Page 41 - รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ประจำปี 2558
P. 41
รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ปี ๒๕๕๘
กสม. ได้จัดท�ารายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบาย โทษประหารชีวิต อย่างไรก็ดี ถ้าสังคมไทยยังมีแนวความคิดว่า
หรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง โทษประหารชีวิตและ โทษประหารชีวิตเป็นการป้องปรามไม่ให้เกิดการกระท�าความผิด
หลักสิทธิมนุษยชน ต่อคณะรัฐมนตรี กระทรวงยุติธรรม กระทรวง และท�าให้ผู้กระท�าความผิดได้รับโทษสาสมกับการกระท�า
สาธารณสุข และส�านักงานต�ารวจแห่งชาติ และต่อมากระทรวง ในลักษณะของการแก้แค้นทดแทน เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่สะเทือน
ยุติธรรมได้พิจารณาข้อเสนอแนะและมีความเห็นว่าควรด�าเนินการ ขวัญต่อความรู้สึกของประชาชน ดังเช่น กรณีคดีการข่มขืนและ
ใน ๓ ด้าน คือ (๑) การศึกษาวิจัย (๒) การจัดท�าประชามติ และ (๓) ฆาตกรรมเด็กหญิงบนขบวนรถไฟสายนครศรีธรรมราช - กรุงเทพฯ
การเตรียมความพร้อม การพัฒนามาตรการทดแทน และมาตรการ ในปี ๒๕๕๗ ความคิดที่ให้คงบทลงโทษประหารชีวิตก็จะยังคงมีอยู่
ทางเลือกในการลงโทษ เพื่อเตรียมความพร้อมในการยกเลิก ในสังคมไทยต่อไป
เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การแสดงความเห็นและการแสดงออกในด้านการเมือง ผ่านสื่อต่าง ๆ ตลอดจนรูปแบบของการชุมนุม
ทางการเมืองที่หลายครั้งน�าไปสู่ความรุนแรงในสังคม หลายกรณีเกิดการละเมิดสิทธิในด้านอื่น ๆ เช่น การใช้ถ้อยค�าที่สร้างความเกลียดชัง
(hate speech) การกระทบต่อสิทธิในชีวิตและร่างกาย สิทธิในทรัพย์สิน สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร สิทธิในการชุมนุมโดยสงบ
และสันติ ฯลฯ ทั้งต่อประชาชนทั่วไป ต่อผู้ชุมนุม และต่อเจ้าหน้าที่รัฐ ส่งผลให้รัฐมีการด�าเนินการบังคับใช้กฎหมายที่จ�ากัดสิทธิและเสรีภาพ
ในการแสดงความเห็นทางการเมืองอย่างเข้มข้น โดยที่หลายกรณีพบว่าเป็นการบังคับใช้กฎหมายในลักษณะป้องปรามก่อนที่จะมีการกระท�าผิด
นอกจากนี้ การจ�ากัดเสรีภาพในการแสดงความเห็นและการแสดงออกยังกระทบไปถึงการแสดงออกของบุคคลและชุมชนที่ได้รับความเดือดร้อน
จากนโยบาย มาตรการและโครงการต่าง ๆ ทั้งของรัฐและของเอกชน ที่บางกรณีถูกห้ามมิให้มีการจัดประชุม เช่น การห้ามการประชุม
ของชาวบ้านเรื่องที่ดิน เเละการห้ามการประชุม เรื่อง “ผลกระทบจากโรงไฟฟ้าถ่านหิน ต่อชุมชนและทรัพยากรธรรมชาติในเขตพะลึน” เป็นต้น
แต่ในบางกรณี ยังมีการชุมนุมของบางกลุ่มเกิดขึ้นได้บ้าง อาทิ การชุมนุมของกลุ่มเกษตรกรและกลุ่มชาวประมงหลังมีมาตรการ
ห้ามเรือท�าประมงผิดกฎหมาย เป็นต้น
กสม. มีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับร่างกฎหมายพระราชบัญญัติ เรียบร้อยของสาธารณะ (Ordre public) หรือด้วยเหตุแห่ง
การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. .... ว่า ไม่ควรใช้กฎหมายพิเศษด้าน สาธารณสุขและศีลธรรม นั้น รัฐจ�าเป็นต้องด�าเนินการด้วย
ความมั่นคงควบคู่กับกฎหมายชุมนุมสาธารณะ ไม่ควรแปลความ ความระมัดระวังอย่างยิ่ง และจ�าเป็นต่อวัตถุประสงค์อันชอบธรรม
บทบัญญัติแห่งร่างพระราชบัญญัติฯ จนไม่อาจชุมนุมสาธารณะ การจ�ากัดสิทธิด้วยเหตุดังกล่าวต้องเป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
ได้ และควรให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีหน้าที่อ�านวยความ (strict requirements) ได้สัดส่วน มีความจ�าเพาะของกรณี
สะดวกและจัดสถานที่ชุมนุมสาธารณะ ทั้งนี้ การก�าหนดให้การ ที่จะส่งผลกระทบต่อเหตุเช่นว่า (in specific and individualized
ชุมนุมสาธารณะต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ไม่สอดคล้อง fashion the precise nature of the threat) มีความเชื่อมโยง
กับหลักการตามกติกา ICCPR และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร โดยตรงและส่งผลชัดเจนจากการใช้สิทธินั้น (a direct and
ไทย ประกอบกับคณะกรรมการประจ�ากติกา ICCPR ให้ความส�าคัญ immediate connection between the expression and
ต่อเสรีภาพในการแสดงความเห็นและการแสดงออกว่ามีความ the threat) และต้องมั่นใจว่าไม่เป็นการจ�ากัดข้อมูลสู่สาธารณะ
จ�าเป็นต่อความโปร่งใสและการตรวจสอบได้ของรัฐ และจ�าเป็นต่อ ของสื่อ นักวิชาการ นักสิ่งแวดล้อม หรือนักปกป้องสิทธิมนุษยชน
การประกันสิทธิต่าง ๆ ในกติการะหว่างประเทศ และได้วางแนวทาง ที่เป็นไปเพื่อประโยชน์ของสาธารณะอย่างชอบธรรม
การรอนสิทธิในเสรีภาพในการแสดงความเห็นและการแสดงออกว่า
การรอนสิทธิด้วยเหตุแห่งความมั่นคงของชาติหรือความสงบ
11