Page 14 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 14
บุคคลที่เกี่ยวข้องจะเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่ากระท�าความผิดอาญาก็ตาม กติการะหว่างประเทศฯ ดังกล่าวยังก�าหนดให้ผู้ถูกกล่าว
หาว่ากระท�าความผิดอาญาซึ่งอาจถูกลิดรอนสิทธิเสรีภาพจะต้องได้รับการปฏิบัติด้วยความมีมนุษยธรรมและความเคารพ
ในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และจะต้องได้รับการปฏิบัติโดยชอบด้วยกฎหมายและตามกระบวนการยุติธรรมในทุกชั้น และ
ประเทศไทยเข้าเป็นภาคีกติการะหว่างประเทศดังกล่าวแล้ว ประเทศไทยจึงมี “พันธกรณีทางกฎหมาย” (de jure) ที่จะ
ต้องปฏิบัติตามกติการะหว่างประเทศฯ ดังกล่าวโดยเคร่งครัด การก�าหนดและการด�าเนินนโยบายในการท�าสงครามต่อสู้
เพื่อเอาชนะยาเสพติดของรัฐบาล เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖ ซึ่งก่อให้เกิดการกระท�าอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อประชากร
พลเรือนอย่างร้ายแรงและอย่างกว้างขวาง จึงเป็นการกระท�าที่ขัดต่อเจตนารมณ์ของกติการะหว่างประเทศฯ ดังกล่าว อัน
เป็นการฝ่าฝืนต่อพันธกรณีทางกฎหมายของประเทศไทย คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เมื่อได้รับมอบหมายให้เป็น
ผู้แทนรัฐบาลไทย จึงควรเสนอรายงานการเปิดเผยข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการก�าหนดและการด�าเนินนโยบายท�าสงครามต่อสู้เพื่อ
เอาชนะยาเสพติดของรัฐบาล เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖ ต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนตามกติการะหว่างประเทศฯ ดังกล่าว
(๒) ในส่วนที่เกี่ยวกับผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานของรัฐ
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ในฐานะองค์กรระดับชาติในด้านการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
จึงควรผลักดันให้มีการฟ้องคดีอาญาผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการด�าเนินนโยบายท�าสงครามต่อสู้
เพื่อเอาชนะยาเสพติดของรัฐบาล เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖ ดังที่ได้กล่าวแล้วข้างต้น ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา ๑๕๗
แห่งประมวลกฎหมายอาญา
๒. ข้อเสนอแนะเพื่อการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน และป้องกันมิให้องค์กรของรัฐก�าหนดนโยบายที่เป็นการเปิด
โอกาสให้มีการกระท�าอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขึ้นอีกในอนาคต
ข้อเสนอแนะในส่วนนี้ประกอบด้วยข้อเสนอแนะ ๓ ประการ ได้แก่ ๒.๑ ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการแก้ไขปรับปรุง
กฎหมายหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องของประเทศไทย ๒.๒ ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการปรับปรุงระบบการสืบสวนสอบสวนของ
พนักงานสอบสวนในคดีเกี่ยวกับการกระท�าการอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน และ ๒.๓ ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการแก้ไข
ปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จ�าเลยในคดีอาญา
๒.๑ ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องของประเทศไทย
โดยที่การก่ออาชญากรรมร้ายแรงระหว่างประเทศยังมิได้มีบัญญัติเป็นความผิดอาญาตามประมวล
กฎหมายอาญาของประเทศไทย ท�าให้เกิดอุปสรรคต่อศาลอาญาภายในประเทศต่อการพิจารณาและลงโทษคดีอาชญากรรม
ร้ายแรงดังกล่าวที่ก่อหรือกระท�าขึ้นในประเทศไทย ดังนั้น หากมีการก�าหนดอาชญากรรมร้ายแรงต่างๆ ดังกล่าวเป็นความ
ผิดตามประมวลกฎหมายอาญาของประเทศไทย ก็จะเป็นการแก้ไขสภาวะสุญญากาศของการกระท�าความผิดอาญาร้ายแรง
ดังกล่าว เพื่อให้ศาลไทยมีเขตอ�านาจเหนือคดีเหล่านี้ที่กระท�าในเขตราชอาณาจักรไทย และไม่จ�าต้องเสนอเรื่องหรือฟ้องคดี
ไปยังศาลอาญาระหว่างประเทศ แต่ทั้งนี้ การด�าเนินกระบวนพิจารณาคดีเกี่ยวกับการก่ออาชญากรรมร้ายแรงต่างๆ เหล่านี้
ในศาลไทยและองค์กรในกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยก็จะต้องมีประสิทธิภาพและได้มาตรฐานไม่ต�่าไปกว่าระเบียบ
ว่าด้วยวิธีพิจารณาและพยานหลักฐาน (Rules of Procedure and Evidence) ของศาลอาญาระหว่างประเทศตามที่ก�าหนด
ไว้ในธรรมนูญกรุงโรมฯ ดังกล่าว
ญ
ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖