Page 194 - รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ประจำปี 2558
P. 194

รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ปี ๒๕๕๘



                (๒ ในกระบวนการ UPR ครั้งแรก ในปี ๒๕๕๕ ประเทศไทยรับข้อเสนอแนะที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มคนไร้รัฐและไร้สัญชาติ
                หลายประการ อาทิ การรับรองความหลากหลายทางเชื้อชาติในสังคมไทย (เสนอโดยประเทศโอมาน) การเสริมสร้างความเข้มแข็ง
                ในการปฏิบัติตามนโยบายและมาตรการต่าง ๆ ที่คุ้มครองกลุ่มเปราะบางในสังคม ซึ่งรวมถึงกลุ่มเด็ก คนยากจน ชนกลุ่มน้อย ผู้อพยพ
                (เสนอโดยเวียดนาม) การต่อต้านการเลือกปฏิบัติต่อเด็กและกลุ่มวัยรุ่นในสถานการณ์ที่เปราะบาง (เสนอโดยอุรุกวัย) และความพยายาม
                ในการบัญญัติหรือออกกฎหมายให้ผู้หญิงมีส่วนร่วมในกระบวนการตัดสินใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้หญิงชนกลุ่มน้อยและคนพิการ
                (เสนอโดยเกาหลีใต้) แต่มาตรการที่จะด�าเนินการตามข้อเสนอแนะยังไม่มีความชัดเจน



              ในปี ๒๕๕๐ ประเทศไทยได้เห็นชอบกับข้อมติสมัชชาสหประชาชาติ
              ที่ ๖๑/๒๙๕ รับรองปฏิญญาว่าด้วยสิทธิของประชาชาติท้อง
              ถิ่นดั้งเดิม (United Nations Declaration on the Rights of
              Indigenous Peoples: UNDRIP) ซึ่งรับรองความเท่าเทียมกัน
              ของประชาชาติท้องถิ่นดั้งเดิมกับประชาชาติอื่น ซึ่งได้รับความไม่
              เป็นธรรมอย่างยาวนานจากการล่าอาณานิคมและการแย่งชิงที่ดิน
              ดินแดนและทรัพยากร ปฏิญญาดังกล่าวจึงให้รัฐมีกฎหมายประกัน
              สิทธิของประชาชาติท้องถิ่นดั้งเดิม อาทิ สิทธิในที่ดิน ดินแดนและ
              ทรัพยากรซึ่งเป็นเจ้าของ ครอบครอง หรือได้ใช้ ได้มาตามประเพณี                                            บทที่ ๕ สถานการณ์สิทธิมนุษยชนของกลุ่มเปราะบาง
              เป็นต้น ห้ามมิให้มีการเลือกปฏิบัติต่อประชาชาติท้องถิ่นดั้งเดิม
              ให้เคารพภูมิปัญญาท้องถิ่นดั้งเดิม วัฒนธรรม ธรรมเนียมปฏิบัติ  สิทธิของกลุ่มชาติพันธุ์ เปิดพื้นที่สาธารณะเพื่อการเรียนรู้
              ประเพณี การมีส่วนร่วมในการพัฒนา มีสิทธิในการก�าหนดเจตจ�านง  การท�าความเข้าใจเกี่ยวกับอัตลักษณ์และสิทธิของกลุ่ม
              ในการปกครองตนเองในกิจการภายในและท้องถิ่น สามารถก�าหนด  จัดท�าข้อเสนอต่าง  ๆ  ล่าสุด  ได้มีการพัฒนาและเสนอ
              สถานะทางการเมืองได้อย่างเสรี รวมถึงการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม  (ร่าง) พระราชบัญญัติสภาชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมือง
              และวัฒนธรรม และส่งเสริมให้เกิดความสมานฉันท์ (harmony)   แห่งประเทศไทย พ.ศ. .... ร่วมกับส�านักงานคณะกรรมการ
              และความร่วมมือระหว่างรัฐกับกลุ่มประชาชาติท้องถิ่นดั้งเดิม    ปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) มีสาระส�าคัญในการให้มีการจัดตั้ง
              บนพื้นฐานของความยุติธรรม ประชาธิปไตยการเคารพสิทธิมนุษยชน   สภาชาติพันธุ์ฯ มีอ�านาจหน้าที่ในการจัดท�านโยบายและ
              การไม่เลือกปฏิบัติและความสุจริตใจ หลังการรับรองปฏิญญา   ส่งเสริมการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ สังคม การเมือง วัฒนธรรม
              ดังกล่าว ได้เกิดกระบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมรูปแบบใหม่   การศึกษา ภูมิปัญญา สิ่งแวดล้อม พื้นที่ทางจิตวิญญาณ และ
              ของกลุ่มชาติพันธุ์ โดยกลุ่มชาติพันธุ์ได้รวมตัวกันเป็นเครือข่าย   สิทธิมนุษยชนของกลุ่มประชากรชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมือง
              ชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทย (คชท.) ปัจจุบันประกอบด้วย   ในประเทศไทย ปัจจุบัน รัฐบาลยังมิได้บรรจุวาระการพิจารณา
              ๓๘ กลุ่ม มีการรวมกลุ่มของเครือข่ายเด็กและเยาวชนชนเผ่า  (ร่าง) พระราชบัญญัติดังกล่าว และรัฐบาลไทยไม่รับรองการ
              พื้นเมือง (เครือข่ายต้นกล้า) มุ่งสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับ  ด�ารงอยู่ของ “ชนพื้นเมืองดั้งเดิม” ในประเทศไทย





                (๓) ค�าสั่ง คสช. ที่ ๖๔/๒๕๕๗ เมื่อวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๕๗ และ ที่ ๖๖/๒๕๕๗ เมื่อวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๗ มีวัตถุประสงค์
                ในการปราบปรามและหยุดยั้งการบุกรุกท�าลายทรัพยากรป่าไม้ และก�าหนดเป้าหมายว่าจะต้องพิทักษ์รักษาป่าไม้ให้มีสภาพสมบูรณ์
                ให้ได้พื้นที่ป่าไม้อย่างน้อย ร้อยละ ๔๐ โดยค�าสั่งดังกล่าวได้ระบุชัดเจนว่า ต้องไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้ยากไร้ ผู้ที่มีรายได้น้อย
                และผู้ไร้ที่ดินท�ากินซึ่งได้อาศัยอยู่ในพื้นที่เดิมนั้น ๆ ก่อนค�าสั่งมีผลบังคับใช้ แต่ในทางปฏิบัติปรากฎว่าได้ส่งผลกระทบ
                ต่อประชาชน  รวมถึงกลุ่มชาติพันธุ์ที่เคยถือครองท�าประโยชน์ในที่ดินมาก่อน  มีการข่มขู่  บังคับ  จับกุม  ไล่รื้อที่อยู่อาศัย
                และท�าลายที่ท�ากิน ๒๗๑  นอกจากนี้ ในบางพื้นที่ก็มีความขัดแย้ง การแย่งชิงที่ดินจากธุรกิจหรือนโยบายการพัฒนาขนาดใหญ่ของรัฐ
                ท�าให้เกิดเหตุการณ์ปะทะและฟ้องร้องด�าเนินคดีทางกฎหมาย การข่มขู่คุกคามกลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่ และการสูญหายของนักพิทักษ์
                สิทธิมนุษยชนที่เป็นแกนน�าในการปกป้องสิทธิ



              ๒๗๑   ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย ที่ ๓๒๓/๒๕๕๘


                                                                                                          164
   189   190   191   192   193   194   195   196   197   198   199