Page 107 - รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ประจำปี 2558
P. 107
รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศ ปี ๒๕๕๘
อย่างไรก็ดี ยังมีประเด็นปัญหาส�าคัญซึ่งเป็นผลมาจากมติ
ที่ประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ ๒/๒๕๕๘
เมื่อวันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ และประกาศกระทรวงทรัพยากร
และสิ่งแวดล้อม ฉบับที่ ๗ พ.ศ. ๒๕๕๘ ที่ยกเว้นให้โครงการโรงไฟฟ้า
ขยะมูลฝอยทุกขนาดก�าลังการผลิตไม่ต้องจัดท�ารายงาน EIA
จากเดิมก�าหนดให้ก�าลังการผลิตไฟฟ้าตั้งแต่ ๑๐ เมกะวัตต์ขึ้นไป
ต้องจัดท�ารายงาน EIA โดยให้ด�าเนินการตามประมวลหลักการ
ปฏิบัติ (Code of Practice: CoP) แทน ซึ่งในเรื่องนี้ นักวิชาการ
เครือข่ายภาคประชาชน และเครือข่ายภาคประชาสังคม ได้ให้
ความเห็นว่า การก�าหนดให้โครงการโรงไฟฟ้าขยะมูลฝอยด�าเนิน
การตามประมวลหลักการปฏิบัติ (CoP) ไม่สามารถทดแทน
การท�ารายงาน EIA ได้ ด้วยเหตุที่ CoP นั้น เป็นเพียงคู่มือตรวจ
สอบรายการสิ่งแวดล้อม (Environmental Checklist) ที่เป็น
รายการที่โครงการต้องปฏิบัติตามและท�าการติดตามตรวจสอบ ๓.๒ เหมืองแร่
เท่านั้น และ CoP ไม่ได้ถูกก�าหนดมาให้ผ่านการพิจารณาเชิง
วิชาการด้านสิ่งแวดล้อมจากคณะกรรมการผู้ช�านาญการ (คชก.) ในปี ๒๕๕๘ กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่
อีกทั้งกระบวนการปรับปรุงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการจัดการ (กพร.) ได้ออกประกาศนโยบายการส�ารวจและท�าเหมือง
ขยะของกระทรวงฯ ไม่มีการชี้แจงเหตุผลและรับฟังความคิดเห็น แร่ทองค�าในพื้นที่ ๑๒ จังหวัด ได้แก่ พิจิตร พิษณุโลก
อย่างเพียงพอ จึงไม่เป็นไปตามหลักการของรัฐธรรมนูญและ ลพบุรี เลย สตูล สระแก้ว สุราษฎร์ธานี จันทบุรี ระยอง
๑๐๖
กฎหมายสิ่งแวดล้อม ซึ่งประเด็นนี้ได้ขยายวงกว้างออกไปจน สระบุรี นครสวรรค์ และเพชรบูรณ์ เพื่อเตรียมขยายพื้นที่
กระทั่งมีการรวมตัวกันฟ้องร้องเป็นคดีต่อศาลเพื่อขอให้เพิกถอน ให้เอกชนเข้าส�ารวจ ท�าให้เกิดการคัดค้านจากประชาชน
ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และมติคณะ ในพื้นที่อย่างมาก เนื่องจากตลอดระยะเวลาหลายสิบปี
กรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติดังกล่าว
ที่ผ่านมา ประเทศไทยประสบปัญหาจากนโยบายการท�า
เหมืองแร่มาอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มที่จะทวีความ
รุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยจากสถิติข้อมูลเรื่องร้อง
เรียนที่มีมายัง กสม. พบว่า มีปัญหาหลัก ใน ๕ ด้าน ๑๐๗
ได้แก่ (๑) กรณีการมีส่วนร่วมของประชาชนและชุมชน
ในกระบวนการตัดสินใจเชิงนโยบายเกี่ยวกับโครงการ
ท�าเหมืองแร่ขนาดใหญ่ (๒) กรณีการพิจารณาอนุมัติ
อนุญาตของหน่วยงานรัฐ (๓) กรณีการได้รับผลกระทบ
จากกิจการการท�าเหมืองแร่ ซึ่งได้รับสัมปทานจาก
หน่วยงานรัฐไปแล้ว (๔) กรณีการฟื้นฟูเหมือง รวมถึง
การแย่งสิทธิในพื้นที่หลังการท�าเหมือง (๕) กรณี
การข่มขู่ คุกคามอันเป็นผลจากการคัดค้านการท�าเหมืองแร่
โดยในภาพรวมของประเทศพบว่า มีผลกระทบที่เกิดขึ้น
จากการประกอบกิจการเหมืองแร่ของเอกชน ดังนี้
๑๐๖ งานเสวนา “ยกเว้น EIA โรงไฟฟ้าขยะ: วิกฤตสิ่งแวดล้อมใหม่ของสังคมไทย” โดยมูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม มูลนิธิบูรณะนิเวศ และเครือข่ายประชาชนศึกษาและติดตามปัญหาขยะ
เมื่อวันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๘ ณ ห้องประชุมมูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม
๑๐๗ นายประทีป มีคติธรรม เลขานุการกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ, เมษายน ๒๕๕๙
77