Page 191 - รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ประจำปี 2558
P. 191
รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ปี ๒๕๕๘
๔ การประเมินสถานการณ์
จากการติดตามสถานการณ์สิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้องกับแรงงาน อย่างไรก็ตาม กสม. เห็นว่า รัฐยังมีข้อจ�ากัดบางประการที่เป็น
ข้ามชาติ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เห็นว่า อุปสรรคในการเข้าถึงสิทธิของแรงงานข้ามชาติ อาทิ การก�าหนด
ปัจจุบันรัฐมีความก้าวหน้าในการด�าเนินการเพื่อคุ้มครองสิทธิของ เงื่อนไขด้านหลักฐานในการใช้สิทธิประกันสังคม จ�านวน
แรงงานข้ามชาติมากขึ้น โดยรัฐได้มีนโยบาย/มาตรการในการ
บริหารจัดการแรงงานข้ามชาติอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะมาตรการ สถานพยาบาลน้อยและอยู่ห่างไกลจากสถานที่ซึ่งเป็นแหล่ง
เพื่อป้องกันการค้ามนุษย์และส่งเสริมคุณภาพชีวิตของแรงงาน ที่มีแรงงานข้ามชาติจ�านวนมาก นอกจากนี้ ยังมีช่องว่างทางกฎหมาย
ข้ามชาติ เช่น การออกพระราชก�าหนดการประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ ที่สร้างอุปสรรคให้สิทธิของแรงงานข้ามชาติไม่เป็นไปตาม
การเปิดให้มีการลงทะเบียนแรงงานข้ามชาติ การตรวจสุขภาพ มาตรฐานสากล เช่น กรณีการก่อตั้งสหภาพแรงงาน ซึ่งในเรื่องนี้
และประกันสุขภาพแรงงานต่างด้าวรวมถึงผู้ติดตาม การแก้ไข แม้จะมีความกังวลจากหลายฝ่ายเกี่ยวกับประเด็นความมั่นคง
กฎหมายภายในที่เกี่ยวกับการก่อตั้งสหภาพแรงงานให้สอดคล้อง ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม แต่นักวิชาการหลายท่านได้เสนอแนะให้
กับอนุสัญญา ILO รัฐพิจารณาถึงเงื่อนไขในการให้สิทธิจัดตั้งสหภาพแก่แรงงานข้ามชาติ
บางประเภท เช่น แรงงานที่พิสูจน์สัญชาติแล้ว แรงงานน�าเข้า
ตาม MOU เป็นต้น เพื่อประกันสิทธิขั้นพื้นฐานตามมาตรฐานสากล
๕.๒.๖ กลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มคนไร้รัฐและไร้สัญชาติ
๑ หลักการด้านสิทธิมนุษยชน
ประเทศไทยเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติ (CERD) โดยได้ตั้งข้อสงวนในข้อ ๔ ของอนุสัญญา ๒๖๓
และมิได้ท�าค�าแถลงยอมรับอ�านาจคณะกรรมการประจ�าอนุสัญญาในการรับเรื่องร้องเรียนจากปัจเจกบุคคลตามข้อ ๑๔ ของอนุสัญญา CERD
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ด้านสาธารณสุข การศึกษา เศรษฐกิจ ทรัพยากรธรรมชาติ
๒๕๕๗ มาตรา ๔ ได้คุ้มครองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพ และสิ่งแวดล้อม ที่อยู่อาศัย วัฒนธรรมและศาสนา การเข้าถึงข้อมูล
และความเสมอภาค บรรดาที่ชนชาวไทยเคยได้รับตามประเพณีการ ข่าวสาร เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร การขนส่ง การเมือง
ปกครองประเทศไทย ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ การปกครอง กระบวนการยุติธรรม และความมั่นคงทางสังคม
ทรงเป็นประมุขและตามพันธกรณีระหว่างประเทศที่ประเทศไทย โดยมีข้อเสนอแนะส�าคัญ จ�านวน ๑๔ ข้อ ครอบคลุมยุทธศาสตร์
มีอยู่แล้ว ซึ่งหลักการส�าคัญตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ๔ ประการ คือ (๑) การป้องกันการละเมิดสิทธิ (๒) การคุ้มครอง
พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๓๐ ได้รับรองความเสมอภาคของบุคคล สิทธิมนุษยชนอย่างมีประสิทธิภาพ (๓) การพัฒนากฎหมายและ
และห้ามการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคลด้วยเหตุต่าง ๆ กลไกทางกฎหมาย และ (๔) การพัฒนาศักยภาพขององค์กร
รวมถึงความแตกต่างในเรื่องถิ่นก�าเนิด เชื้อชาติและภาษา เครือข่าย ทั้งนี้ มีข้อเสนอประการหนึ่งในการสร้างความชัดเจน
แผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ฉบับที่ ๓ (พ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๖๑) ในด้านนโยบายและกฎหมายที่เกี่ยวข้องรวมถึงการให้มีมาตรการ
ได้ก�าหนดแผนสิทธิมนุษยชนของกลุ่มผู้ไร้รัฐ ชาติพันธุ์ และ ทางกฎหมายด้านสิทธิมนุษยชนเพื่อคุ้มครองกลุ่มผู้ไร้รัฐ ชาติพันธุ์
๒๖๔
กลุ่มผู้แสวงหาที่พักพิงหรือผู้หนีภัยจากการสู้รบ โดยครอบคลุม และกลุ่มผู้แสวงหาที่พักพิงหรือผู้หนีภัยจากการสู้รบ
๒๖๓ ซึ่งมีบทบัญญัติว่า “มาตรการพิเศษที่จัดให้มีขึ้นตามความจ�าเป็น โดยมีเจตนาเพื่อประกันให้มีความก้าวหน้าอย่างเพียงพอในหมู่ชนบางเชื้อชาติ หรือบางเผ่าพันธุ์ หรือบุคคลบางกลุ่มที่
ต้องการความคุ้มครอง เพื่อให้กลุ่ม หรือบุคคลเหล่านั้นได้มีสิทธิมนุษยชน และเสรีภาพขั้นพื้นฐานอย่างเสมอภาคจะไม่ถือเป็นการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติ ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวต้อง
ไม่ก่อให้เกิดการธ�ารงไว้ซึ่งสิทธิที่แตกต่างกันระหว่างกลุ่มชนเชื้อชาติต่างๆ และจะไม่คงอยู่ต่อไปภายหลังจากที่ได้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้แล้ว”
๒๖๔ แผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติฉบับที่ ๓ (พ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๖๑), หน้า ๘๒-๘๗
161