Page 46 - รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ประจำปี 2558
P. 46
รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ปี ๒๕๕๘
สิทธิด้านสุขภาพ รัฐได้จัดให้มีการบริการด้านสุขภาพให้กับประชาชน ๓ ประเภท ได้แก่ ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ระบบประกัน
๑๖
สังคม และระบบสวัสดิการข้าราชการ รวมถึงสิทธิในการเข้ารับการบริการในกรณีอุบัติเหตุและฉุกเฉินโดยไม่ต้องถูกซักถาม และรัฐยังให้
ความส�าคัญกับสิทธิด้านสุขภาพตามที่ได้แถลงนโยบายการบริหารราชการแผ่นดินต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เมื่อวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๕๗
โดยก�าหนดให้มีการยกระดับคุณภาพการให้บริการด้านสาธารณสุข และสุขภาพของประชาชน ที่เน้นการวางรากฐาน การพัฒนา และการ
เสริมความเข้มแข็งในการบริการอย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ ๑๗ และจากสถานการณ์ที่ประเทศไทยก�าลังเข้าสู่สภาวะคนสูงวัยเพิ่มมากขึ้นนั้น
ท�าให้เกิดแนวโน้มความเสี่ยงในการบริหารจัดการระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้าทั้ง ๓ ระบบ ซึ่งได้แก่ ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
ระบบประกันสังคม และระบบสวัสดิการข้าราชการ ดังนั้น ในอนาคตรัฐบาลจึงมีแนวคิดในการหาแนวทางใหม่ในการบริหารจัดการสิทธิ
ในการเข้ารับบริการด้านสุขภาพ ในรูปแบบการท�าประกันสุขภาพ โดยอาจให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ
ด้านการเข้าถึงการบริการด้านสุขภาพนั้น เป็นสิทธิของทุกคนในประเทศไทย โดยมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๕๘
ได้คืนสิทธิขั้นพื้นฐานด้านสาธารณสุขให้กับชนกลุ่มน้อยและบุตรที่อพยพเข้ามาในประเทศไทย และกลุ่มบุคคลที่มีปัญหาด้านสถานะ
และสิทธิบุคคล แต่อย่างไรก็ดี การเข้าถึงระบบการรักษาพยาบาล โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่อยู่ห่างไกล กลุ่มเปราะบาง เช่น คนพิการ
แรงงานข้ามชาติและผู้ติดตาม กลุ่มที่อยู่นอกระบบ ตลอดจนคุณภาพ ความพอเพียงของการให้บริการ รวมทั้งความเหลื่อมล�้า
ในการได้รับสิทธิที่แตกต่างกันของระบบหลักประกันสุขภาพทั้ง ๓ ระบบ ยังคงเป็นปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขและพัฒนาให้ดีขึ้นต่อไป
สิทธิในการท�างาน รัฐได้น�าข้อเสนอแนะของประเทศ
สมาชิกตามกลไก Universal Periodic Review (UPR)
มาด�าเนินการในเรื่องการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิ บทที่ ๒ ภาพรวมสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ปี ๒๕๕๘
ด้านการท�างานให้ได้มาตรฐาน อาทิ การประกันค่าแรงขั้นต�่า
ความปลอดภัยในการท�างาน และการประกันการเข้าถึงบริการ
ด้านสุขภาพ โดยเฉพาะกับกลุ่มเปราะบาง เช่น แรงงานเด็ก
สตรีและคนพิการ และรัฐได้พยายามอย่างต่อเนื่องในการ
ขจัดปัญหาการค้ามนุษย์ อีกทั้งได้ให้ค�ามั่นโดยสมัครใจ
(Pledge) ต่อที่ประชุม UPR ในการที่จะเข้าเป็นภาคี
อนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ ๘๗ และ
๙๘ รวมทั้งจะพัฒนาการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของแรงงาน
การป้องกันการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเพิ่ม
ประสิทธิภาพของระบบตรวจสอบแรงงานทั้งระบบโดย
สถานการณ์ทั่วไปของแรงงานของไทย ปรากฏดังนี้
๑๖ แผนสิทธิมนุษยชนด้านสาธารณสุข แผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ฉบับที่ ๓ (พ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๖๑) กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม, น. ๑๘
๑๗ นโยบายข้อ ๕ การยกระดับคุณภาพบริการด้านสาธารณสุขและสุขภาพของประชาชน รายงานผลการด�าเนินงานของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ครบรอบ
๑ ปี (๑๒ กันยายน ๒๕๕๗ - ๑๒ กันยายน ๒๕๕๘), น. ๑๖๔
16