Page 135 - รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ประจำปี 2558
P. 135

รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศ ปี ๒๕๕๘



        ๔.๑  สภาพการท�างานและระบบประกันสังคม

        รัฐมีมาตรการการด�าเนินการที่จะท�าให้แรงงานนอกระบบเข้ามาอยู่
        ในระบบ โดยมีความก้าวหน้าอย่างมากในช่วง ๒ ปีที่ผ่านมา ท�าให้

        แรงงานได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายและมีหลักประกันทางสังคม
        มากยิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ยังพบว่า มีแรงงานบางกลุ่มยังไม่ได้รับ
        ความคุ้มครองอย่างทั่วถึง ได้แก่ กลุ่มลูกจ้างท�างานบ้าน ลูกจ้าง

        ที่ไปท�างานในต่างประเทศที่มักถูกละเมิดสิทธิจากนายจ้าง
        การไม่ได้รับค่าจ้างที่เป็นธรรม การมีชั่วโมงการท�างานที่ยาวนานเกินไป
        เเละการที่กฎหมายประกันสังคมยังให้การคุ้มครองไม่ครอบคลุม
        แรงงานทั้งหมด เป็นต้น รัฐจึงจ�าเป็นต้องมีมาตรการที่ชัดเจนและ
        เร่งด่วนในการให้ความช่วยเหลือแรงงานที่ถูกละเมิดสิทธิ รวมทั้ง

        ควรบูรณาการการท�างานจากภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อให้กลไกรัฐที่มี  ที่ลูกจ้างท�านั้นมิได้มีการประกอบธุรกิจรวมอยู่ด้วย ให้เป็นลูกจ้าง
        ไม่ว่าจะเป็นมาตรการ แนวทาง รวมถึงกฎหมาย สามารถให้การ  ที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา ๓๓ ของ
        คุ้มครองแรงงานกลุ่มนี้ได้อย่างเต็มที่ โดยรัฐควรทบทวนให้มีการ  พระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. ๒๕๓๓ มีผลท�าให้ลูกจ้าง

        ปรับปรุงบทบัญญัติของพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. ๒๕๓๓   ท�างานบ้านของนายจ้างที่เป็นบุคคลธรรมดาที่มิได้มีการประกอบ
        ซึ่งส�านักงานประกันสังคมได้แก้ไขกฎหมายและประกาศใช้   ธุรกิจรวมอยู่ด้วยไม่สามารถใช้สิทธิประกันตนตามมาตรา ๓๓
        พระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๘ โดยก�าหนด  ได้ ซึ่งหากลูกจ้างกลุ่มนี้ประสงค์จะใช้สิทธิในระบบประกันสังคม
        นิยามค�าว่า “ลูกจ้าง” ให้หมายถึง ผู้ซึ่งท�างานให้นายจ้างโดยรับ  ก็จะต้องสมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา ๔๐ เท่านั้น ซึ่งจะ
        ค่าจ้าง ซึ่งท�าให้ครอบคลุมกลุ่มของลูกจ้างเพิ่มมากขึ้น แต่การ  ได้รับความคุ้มครองน้อยกว่าผู้ประกันตนตามมาตรา ๓๓ ดังนั้น

        แก้ไขนิยามดังกล่าวไม่มีผลถึงลูกจ้างท�างานบ้านด้วย เนื่องจาก  หากรัฐประสงค์ให้ผู้ที่ท�างานกับนายจ้างโดยได้รับค่าจ้างได้รับความ
        ยังไม่มีการแก้ไขพระราชกฤษฎีกาก�าหนดลูกจ้างตามมาตรา ๔   คุ้มครองตามระบบประกันสังคม จึงต้องแก้ไขพระราชกฤษฎีกาฯ
        (๖)  แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. ๒๕๓๓ ในมาตรา ๔   ให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติดังกล่าว

        (๗) ซึ่งบัญญัติให้ลูกจ้างของนายจ้างที่เป็นบุคคลธรรมดา ซึ่งงาน








                                                          นอกจากนี้ เนื่องจากประเทศไทยถือเป็นศูนย์กลางของห่วงโซ่
                                                          อุปทานระดับโลกของบรรษัทข้ามชาติจ�านวนมาก รัฐจึงจ�าเป็นต้อง
                                                          มีมาตรการในการให้ความคุ้มครองแรงงานมิให้ถูกละเมิดสิทธิ และต้อง
                                                          มีมาตรการที่ชัดเจนในการก�ากับดูแลผู้ประกอบการที่เป็นสายการผลิต
                                                          ของบรรษัทข้ามชาติ ตลอดจนแนวทางในการด�าเนินการหากพบว่า
                                                          มีแรงงานในประเทศไทยถูกละเมิดสิทธิจากบรรษัทข้ามชาติเหล่านี้
                                                          รวมถึงควรสร้างมาตรการจูงใจให้ผู้ประกอบการทุกประเภทกิจการ
                                                          ให้การคุ้มครองสิทธิของลูกจ้างมากยิ่งขึ้นเพื่อประโยชน์ในระยะยาว
                                                          ของผู้ประกอบการเอง










         105
   130   131   132   133   134   135   136   137   138   139   140