Page 9 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 9
ในส่วนที่เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ข้อเท็จจริงปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐมักจะกล่าวอ้างต่อสังคมและต่อสื่อมวลชน
โดยทันที ว่าการตายหรือการฆาตกรรมบุคคลต่างๆ เหล่านั้นเป็น “การฆ่าตัดตอน” กันเองระหว่างผู้ผลิตหรือผู้ค้ายาเสพติด ทั้งๆ
ที่ยังมิได้มีการสืบสวนสอบสวนหาพยานหลักฐานอย่างชัดเจนแน่นอนที่สามารถยืนยันถึงข้อเท็จจริงเช่นนั้นได้แต่อย่างใด อันเป็นการ
ชักจูงให้สังคมและประชาชนส่วนรวมของประเทศเข้าใจว่าบุคคลที่เสียชีวิตนั้นเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและเสียชีวิตเนื่องจากการ
กระท�าของบุคคลผู้ผลิตหรือผู้ค้ายาเสพติดด้วยกันเอง
นอกจากนี้ ข้อเท็จจริงยังปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการตามนโยบายดังกล่าวของรัฐบาล
ได้รับการยกย่องชมเชย การเลื่อนขั้นเลื่อนต�าแหน่ง หรือได้รับการตอบแทนให้ด�ารงต�าแหน่งที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการ
ด�าเนินนโยบายดังกล่าวอีกด้วย
ชั้นที่สี่ ชั้นการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการด�าเนินนโยบายของรัฐบาลในการท�าสงครามต่อสู้
เพื่อเอาชนะยาเสพติด
ครอบครัวของผู้เสียชีวิตหรือผู้ได้รับผลกระทบจากการด�าเนินนโยบายดังกล่าวของรัฐบาลจ�านวนมากร้องทุกข์เป็น
คดีอาญาต่อพนักงานสอบสวน แต่อย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงปรากฏว่าในคดีจ�านวนมาก พนักงานสอบสวนจ�านวนไม่น้อยละเลย
มิได้ท�าการสืบสวนสอบสวนคดีหรือติดตามคดีแต่อย่างใดและเมื่อระยะเวลาล่วงเลยไปพ้นหนึ่งปีนับแต่วันที่มีการร้องเรียน
พนักงานสอบสวนก็ท�าการสรุปส�านวนคดีโดยเสนอความเห็นให้งดการสอบสวน เนื่องจากไม่สามารถหาตัวผู้กระท�าความผิดได้
อย่างไรก็ตาม ปรากฏข้อเท็จจริงจากค�าให้การของบุคคลในครอบครัวของผู้เสียชีวิตว่า พวกเขาไม่เคยได้รับหนังสือเรียกให้ไปให้การ
จากพนักงานสอบสวนที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด แม้กระทั่งคดีที่มีการยิงผู้เสียหายให้ถึงแก่ความตายอย่างอุกอาจกลางสี่แยกบน
ท้องถนน อีกทั้งเมื่อพนักงานอัยการได้รับสรุปส�านวนคดีของพนักงานสอบสวนแล้ว ข้อเท็จจริงปรากฏว่าพนักงานอัยการจะสั่งให้
งดการสอบสวนตามความเห็นของพนักงานสอบสวนโดยทันที
นอกจากนี้ ครอบครัวของผู้เสียชีวิตบางส่วนได้ร้องขอรับเงินเยียวยาความเสียหายจากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ
และได้รับเงินเยียวยาตามระเบียบฯ ของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพแล้ว ในขณะที่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตอีกจ�านวนไม่น้อย
ไม่มีสิทธิได้รับเงินเยียวยาความเสียหายจากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เนื่องจากยื่นค�าขอรับเงินดังกล่าวเมื่อพ้นก�าหนดเวลา
ยื่นค�าขอตามที่ก�าหนดในระเบียบฯ ของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ
๒. สถานะทางกฎหมายของการก�าหนดและการด�าเนินนโยบายในการท�าสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดของ
รัฐบาล เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖
การก�าหนดและด�าเนินนโยบายในการท�าสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดของรัฐบาล พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เมื่อปี
พ.ศ. ๒๕๔๖ มีองค์ประกอบความผิดเข้าลักษณะของการก่อ “อาชญากรรมร้ายแรงระหว่างประเทศ” ในลักษณะของการก่อ
“อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ” (Crime against humanity) ตามนัยแห่งข้อ ๗ ของธรรมนูญกรุงโรมว่าด้วยศาลอาญาระหว่าง
ประเทศ (The Rome Statute of the International Criminal Court) ซึ่งธรรมนูญกรุงโรมฯ มีสถานะเป็น “กฎหมายบังคับ
เด็ดขาด” (jus cogens) เหนือกฎเกณฑ์หรือบทบัญญัติแห่งกฎหมายใดๆ ภายในของประเทศต่างๆ และศาลอาญาระหว่างประเทศ
ก็ท�าหน้าที่ตาม “หลักเขตอ�านาจเสริม” (Principle of Complementarity) ส�าหรับการพิจารณาพิพากษาคดีอาชญากรรมร้าย
แรงตามที่ก�าหนดไว้ในธรรมนูญกรุงโรมฯ และมิอาจยอมรับให้ผู้ก่ออาชญากรรมร้ายแรงเช่นนี้ลอยนวลอยู่ได้เพียงเพราะเหตุที่
ศาลอาญาในประเทศใดประเทศหนึ่งไม่มีเขตอ�านาจเหนือคดีเช่นนั้น
จ
ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖