Page 73 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 73

ในด้านของภาคเอกชน ปัญหาการใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตลอดจนการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ใส่ใจ
               ในการปฏิบัติหน้าที่ของตนในการสอบสวนและติดตามผู้สูญหายตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาจะท�าให้ประชาชนชาวเม็กซิโก

               เกิดความไม่ไว้วางใจ (distrust) ต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐ วงจรอุบาทว์ (vicious cycle) และกระบวนการของรัฐที่ล้มเหลว (dysfunction)
               แต่อย่างไรก็ตาม  ความคิดริเริ่มและความพยายามของกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อผู้สูญหายที่เป็นคนรากหญ้า  (a  grassroots  victims’
               movement) ในมลรัฐ Neuva Leon ซึ่งเป็นหนึ่งในมลรัฐที่มีประชาชนสูญหายไปมากที่สุดของประเทศเม็กซิโก ร่วมกับกลุ่มพิทักษ์

               สิทธิมนุษยชนในพื้นที่ (Ciudadanos en Apoyo a los Derechos Humanos - CADHAC (Citizens in Support of Human
               Rights)) และครอบครัวของผู้สูญหายในการกดดันภาครัฐให้ต้องด�าเนินการสอบสวนปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างจริงจัง ประกอบกับความ

               จริงจังและความจริงใจมากขึ้นของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องในการด�าเนินการสอบสวนและติดตามหาตัวผู้สูญหาย น�ามาซึ่งการ
               ร่วมมือกันอีกครั้งหนึ่งระหว่างครอบครัวของผู้สูญหาย กลุ่มพิทักษ์สิทธิมนุษยชน และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ในการด�าเนินการสอบสวน
               ข้อเท็จจริงร่วมกันอย่างต่อเนื่อง  อันเป็นมิติใหม่  (a  new  approach)  ของการด�าเนินการร่วมกันโดยการประชุมท�างานสามฝ่าย

               (working meetings) ท�าให้ประชาชนชาวเม็กซิโก โดยเฉพาะครอบครัวของผู้สูญหายทั้งหลาย ค่อยๆ ให้ความไว้วางใจต่อเจ้าหน้าที่
                                                                                          84
                         83
               ของรัฐยิ่งขึ้น   และส่งผลให้การด�าเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงเป็นไปด้วยดีและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ของ
               รัฐก็ได้เรียนรู้เทคนิคและทักษะในการสอบสวนการกระท�าอันเป็นการบังคับบุคคลให้สูญหายไปด้วยในตัว ซึ่งเป็นการก่ออาชญากรรมที่
               มีเงื่อนไขการด�าเนินการเป็นการเฉพาะและแตกต่างไปจากการกระท�าความผิดอาญาทั่วไป
                             แม้ว่าจะมีการด�าเนินมาตรการต่างๆ  เพื่อจัดการและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน  ตลอดจน
               องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนต่างๆ ก็ตาม แต่มาตรการที่ส�าคัญและเห็นเด่นชัดที่สุดเพื่อจัดการและแก้ไขปัญหาการกระท�าอันเป็นการ

               บังคับบุคคลให้สูญหายที่รัฐบาลแห่งประเทศเม็กซิโกได้ด�าเนินการภายในประเทศของตนเป็นการเฉพาะ  ประกอบด้วยมาตรการส�าคัญ
               สองลักษณะด้วยกัน ได้แก่ (๑) การปฏิรูปในเชิงสถาบัน (Institutional Reforms) ที่เกี่ยวข้องกับการกระท�าอันเป็นการบังคับบุคคลให้

               สูญหาย และ (๒) การด�าเนินการให้มีการจัดท�าฐานข้อมูล (Database) เกี่ยวกับบุคคลที่สูญหายและศพที่ยังไม่สามารถระบุตัวได้

                             (๑) การปฏิรูปในเชิงสถาบัน  (Institutional  Reforms)  ที่เกี่ยวข้องกับการกระท�าอันเป็นการบังคับบุคคลให้
               สูญหาย

                                 นอกจากการจัดท�าคู่มือการสอบสวนคดีเกี่ยวกับการบังคับบุคคลให้สูญหาย  (a  prosecutor’s  manual)
               ซึ่งเป็นคดีที่มีลักษณะพิเศษขึ้นเป็นการเฉพาะ เพื่อก�าหนดขั้นตอนด�าเนินการพื้นฐานอย่างเป็นระบบที่จะต้องกระท�าในการสอบสวน
               เพื่อติดตามค้นหาผู้สูญหายและน�าตัวผู้กระท�าความผิดมาลงโทษ  อันแสดงถึงความตั้งใจอันแน่วแน่ของพนักงานอัยการมลรัฐ  Neuva

               Leon แล้ว มาตรการจัดการและแก้ไขปัญหาภายในประเทศที่ส�าคัญ ก็คือ การปฏิรูปในเชิงสถาบันเกี่ยวกับการกระท�าอันเป็นการบังคับ
               บุคคลให้สูญหาย ซึ่งเกิดจากข้อเสนอของพนักงานอัยการมลรัฐ Neuva Leon (the Neuva Leon Attorney General’s Office)

               โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการสอบสวนคดีเกี่ยวกับการบังคับบุคคลให้สูญหายให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น การปฏิรูป



                       83
                         โปรดดู Human Rights Watch, Mexico’s disappeared, The Enduring Cost of a Crisis Ignored, อ้ำงแล้ว, หน้า ๘ และ ๙๒.
               การด�าเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงโดยการประชุมร่วมกันทั้งสามฝ่ายในมลรัฐ Neuva Leon อันได้แก่ ครอบครัวของผู้สูญหาย องค์กรพิทักษ์สิทธิมนุษยชน และ
               เจ้าหน้าที่ของรัฐ (พนักงานอัยการ พนักงานสอบสวนหรือเจ้าหน้าที่ต�ารวจ) ดังกล่าว ได้กลายเป็น “ต้นแบบ” หรือ “พิมพ์เขียว” (blueprint) ให้แก่มลรัฐอื่นๆ ใน
               การด�าเนินการร่วมกันเพื่อกดดันภาครัฐให้ท�าการสอบสวนและติดตามหาตัวผู้สูญหาย
                       84
                         มีผู้ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการกระท�าอันเป็นเหตุให้บุคคลสูญหายไปเป็นจ�านวนมากกว่า ๕๐ ราย ใน ๗ กรณีของการสูญหายของชาวเม็กซิโกใน
               มลรัฐ Neuva Leon และในกรณีอื่นๆ แม้จะยังไม่มีการกล่าวหา แต่การสอบสวนข้อเท็จจริงก็มีความคืบหน้าไปมากและได้พยานหลักฐานต่างๆ ที่มีน�้าหนัก เช่น
               การเรียกให้ผู้ต้องสงสัยมาให้ถ้อยค�า การติดตามหาพยานผู้รู้เห็นเหตุการณ์ การกดดันผู้ประกอบการโทรคมนาคมให้ส่งมอบบันทึกการสนทนาทางโทรศัพท์มือถือ
               (cell  phone  records)  ของผู้สูญหาย  ทั้งนี้  การด�าเนินการต่างๆ  ดังกล่าวไม่เคยเกิดขึ้นเลยในระหว่างช่วงเวลาที่เกิดปัญหาการท�าให้ชาวเม็กซิโกผู้บริสุทธิ์ต้อง
               สูญหายไปอย่างแพร่หลายและเป็นจ�านวนมาก


               52
               ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖
   68   69   70   71   72   73   74   75   76   77   78