Page 78 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 78
การจ�าแนกแยกแยะอาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของฐานข้อมูลในฐานะที่เป็นเครื่องมือในการสอบสวน และในฐานะที่เป็น
วิธีการหนึ่งของแบบการระบุตัวบุคคล (identifying patterns) ซึ่งเป็นสิ่งส�าคัญเพื่อการป้องกันปัญหา ประการที่สอง นิยามของค�าว่า
“ผู้สูญหำย” (disappeared) ที่ใช้ในฐานข้อมูลคลุมเครือและไม่สอดคล้องกับมาตรฐานสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ (international
human rights standards) จึงควรแก้ไขนิยามของค�าดังกล่าวให้ถูกต้องยิ่งขึ้น กล่าวคือ เป็นกรณีที่หลักฐานเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่า
บุคคลหนึ่งถูกเอาตัวไปโดยขัดหรือฝืนต่อความประสงค์ของบุคคลนั้นและผู้กระท�าการนั้นด�าเนินการต่างๆ เพื่อปกปิดชะตากรรม
ของบุคคลดังกล่าว ในกรณีที่หลักฐานเบื้องต้น ท�าให้เป็นการยากที่จะสรุปว่ากรณีที่เกิดขึ้นตรงกับนิยามของผู้สูญหายหรือไม่ จะต้องมี
การด�าเนินการสอบสวนเบื้องต้น (preliminary investigation) ก่อนที่จะก�าหนดประเภทแห่งคดี (classifying the case) นอกจากนี้
การสูญหายของบุคคลยังแตกต่างไปจากการกระท�าอันเป็นการบังคับให้บุคคลสูญหาย ซึ่งจะต้องมีสัญญาณหรือหลักฐานแสดงถึงการมี
ส่วนร่วมโดยตรงหรือโดยอ้อมของเจ้าหน้าที่ของรัฐ (the direct or indirect involvement of state agents) อีกด้วย
๒.๒.๒ การปฏิบัติตามข้อผูกพันตามกฎเกณฑ์ระหว่างประเทศ
ดังที่ได้กล่าวแล้วข้างต้น การบังคับบุคคลให้สูญหาย (Enforced disappearance) เป็นการกระท�าอาชญากรรม
ที่ต้องห้ามตามกฎหมายจารีตประเพณีระหว่างประเทศ และมีลักษณะเฉพาะของการกระท�าที่แตกต่างไปจากอาชญากรรมระหว่าง
ประเทศอย่างอื่น การบังคับบุคคลให้สูญหายจึงเป็นการกระท�าที่ฝ่าฝืนต่อกฎเกณฑ์อันเกี่ยวด้วยการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนหลายฉบับ
ในเวลาเดียวกัน ตามมติที่ประชุมข้าหลวงใหญ่แห่งสหประชาชาติปี ๑๙๗๘ การบังคับบุคคลให้สูญหายเป็นการกระท�าที่ฝ่าฝืนต่อ
สิทธิของบุคคลในชีวิต (Right to life) เสรีภาพจากการถูกทรมาน (Freedom from torture) และเสรีภาพจากการถูกจับและควบคุม
ตัวโดยอ�าเภอใจ (Freedom from arbitrary arrest and detention) โดยนัยดังกล่าว การบังคับบุคคลให้สูญหายจึงเป็นการกระท�า
อันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงอันเป็นการต้องห้ามตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (Universal Declaration
of Human Rights) กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (International Covenant on Civil and
Political Rights - ICCPR) และอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือการลงโทษที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย�่ายี
ศักดิ์ศรี (Convention against Torture and Other Cruel, Inhuman or Degrading Treatment or Punishment) ในส่วนที่
เกี่ยวกับสิทธิของบุคคลในชีวิต สิทธิของบุคคลในเสรีภาพและความปลอดภัย (Right to liberty and security of the person) สิทธิ
ที่จะไม่เป็นวัตถุแห่งการทรมาน (Right not to be subjected to torture) และสิทธิในการได้รับพิจารณาตามกฎหมายในฐานะเป็น
99
บุคคล (Right to recognition as a person before the law) ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการแห่งสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (UN
Human Rights Committee) เห็นว่าการบังคับบุคคลให้สูญหายเป็นการฝ่าฝืนหรือการคุกคามอย่างรุนแรงต่อสิทธิในชีวิต เสรีภาพ
และความปลอดภัย (Right to life, to liberty and security) เสรีภาพจากการถูกทรมานหรือการปฏิบัติอย่างป่าเถื่อน ไร้มนุษยธรรม
หรือไร้ศักดิ์ศรี (Freedom from torture or cruel, inhuman or degrading treatment)
อย่างไรก็ตาม ในบริบทของการบังคับบุคคลให้สูญหายโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นการก่อ “อาชญากรรมที่ต่อเนื่อง”
100
(a “continuing crime”) อันน�ามาซึ่งเหยื่อหรือผู้ได้รับผลกระทบเป็นจ�านวนมาก ซึ่งมิได้จ�ากัดอยู่แต่เพียงบุคคลผู้ถูกบังคับให้สูญหาย
เท่านั้น หากแต่ยังครอบคลุมไปถึงบุคคลในครอบครัวของผู้ถูกบังคับให้สูญหายด้วยนั้น มีอนุสัญญาสองฉบับที่ก�าหนดหน้าที่ของรัฐ
ภาคีที่ต้องด�าเนินการอันเกี่ยวข้องกับการบังคับให้บุคคลสูญหายเป็นการเฉพาะ ได้แก่ อนุสัญญา Inter-American ว่าด้วยการบังคับ
99
กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (International Covenant on Civil and Political Rights - ICCPR) ได้รับการ
รับรองโดยสหประชาชาติ เมื่อวันที่ ๑๖ ธันวาคม ค.ศ. ๑๙๖๖ และมีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ ๒๓ มีนาคม ค.ศ. ๑๙๗๖ ประเทศเม็กซิโกเข้าเป็นภาคีแห่งกติการะหว่าง
ประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง โดยให้สัตยาบันเมื่อวันที่ ๒๓ มีนาคม ค.ศ. ๑๙๘๑
100
Inter-American Covention on Forced Disappearance of Persons, Art. 3; International Convention for the Protection of All
Persons from Enforced Disappearance, Art. 8 (1) (b). อาชญากรรมดังกล่าวยังคงด�าเนินต่อไปตราบใดที่บุคคลผู้สูญหายยังคงหายตัวไปและไม่มีผู้ใดทราบ
ข้อมูลเกี่ยวกับชะตากรรมหรือสถานที่อยู่ของบุคคลนั้น
57
ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖