Page 131 - รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ประจำปี 2558
P. 131
รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศ ปี ๒๕๕๘
๒.๓ สิทธิในการรวมตัวและเสรีภาพในการสมาคมด้านแรงงาน
ประเทศไทยได้เข้าร่วมก่อตั้งองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ตั้งแต่ปี การรวมกลุ่มของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ
พ.ศ. ๒๔๖๒ โดยปฏิญญาว่าด้วยหลักการและสิทธิขั้นพื้นฐานในการท�างาน (ILO ในภาพรวมแต่อย่างใด อีกทั้งการที่ระเบียบ
Declaration on Fundamental Principles and Rights at Work) ข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๑ มาตรา ๔๓ บัญญัติ
ก�าหนดให้ประเทศสมาชิกเคารพและปฏิบัติตามสิทธิในการท�างานขั้นพื้นฐาน ให้ข้าราชการพลเรือนสามัญมีเสรีภาพในการ
ครอบคลุมทั้งหมด ๔ ประเด็น คือ (๑) เสรีภาพในการสมาคมและการรับรอง รวมกลุ่ม ครอบคลุมเฉพาะข้าราชการพลเรือน
ที่มีผลจริง ส�าหรับสิทธิในการต่อรองรวม (๒) การขจัดการใช้แรงงานบังคับ ยังไม่รวมถึงข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ
๑๕๙
ในทุกรูปแบบ (๓) การยกเลิกอย่างได้ผลต่อการใช้แรงงานเด็ก และ (๔) ประเภทอื่นอีกเป็นจ�านวนมาก ซึ่งส�านักงาน
การขจัดการเลือกปฏิบัติในการจ้างงานและประกอบอาชีพ ๑๕๖ แต่ยังมีอนุสัญญา คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ได้เสนอ
ด้านแรงงานที่ประเทศไทยยังไม่ได้ให้สัตยาบัน ๑๕๗ ซึ่งที่เกี่ยวข้องกับการสมาคมและ (ร่าง) พระราชกฤษฎีกาก�าหนดหลักเกณฑ์
เจรจาต่อรอง ได้แก่ อนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ฉบับที่ ๘๗ วิธีการ และเงื่อนไขในการรวมกลุ่มข้าราชการ
ว่าด้วยเสรีภาพในการสมาคมและการคุ้มครองสิทธิในการรวมตัวกัน ค.ศ.๑๙๔๘ พลเรือนสามัญ พ.ศ. .... ให้ข้าราชการพลเรือน
และฉบับที่ ๙๘ ว่าด้วยสิทธิในการรวมตัวและการร่วมเจรจาต่อรอง ค.ศ.๑๙๔๙ มีเสรีภาพในการรวมกลุ่มตามที่บัญญัติไว้
ซึ่งในเรื่องนี้ กระทรวงแรงงานได้มีการเตรียมการเพื่อเข้าเป็นภาคีอนุสัญญา ในรัฐธรรมนูญ ซึ่งต้องไม่กระทบประสิทธิภาพใน
ทั้งสองฉบับดังกล่าว โดยได้เสนอเรื่องให้รัฐสภาพิจารณาไปแล้ว แต่เนื่องจาก การบริหารราชการแผ่นดิน และความต่อเนื่อง
ได้เกิดการรัฐประหารในปี ๒๕๕๗ ท�าให้เรื่องดังกล่าวถูกระงับไป ในการจัดท�าบริการสาธารณะ และต้องไม่มี
วัตถุประสงค์ทางการเมือง โดยการรวมกลุ่ม
ในประเทศไทยพบว่า ในภาครัฐวิสาหกิจมีจ�านวนสหภาพแรงงานและสหพันธ์ ดังกล่าวให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และ
ในรัฐวิสาหกิจ รวม ๔๙ แห่ง ในภาคเอกชนมีสหภาพแรงงาน สหพันธ์แรงงาน เงื่อนไขที่ก�าหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกา
สภาองค์การลูกจ้าง สมาคมนายจ้าง และสภาองค์การนายจ้าง รวม ๑,๘๔๑ แห่ง ๑๕๘
แต่ในภาคราชการพบว่ายังไม่มีการจัดตั้งสหภาพหรือสหพันธ์ด้านแรงงาน ต่อมา คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติหลักการ (ร่าง)
แต่อย่างใด ทั้งที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๖๔ พระราชกฤษฎีกาก�าหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และ
ได้บัญญัติรับรองเสรีภาพในการรวมกลุ่มของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐไว้ เงื่อนไขในการรวมกลุ่มข้าราชการพลเรือนสามัญ
แต่ปัจจุบันก็ยังไม่มีกฎหมายฉบับใดก�าหนดหลักการและสาระส�าคัญของ พ.ศ. .... เมื่อวันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๕๔ โดยมี
สาระส�าคัญในการก�าหนดให้ข้าราชการมีเสรีภาพ
ในการรวมกลุ่มจัดตั้งเป็นสหภาพข้าราชการ โดย
แบ่งเป็นข้าราชการ ๖ ประเภท เพื่อส่งเสริมความ
สัมพันธ์ระหว่างสมาชิกกับผู้บังคับบัญชา ช่วยเหลือ
สมาชิกในการอุทธรณ์ ร้องทุกข์ คุ้มครอง
สิทธิประโยชน์ของสมาชิกเกี่ยวกับสภาพ
การรับราชการ และรักษาผลประโยชน์ของ
ทางราชการ โดยปัจจุบันร่างกฎหมายดังกล่าว
ได้ผ่านการตรวจพิจารณาของส�านักงานคณะ
กรรมการกฤษฎีกาแล้ว แต่ยังไม่ปรากฏว่า
มีการผลักดันร่างกฎหมายนี้ให้สภานิติบัญญัติ
แห่งชาติให้ความเห็นชอบแต่อย่างใด
๑๕๖ ข้อมูลจาก http://www.unionesso.org/
๑๕๗ ปัจจุบันประเทศไทยยังไม่ได้ให้สัตยาบัน อนุสัญญาที่เป็นกรอบมาตรฐานแรงงานและเป็นอนุสัญญาพื้นฐาน ๓ ฉบับ ได้แก่ ฉบับที่ ๘๗ ฉบับที่ ๙๘ และฉบับที่ ๑๑๑
๑๕๘ ข้อมูลจ�านวนสหภาพ สหพันธ์ และสภาที่เกี่ยวข้องกับด้านแรงงาน ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๘ ของส�านักแรงงานสัมพันธ์ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน
๑๕๙ บทความเรื่อง “เมื่อข้าราชการไทยจะรวมกลุ่มเป็นสหภาพ” โดย เจษฎา ประกอบทรัพย์ และนิสากร วรจันทร์
101