Page 111 - รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ประจำปี 2558
P. 111
รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศ ปี ๒๕๕๘
๔ การประเมินสถานการณ์
จากการประมวลข้อมูลสถานการณ์การบริหารจัดการพลังงาน เหมืองแร่ทรัพยากรธรรมชาติ ที่ดิน และป่าไม้ และการพัฒนาเขตเศรษฐกิจ
พิเศษอันเกี่ยวเนื่องกับสิทธิชุมชน ตลอดปี ๒๕๕๘ อาจกล่าวได้ว่า สิทธิชุมชนได้รับผลกระทบจากนโยบาย มาตรการ และการด�าเนินการ
ของเจ้าหน้าที่รัฐหลายกรณี ปัญหาส�าคัญ คือ การขาดกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนนับตั้งแต่การเข้าถึงและได้รับข้อมูลข่าวสารอย่างถูกต้อง
ครบถ้วนจากหน่วยงานของรัฐ กระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนและชุมชนที่จะได้รับผลกระทบในกระบวนการประเมินผลกระทบ
ด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม (EHIA) ยังไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย ขาดความสมบูรณ์ และ/หรือเป็นอิสระ เนื่องจาก
เจ้าของโครงการเป็นผู้จัดท�ารายงานเอง สิทธิของประชาชนและชุมชนที่ได้รับผลกระทบก็ยังไม่ได้รับการเยียวยาอย่างเป็นธรรม และ
มุ่งเฉพาะการจ่ายค่าชดเชยในรูปของตัวเงินเท่านั้น ซึ่งการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนควรจะค�านึงถึงมิติอื่น เช่น
การท�าให้กลับคืนสู่สภาพเดิม การท�าให้พอใจ การประกันว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ซ�้าอีก เป็นต้น ทั้งนี้ มีข้อสังเกตเพิ่มเติมในรายประเด็น ดังนี้
๔.๑ การบริหารจัดการพลังงาน
รัฐด�าเนินการเพื่อให้ประเทศไทยมีพลังงานทางเลือกอื่นทดแทนพลังงานหลัก
เช่น กระแสไฟฟ้า แต่ยังปรากฏข้อมูลว่า รัฐยังมิได้ค�านึงถึงผลกระทบที่อาจจะ
เกิดขึ้นจากการด�าเนินการหรือจัดให้มีมาตรการในการชดเชยเยียวยาผู้ได้รับ
ผลกระทบอย่างเพียงพอ เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่รัฐออกประกาศ
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก�าหนดให้ใช้ประมวลหลักการ
ปฏิบัติ (CoP) แทนการจัดท�ารายงาน EIA ส่งผลให้ไม่มีมาตรฐาน/เครื่องมือ
ในการคุ้มครองสิทธิของชุมชน ทั้งในการด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ขาดกระบวนการ
มีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสีย และการติดตามประเมินผล
๔.๒ เหมืองแร่
รัฐด�าเนินการโดยมุ่งเน้นความเติบโตในมิติด้านเศรษฐกิจแต่เพียง บุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน การขาดกระบวนการเชื่อมโยง
อย่างเดียว โดยมิได้ค�านึงถึงวิถีชีวิตดั้งเดิมของชุมชนและมิได้ การท�างานกับภาคส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะกับประชาชนในพื้นที่
ค�านึงถึงผลกระทบด้านอื่นที่อาจเกิดขึ้นอย่างรอบด้าน เช่น รวมทั้งขาดการติดตามและประเมินผลกระทบในด้านต่าง ๆ
ผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ รัฐยังขาดกรอบในการควบคุมก�ากับดูแล
ในบางกรณีที่มีความจ�าเป็นเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหา หรือ การประกอบกิจการของภาคธุรกิจ ขาดกระบวนการสนับสนุน
ยุติความเสียหายต่อสภาพแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน พบว่า จูงใจให้ภาคธุรกิจประกอบกิจการบนพื้นฐานของการเคารพ
หน่วยงานของรัฐไม่สามารถเข้ามาด�าเนินการตามอ�านาจหน้าที่ สิทธิมนุษยชน ตลอดจนไม่มีความชัดเจนในการด�าเนินการ
ได้อย่างทันท่วงที โดยมักจะมีข้อจ�ากัดด้านงบประมาณ การขาดแคลน กับภาคธุรกิจที่ด�าเนินกิจการที่ส่งผลกระทบต่อชุมชน
๔.๓ การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ ที่ดิน และป่าไม้
ปัญหาที่สืบเนื่องจากการใช้ค�าสั่ง คสช. ที่ ๖๔/๒๕๕๗ และที่ ๖๖/๒๕๕๗ นั้น เห็นว่า รัฐยังไม่ได้ด�าเนินการตรวจสอบพื้นที่ป่าไม้
ตามค�าสั่งฯ อย่างเพียงพอ และการด�าเนินการตามค�าสั่งดังกล่าวจะต้องค�านึงถึงความแตกต่างของพื้นที่ วัฒนธรรม และวิถี
การด�ารงชีวิต นอกจากนี้ ยังไม่มีมาตรการที่ชัดเจนในการก�ากับดูแลเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติงานด้วยความรอบคอบ หลีกเลี่ยงการใช้วิธีการบังคับ
ไล่รื้อทรัพย์สิน และเพิ่มความระมัดระวังมิให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนเกินกว่าความจ�าเป็น ทั้งนี้ หากรัฐไม่สามารถหลีกเลี่ยงผลกระทบ
ที่อาจเกิดกับชุมชนได้ รัฐก็ควรที่จะมีมาตรการในการเยียวยาแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากการด�าเนินการอย่างเหมาะสม
81