Page 94 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 94

เท็จจริง” หรือในทางปฏิบัติ (de facto) หรือ “พันธกรณีอันเกิดจากความประพฤติ” (Obligation of conduct) ได้ ในอันที่จะต้อง

                  ไม่กระท�าการใดหรืออนุญาตให้มีการกระท�าใดที่ขัดหรือแย้งหรือฝ่าฝืนต่อข้อก�าหนดในประการต่างๆ ดังที่ก�าหนดไว้ในสนธิสัญญา
                  หรือข้อตกลงระหว่างประเทศนั้นๆ ซึ่งแสดงถึง “ความซื่อสัตย์สุจริต” ในความประพฤติของรัฐที่ลงนามในสนธิสัญญาหรือข้อตกลง
                                                                      172
                  ระหว่างประเทศ ดังที่ก�าหนดไว้ในข้อ ๑๘ แห่งอนุสัญญากรุงเวียนนาฯ  กล่าวคือ รัฐจะต้องงดเว้นการกระท�าใดๆ ที่อาจมีผลลบล้าง
                  วัตถุประสงค์ของสนธิสัญญา  เมื่อรัฐนั้นได้ลงนามในสนธิสัญญาหรือได้แลกเปลี่ยนตราสารจัดท�าสนธิสัญญาภายใต้เงื่อนไขแห่งการให้
                                                                                                            173
                  สัตยาบัน การยอมรับหรือการให้ความเห็นชอบ จนกว่ารัฐนั้นจะได้แสดงเจตจ�านงที่ชัดเจนว่าจะไม่เข้าเป็นภาคีสนธิสัญญา  หรือเมื่อ
                  รัฐนั้นได้แสดงความยินยอมที่จะผูกพันตามสนธิสัญญา  ก่อนที่สนธิสัญญาจะมีผลใช้บังคับ  และมีเงื่อนไขว่าจะไม่เลื่อนการมีผลใช้บังคับ
                                          174
                  ของสนธิสัญญาออกไปโดยมิชอบ
                                                   โดยนัยดังกล่าว แม้รัฐจะยังมิได้ให้สัตยาบันแก่สนธิสัญญาหรือข้อตกลงระหว่างประเทศต่างๆ

                  แต่การลงนามในสนธิสัญญาย่อมน�ามาซึ่งพันธกรณีในทางปฏิบัติที่จะต้องไม่กระท�าการใดๆ อันจะก่อให้เกิดผลกระทบหรือเป็นอุปสรรค
                  ต่อวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายของสนธิสัญญา อันเป็นพันธกรณีที่เกิดขึ้นตามหลักกฎหมายจารีตประเพณีระหว่างประเทศซึ่งมีที่มา
                                         175
                  จากหลักสุจริต  (Bona Fide)   การลงนามในสนธิสัญญาจึงแสดงถึงเจตจ�านงในระดับหนึ่งของรัฐในลักษณะที่เห็นด้วยหรือเห็นชอบ
                  กับวัตถุประสงค์และสารัตถะของสนธิสัญญานั้น  รัฐจึงต้องผูกพันตามหลักสุจริตที่จะต้องไม่กระท�าการใดๆ  หรือยอมให้มีการกระท�าใดๆ
                  อันเป็นการขัดหรือกระทบต่อสนธิสัญญาที่ได้ลงนามไว้

                                                   นอกจากนี้  สนธิสัญญาหรือข้อตกลงระหว่างประเทศต่างๆ  ยังอาจเปิดโอกาสให้รัฐที่ยังมิได้
                  ให้สัตยาบันหรือแสดงความยินยอมที่จะผูกพันตามสนธิสัญญาหรือข้อตกลงนั้น ใช้สิทธิประโยชน์ตามที่ก�าหนดไว้ในสนธิสัญญาก่อน
                  ที่รัฐจะให้สัตยาบันหรือแสดงความยินยอมใดๆ โดยจัดท�าหรือเสนอเรื่องที่เกี่ยวข้องต่อองค์กรตามสนธิสัญญาหรือข้อตกลงระหว่าง

                  ประเทศนั้นก็ได้ อันแสดงให้เห็นถึงเจตจ�านงในทางปฏิบัติของรัฐที่จะผูกพันตามสนธิสัญญาหรือข้อตกลงระหว่างประเทศนั้นต่อไปใน
                  อนาคต
                                        (๒.๒) หน้าที่ของรัฐในการให้ความคุ้มครองสิทธิมนุษยชน

                                             ตามกฎหมายภายในประเทศและกฎหมายระหว่างประเทศ รัฐจึงมีหน้าที่จะต้องรับรองและ
                  รับประกันสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานทั้งหลายของบุคคลอันเป็นสิทธิมนุษยชนที่ได้รับการรับรองและคุ้มครองตามหลักกฎหมายระหว่าง

                  ประเทศ  โดยนัยดังกล่าวรัฐจะต้องเคารพสิทธิมนุษยชนของบุคคลและจะต้องไม่กระท�าการใดๆ  อันเป็นการแทรกแซงสิทธิมนุษยชนของ
                  บุคคลโดยมิชอบ  อีกทั้งยังจะต้องก�าหนดมาตรการที่เหมาะสมและจ�าเป็นเพื่อป้องกันมิให้มีการกระท�าใดๆ  ที่เป็นการแทรกแซงหรือ
                  ล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชนของบุคคลโดยปัจเจกชน  ตลอดจนมาตรการในการลงโทษผู้กระท�าการอันมิชอบ  และเยียวยาความเสียหาย

                  แก่ผู้ได้รับความเสียหายจากการกระท�าการอันมิชอบเช่นนั้น
                                             อย่างไรก็ตาม โดยที่รัฐมีอ�านาจหน้าที่ในการดูแลและรักษาความสงบเรียบร้อยในประเทศเพื่อ

                  ประโยชน์ของบ้านเมืองและประชาชนโดยส่วนรวม ดังนั้น จึงอาจมีบางสถานการณ์ที่รัฐมีความจ�าเป็นที่จะต้องด�าเนินมาตรการ
                  บางประการเพื่อประโยชน์สาธารณะซึ่งอาจมีผลเป็นการแทรกแซงสิทธิหรือเสรีภาพขั้นพื้นฐานประการหนึ่งประการใดที่มีลักษณะ
                  เป็นสิทธิมนุษยชนของบุคคลหนึ่งบุคคลใดได้ แต่ก็มิได้หมายความว่ารัฐจะด�าเนินมาตรการหรือกระท�าการเช่นนั้นได้ตามอ�าเภอใจ

                  แต่อย่างใด  เนื่องจากสิทธิมนุษยชนได้รับการรับรองและคุ้มครองตามกฎหมายและกฎเกณฑ์ระหว่างประเทศ  จนกระทั่งพัฒนาเป็น
                  หลักสิทธิมนุษยชนสากลอันได้รับการรับรองและถือปฏิบัติโดยเคร่งครัดจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก ดังที่ได้กล่าวข้างต้นแล้ว ดังนั้น การ





                         172
                             Vienna Convention, Article 18. OBLIGATION NOT TO DEFEAT THE OBJECT AND PURPOSE OF A TREATY PRIOR TO ITS ENTRY
                  INTO FORCE
                         173
                             Vienna Convention, Article 18, paragraph 1.
                         174
                             Vienna Convention, Article 18, paragraph 2.
                         175
                             โปรดดู ประสิทธิ์ เอกบุตร, อ้างแล้ว, น. ๑๓๐.
                                                                                                                   73
                                    ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖
   89   90   91   92   93   94   95   96   97   98   99