86   87   88   89   90   91   92