Page 116 - รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ประจำปี 2558
P. 116
รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ปี ๒๕๕๘
กลุ่มที่ จ�านวน (คน) ร้อยละ
(๑) เด็กถูกบังคับให้ขายแรงงาน ๑๑๔ ๐.๐๐
(๒) เด็กในธุรกิจทางเพศ ๖๑ ๐.๐๐
(๓) เด็กถูกทอดทิ้ง ๑๔,๕๖๓ ๐.๓๐
(๔) เด็กในสถานพินิจ ๔๕๕ ๐.๐๑
(๕) เด็กเร่ร่อน ๑,๓๖๓ ๐.๐๓
(๖) เด็กที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อ HIV/AIDS ๒,๒๘๖ ๐.๐๕
(๗) เด็กชาติพันธุ์ และชนพื้นเมือง ๒๙,๒๕๒ ๐.๖๐
(๘) เด็กที่ถูกท�าร้าย ๒,๐๘๑ ๐.๐๔
(๙) เด็กที่ใช้สารเสพติด ๑,๓๐๖ ๐.๐๓
(๑๐) เด็กพิการ ๒๕๕,๓๗๕ ๕.๒๒
(๑๑) เด็กที่เผชิญปัญหาความยากจน หรือเด็กที่อยู่ในครอบครัว ๔,๕๘๕,๒๐๗ ๙๓.๗๓
ที่มีรายได้ไม่เกิน ๒๐,๐๐๐ บาท ต่อปี
รวม ๔,๘๙๒,๐๖๓ ๑๐๐
จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่า เด็กที่อยู่ในครอบครัวที่มีรายได้น้อยเป็นปัจจัยส�าคัญที่ท�าให้เด็กขาดโอกาสในการศึกษาหรือหลุดออกจาก บทที่ ๔ สถานการณ์สิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม
ระบบการศึกษา ซึ่งจากข้อมูลพบว่าเด็กที่ยากจนมีอัตราส่วนประมาณร้อยละ ๙๓.๗๓ ของนักเรียนที่ไม่ได้เข้าเรียน ๔.๕๘ ล้านคน
จาก ๔.๘๙ ล้านคน เมื่อพิจารณาปีการศึกษาเฉลี่ยจ�าแนกตามภูมิภาค พบว่า ประชากรในกรุงเทพฯ มีปีการศึกษาเฉลี่ยสูงที่สุด
ในทุกกลุ่มอายุ เช่น กลุ่มวัยแรงงาน (อายุระหว่าง ๑๕-๕๙ ปี) เท่ากับ ๑๑.๙ ปี ส่วนกลุ่มอายุ ๖๐ ปีขึ้นไป เท่ากับ ๗.๕ ปี รองลงมาคือภาคกลาง
กลุ่มวัยแรงงาน เท่ากับ ๙.๑ ปี และกลุ่มอายุ ๖๐ ปีขึ้นไป เท่ากับ ๔.๙ ปี ส่วนภาคที่มีปีการศึกษาเฉลี่ยน้อยที่สุดทั้ง ๒ กลุ่มอายุ
คือ ภาคเหนือ โดยกลุ่มวัยแรงงาน เท่ากับ ๘.๓ ปี และกลุ่มอายุ ๖๐ ปีขึ้นไปเท่ากับ ๔.๔ ปี ซึ่งเท่ากับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
๒. การเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ
มีตัวชี้วัด ๓ ตัว ซึ่งจ�าแนกข้อมูลตามภูมิภาค ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานของส�านักงานรับรองมาตรฐานและคุณภาพการศึกษา
ได้แก่ คะแนนเฉลี่ยผลการสอบ O-Net (สมศ.) ตามตัวบ่งชี้ด้านคุณภาพของสถานศึกษา พบว่า สถานศึกษาในกรุงเทพมหานคร
อัตราส่วนสถานศึกษาที่มีคุณภาพ และ มีระดับคุณภาพดี/ดีมาก มีร้อยละสูงสุด คิดเป็น ๙๘.๘๒ รองลงมา คือ ภาคกลาง
ตัวบ่งชี้ด้านผู้เรียน โดยคะแนนผลการ คิดเป็นร้อยละ ๙๗.๖๙ ภาคใต้ คิดเป็นร้อยละ ๙๗.๓๖ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ทดสอบ O-Net ในปีการศึกษา ๒๕๕๘ ซึ่งมีจ�านวนต�่าที่สุด คิดเป็นร้อยละ ๙๖.๗๔ ในขณะที่ตัวบ่งชี้ด้านผู้เรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ มัธยมศึกษาปีที่ ๓ ที่มีความสามารถในการคิดและท�าเป็น ความสามารถในการคิดวิเคราะห์
และมัธยมศึกษาปีที่ ๖ พบว่า กรุงเทพมหานคร คิดสังเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ การตัดสินใจอย่างมีวิจารณญาณ และความ
มีคะแนนเฉลี่ยสูงสุดทุกวิชา ส่วนภาค สามารถในการแก้ปัญหา เมื่อจ�าแนกตามภาค พบว่า ผู้ที่อยู่ในกรุงเทพมหานคร
ตะวันออกเฉียงเหนือ มีคะแนนเฉลี่ยต�่าสุด มีความสามารถทั้ง ๓ ด้าน มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ ๙๗.๑ รองลงมา คือ ผู้ที่อยู่ใน
ทุกวิชา ในขณะที่การประเมินคุณภาพ ภาคกลาง คิดเป็นร้อยละ ๙๑.๙ ภาคใต้ คิดเป็นร้อยละ ๙๑.๒ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ภายนอกรอบสาม (พ.ศ. ๒๕๕๔–๒๕๕๘) คิดเป็นร้อยละ ๙๐.๕ และภาคเหนือ คิดเป็นร้อยละ ๘๖.๖
86