Page 97 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 97
• ข้อ ๑๑ เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น (Freedom of expression)
อนุสัญญาแห่งยุโรปฯ ข้อ ๑๑ วรรคหนึ่ง รับรองโดยชัดแจ้งว่าทุกคนมีสิทธิในเสรีภาพในการแสดง
ความคิดเห็น สิทธิประการนี้ยังหมายรวมถึงเสรีภาพที่จะยึดถือความคิดเห็นและรับและส่งข้อมูลหรือความคิดโดยปราศจากการแทรกแซง
ขององค์กรของรัฐและไม่ค�านึงถึงพรมแดน ข้อนี้มิได้เป็นการยกเว้นรัฐทั้งหลายจากการต้องขอใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียง
กิจการโทรทัศน์ หรือกิจการภาพยนต์
อย่างไรก็ตาม อนุสัญญาแห่งยุโรปฯ ข้อ ๑๑ วรรคสอง ก็ได้ก�าหนดเงื่อนไขบางประการอันเป็นข้อ
จ�ากัดแห่งการคุ้มครองดังกล่าว กล่าวคือ การใช้เสรีภาพประการนี้อาจตกอยู่ภายใต้แบบ เงื่อนไข ข้อจ�ากัดหรือโทษปรับตามที่กฎหมาย
ก�าหนดและเป็นการจ�าเป็นในสังคมประชาธิปไตย เพื่อความมั่นคงแห่งชาติ ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของดินแดน (territorial
integrity) ความปลอดภัยของประชาชน เพื่อป้องกันความไม่สงบเรียบร้อยของประชาชนหรือการกระท�าความผิดทางอาญา เพื่อการ
คุ้มครองสุขภาพหรือจิตใจ หรือเพื่อการคุ้มครองชื่อเสียงหรือสิทธิของบุคคลอื่น เพื่อป้องกันการเปิดเผยข้อมูลที่ได้มาเป็นความลับ หรือ
เพื่อด�ารงไว้ซึ่งอ�านาจและความเป็นกลางขององค์กรตุลาการ (authority and impartiality of the judiciary)
เมื่อได้พิจารณาหลักเกณฑ์และเงื่อนไขแห่งข้อยกเว้นหรือข้อจ�ากัดของการรับรองและคุ้มครองสิทธิ
และเสรีภาพขั้นพื้นฐานในลักษณะต่างๆ ดังกล่าวข้างต้นแล้ว อาจกล่าวในภาพรวมได้ว่ารัฐหรือองค์กรของรัฐอาจมีความจ�าเป็นในบาง
สถานการณ์ที่จะต้องด�าเนินมาตรการอันมีผลเป็นการแทรกแซงสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานประการหนึ่งประการใดได้ แต่อย่างไร
ก็ตาม การกระท�าอันเป็นการแทรกแซงสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของบุคคลจะต้องเป็นการกระท�าโดยชอบ ซึ่งจะต้องเป็นไปตามเงื่อนไข
ต่างๆ ตามที่ก�าหนดไว้ในอนุสัญญาแห่งยุโรปฯ โดยเคร่งครัด ซึ่งประกอบด้วยเงื่อนไขส�าคัญสองประการ ได้แก่ ประการที่หนึ่ง เงื่อนไข
เกี่ยวกับบุคคลผู้กระท�าการอันเป็นการแทรกแซงสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของบุคคล และประการที่สอง เงื่อนไขเกี่ยวกับการกระท�า
อันเป็นการแทรกแซงสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของบุคคล
• เงื่อนไขเกี่ยวกับตัวบุคคลผู้กระท�าการอันเป็นการแทรกแซงสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของ
บุคคล
เมื่อได้พิจารณาเงื่อนไขต่างๆ ที่ก�าหนดในข้อจ�ากัดหรือข้อยกเว้นของการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ
ขั้นพื้นฐานของบุคคลในกรณีต่างๆ ดังกล่าวข้างต้นแล้ว จะเห็นได้ว่าบุคคลผู้มีอ�านาจกระท�าการอันเป็นการแทรกแซงสิทธิและเสรีภาพ
ขั้นพื้นฐานโดยมีเหตุอันชอบธรรมที่จะกระท�าเช่นนั้นได้จ�ากัดเฉพาะแต่ “องค์กรของรัฐ” หรือ “เจ้าหน้าที่ของรัฐ” (public authority)
เท่านั้น ดังจะสังเกตได้ว่ามีการก�าหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับองค์กรของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐไว้โดยชัดแจ้งในข้อยกเว้นหรือข้อจ�ากัดสิทธิ
และเสรีภาพขั้นพื้นฐานในบางกรณี เช่น สิทธิในการเคารพต่อชีวิตส่วนตัวและชีวิตครอบครัว (Right to respect for private and
family life) ข้อ ๘ วรรคสอง ก�าหนดว่าการแทรกแซงการใช้สิทธิในชีวิตส่วนตัวของบุคคลโดย “องค์กรของรัฐ” (a public authority)
จะกระท�าได้ก็ต่อเมื่อเป็นไปตามเงื่อนไขที่ก�าหนด แม้ในข้อยกเว้นหรือข้อจ�ากัดสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานในกรณีอื่นจะมิได้ก�าหนด
เงื่อนไขเกี่ยวกับองค์กรของรัฐไว้โดยชัดแจ้ง แต่เมื่อพิจารณาเนื้อหาของการกระท�าอันเป็นข้อยกเว้นหรือข้อจ�ากัดแล้ว ย่อมจะ
เห็นได้ว่าบุคคลที่จะกระท�าการเช่นนั้นย่อมจะได้แก่องค์กรของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐเท่านั้น เช่น สิทธิในชีวิต (Right to life) ข้อ ๒
วรรคหนึ่ง ก�าหนดข้อยกเว้นในกรณีที่เป็นการด�าเนินการลงโทษของศาลภายหลังจากที่มีการตัดสินว่าได้กระท�าความผิดอาญา หรือ
ข้อ ๒ วรรคสอง ก�าหนดข้อยกเว้นในกรณีด�าเนินการจับกุมอันชอบด้วยกฎหมาย หรือป้องกันมิให้บุคคลที่ถูกควบคุมตัวโดยชอบด้วย
กฎหมายนั้นหลบหนีไป หรือด�าเนินการโดยชอบด้วยกฎหมายเพื่อปราบจลาจลหรือปราบกบฎ ซึ่งการด�าเนินการต่างๆ ดังกล่าวย่อม
เป็นการด�าเนินการโดยองค์กรของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐเท่านั้น แต่ทั้งนี้ พึงต้องตระหนักว่าองค์กรของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มี
อ�านาจด�าเนินการหรือกระท�าการอันเป็นการแทรกแซงการใช้สิทธิหรือเสรีภาพขั้นพื้นฐานของบุคคลจะจ�ากัดอยู่แต่เฉพาะองค์กรของ
รัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการกระท�าอันเป็นการขัดหรือจ�ากัดสิทธิหรือเสรีภาพดังกล่าวนั้นเท่านั้น ดังที่ก�าหนดไว้
โดยชัดแจ้งในข้อยกเว้นหรือข้อจ�ากัดสิทธิและเสรีภาพในแต่ละกรณี
76
ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖