Page 75 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 75
ในระดับมลรัฐ การขาดบทบัญญัติหรือการก�าหนดบทบัญญัติที่ไม่เหมาะสมย่อมเป็นการตัดอ�านาจ
ของหน่วยงานของรัฐที่จะด�าเนินคดีอย่างมีประสิทธิภาพต่อบุคคลที่กระท�าความผิด ระบุชะตากรรมของเหยื่อ (ผู้สูญหาย) และก�าหนด
มาตรการยับยั้งการกระท�าความผิดเช่นนั้น มลรัฐจ�านวน ๑๗ แห่งในจ�านวนทั้งหมด ๓๒ แห่ง มิได้ก�าหนดให้การกระท�าอันเป็นการ
บังคับบุคคลให้สูญหายเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาของมลรัฐ ในขณะที่อีก ๒๕ มลรัฐที่เหลือ แม้มลรัฐหล่านี้จะได้ก�าหนด
ให้การกระท�าอันเป็นการบังคับบุคคลให้สูญหายเป็นความผิดอาญาในกฎหมายภายในของมลรัฐ แต่นิยามของการกระท�าความผิด
ดังกล่าวที่ก�าหนดไว้ก็มีความแตกต่างกันอย่างมาก หรือไม่ก็ไม่สอดคล้องกับมาตรฐานระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน ตัวอย่างเช่น
กฎหมายของมลรัฐจ�านวนไม่น้อยที่เกี่ยวกับการบังคับบุคคลให้สูญหายมิได้ก�าหนดว่าบทบัญญัติเรื่องอายุความ (a statute of limitations)
จะใช้บังคับกับการก่ออาชญากรรมดังกล่าวอย่างไร ทั้งนี้ เนื่องจากการบังคับบุคคลให้สูญหายเป็นการกระท�าที่ต่อเนื่องตลอดไป
ตราบเท่าที่ชะตากรรมของเหยื่อ (ผู้สูญหาย) ยังไม่เป็นที่รับทราบ การเริ่มนับอายุความย่อมมิอาจกระท�าได้จนกว่าชะตากรรมของบุคคลนั้น
เป็นที่รับทราบแล้วและเมื่อเริ่มนับอายุความตามเงื่อนไขดังกล่าวแล้ว ระยะเวลาแห่งอายุความจะต้องได้สัดส่วนกับความรุนแรงอย่างยิ่ง
ของการกระท�าความผิดเช่นนั้น 89
ผลของการด�าเนินการของรัฐบาล ตัวอย่างเช่น ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. ๒๐๑๒ สภาคองเกรสแห่ง
มลรัฐ Neuva Leon ได้มีมติรับรองการปฏิรูปกฎหมายและให้แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา โดยก�าหนดให้การกระท�าอันเป็น
90
การบังคับบุคคลให้สูญหายเป็นความผิดอาญาตามประมวลกฎหมายอาญาแห่งมลรัฐ และบัญญัติไว้โดยชัดแจ้งในประมวลกฎหมายอาญา 91
การแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาที่ได้รับการรับรองนั้นเป็นการแก้ไขปัญหาความไม่ถูกต้องและสิ่งที่ขาดตกบกพร่องไปใน
ร่างกฎหมายฉบับก่อนหน้านี้ซึ่งไม่สอดคล้องกับข้อผูกพันของประเทศเม็กซิโกภายใต้อนุสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ ว่าด้วยสิทธิมนุษยชน
เช่น ร่างกฎหมายเดิมไม่อนุญาตให้ลงโทษหน่วยงานของรัฐที่อนุญาตหรือมีส่วนร่วมในการบังคับบุคคลให้สูญหายในฐานะเป็นผู้สนับสนุน
หรือผู้ให้ความยินยอม หรือร่างกฎหมายเดิมจ�ากัดความรับผิดของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องโดยตรงในการกระท�าอันเป็นการบังคับ
บุคคลให้สูญหาย การก�าหนดขอบเขตของการสูญหายให้มีขอบเขตที่แคบเช่นนี้ย่อมเป็นการจ�ากัดความสามารถของพนักงานอัยการ
ในการสอบสวนหน่วยงานของรัฐ ซึ่งรู้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระท�าอันเป็นการบังคับบุคคลให้สูญหายแต่เพียงผู้เดียวและล้มเหลวที่จะ
จัดการกับปัญหาดังกล่าว ข้อบกพร่องต่างๆ เหล่านี้ได้รับการแก้ไขแล้วในการปฏิรูปซึ่งผ่านเป็นกฎหมายใช้บังคับแล้วเมื่อเดือนธันวาคม
ค.ศ. ๒๐๑๒
พร้อมๆ กันนี้ ยังได้มีการแก้ไขนิยามของค�าว่า “ควำมผิดเกี่ยวกับกำรควบคุมตัว” (in flagrante delicto
detentions) ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาแห่งมลรัฐ Neuva Leon (Neuva Leon’s Criminal Procedure Code)
ซึ่งคลุมเครือให้แคบและชัดเจนขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับเงื่อนไขแห่งการเกิดขึ้นของการบังคับบุคคลให้สูญหายยิ่งขึ้น นิยามที่เคลือบคลุม
ดังกล่าวเปิดช่องให้เจ้าหน้าที่ของรัฐใช้ดุลพินิจที่มิชอบในการตีความถ้อยค�าดังกล่าว
89 International Convention for the Protection of All Persons from Enforced Disappearance, Article 8.
90 ภายหลังการท�างานร่วมกันเป็นระยะเวลาหลายเดือนระหว่างส�านักงานข้าหลวงใหญ่แห่งสหประชาชาติด้านสิทธิมนุษยชนในเม็กซิโก (UN Office of
the High Commissionner for Human Rights in Mexico) องค์กรเฝ้าระวังด้านสิทธิมนุษยชน (Human Rights Watch) กลุ่มพิทักษ์สิทธิมนุษยชนใน
พื้นที่ (local human rights defenders) และครอบครัวของผู้สูญหาย และด้วยการสนับสนุนอย่างเต็มที่ของส�านักงานอัยการมลรัฐ Neuva Leon โปรดดู
Maria Alejandra Arroyo, “Enforced Disappearance Criminalized in Neuva Leon, with Sentences Up to 40 Years” (Tipifican en Neuva Leon
desaparicion forzada, con penas hasta 40 anos) 14 November 2012. http://www.jornado.unam.mx/2012/11/14/estados/038n2est (สืบค้น
เมื่อวันที่ ๒๘ ธันวาคม ค.ศ. ๒๐๑๒)
91
Neuva Leon Criminal Code (Codigo Penal para El Estado de Neuva Leon), Neuva Leon Official Gazette (Periodico Official de
Neuva Leon) 1990 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมเมื่อวันที่ ๑๓ ธันวาคม ค.ศ. ๒๐๑๒
54
ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖