Page 80 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 80
อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการป้องกันบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ ค.ศ. ๒๐๐๖
107
ได้ก�าหนดหลักการพื้นฐานว่าบุคคลจะถูกบังคับให้สูญหายมิได้ และจะมีการหยิบยกสถานการณ์พิเศษใดๆ ขึ้นอ้างเพื่อเป็นเหตุผล
ของการบังคับบุคคลให้สูญหายมิได้ ไม่ว่าจะเป็นสภาวะสงครามหรือภัยคุกคามจากสงคราม การไม่มีเสถียรภาพทางการเมืองภายใน
ประเทศ หรือสถานการณ์ฉุกเฉินอื่นใดมิได้ ด้วยเหตุนี้ อนุสัญญาฯ นี้ จึงก�าหนดหน้าที่ของรัฐภาคีในการด�าเนินการต่างๆ ที่จ�าเป็นเพื่อ
คุ้มครองบุคคลมิให้ถูกบังคับให้สูญหาย หน้าที่ส�าคัญประการหนึ่งของรัฐภาคี ได้แก่ การด�าเนินมาตรการต่างๆ ที่จ�าเป็นในการน�า
ตัวบุคคลดังต่อไปนี้มารับผิดทางอาญา ได้แก่ (๑) บุคคลใดที่กระท�า สั่ง ให้ความช่วยเหลือ หรือชักชวนให้กระท�า หรือพยายามกระท�า
เป็นผู้สมรู้ร่วมคิด หรือมีส่วนร่วมในการบังคับบุคคลให้สูญหาย (๒) ผู้บังคับบัญชาซึ่งรู้หรือไม่ใส่ใจข้อมูล ซึ่งแสดงให้เห็นโดยชัดเจน
ว่าผู้ใต้บังคับบัญชาที่อยู่ภายใต้อ�านาจและการควบคุมของเขาก�าลังกระท�าการหรือจะกระท�าการบังคับบุคคลให้สูญหาย หรือรับผิดชอบ
การกระท�าการหรือควบคุมการด�าเนินการโดยรวมอันเกี่ยวกับการบังคับบุคคลให้สูญหาย หรือเพิกเฉยไม่ด�าเนินมาตรการที่จ�าเป็น
และเหมาะสมซึ่งอยู่ในอ�านาจของตน เพื่อป้องกันหรือลงโทษการบังคับบุคคลให้สูญหาย หรือไม่ส่งเรื่องต่อองค์กรที่มีอ�านาจหน้าที่
108
เพื่อการสอบสวนและการด�าเนินคดี ทั้งนี้ ค�าสั่งหรือค�าแนะน�าขององค์กรของรัฐใดๆ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรพลเรือน ทหาร หรืออื่นใด
109
ไม่อาจจะถูกหยิบยกขึ้นกล่าวอ้างเพื่อเป็นเหตุผลของการกระท�าความผิดอาญาฐานบังคับบุคคลให้สูญหายแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม มิได้หมายความว่า หากการกระท�าใดไม่เข้าเงื่อนไขของการบังคับบุคคลให้สูญหายตามนัย
แห่งอนุสัญญาดังกล่าว เนื่องจากเป็นการกระท�าซึ่งไม่มีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยแล้ว รัฐภาคีไม่ต้องด�าเนินการ
สืบสวนสอบสวนใดๆ แต่อย่างใด อนุสัญญาดังกล่าวจึงก�าหนดไว้โดยชัดแจ้งด้วยว่า รัฐภาคีมีหน้าที่การด�าเนินมาตรการที่เหมาะสมเพื่อ
สืบสวนสอบสวนการกระท�าต่างๆ ตามที่ก�าหนดไว้ใน ข้อ ๒ แห่งอนุสัญญาดังกล่าว ซึ่งกระท�าโดยบุคคลหนึ่งหรือกลุ่มบุคคลหนึ่งโดย
110
มิได้รับอนุญาต การสนับสนุนหรือการยอมรับของรัฐ และน�าตัวบุคคลนั้นมาด�าเนินคดีด้วย
นอกจากนี้ อนุสัญญา Inter-American ว่าด้วยการบุคคลถูกบังคับให้สูญหาย ค.ศ. ๑๙๙๔ ซึ่งตระหนักว่าการ
บังคับบุคคลให้สูญหายเป็นการกระท�าที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนที่ไม่มีข้อยกเว้นและที่จ�าเป็นซึ่งได้รับการคุ้มครองไว้ในอนุสัญญา
แห่งอเมริกาว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (The American Convention on Human Rights) ปฏิญญาแห่งอเมริกาว่าด้วยสิทธิและหน้าที่
ของมนุษย์ (The American Declaration of the Rights and Duties of Man) และปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (The
111
Universal Declaration of Human Rights) อนุสัญญา Inter-American จึงได้ก�าหนดหน้าที่ของรัฐภาคีในการด�าเนินการต่างๆ
ที่จ�าเป็นเพื่อคุ้มครองบุคคลมิให้ถูกบังคับให้สูญหาย หน้าที่ส�าคัญประการหนึ่งของรัฐภาคีจะต้องไม่กระท�าการ อนุญาต หรือยอมรับต่อ
การบังคับบุคคลให้สูญหาย แม้ในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือการระงับหลักประกันการคุ้มครองบุคคล ตลอดจนการก�าหนดมาตรการทาง
กฎหมาย ทางปกครอง ทางกระบวนการยุติธรรม และมาตรการอื่นๆ ที่จ�าเป็นต่อพันธกรณีตามที่ก�าหนดไว้ในอนุสัญญานี้ 112
107
International Convention for the Protection of All Persons from Enforced Disappearance, Article 1.
“1. No one shall be subjected to enforced disappearance.
2. No exceptional circumstances whatsoever, whether a state of war or a threat of war, internal political instability or any public
emergency, may be invoked as a justification for enforced disappearance.”
108
International Convention for the Protection of All Persons from Enforced Disappearance, Article 6, paragraph 1.
109
International Convention for the Protection of All Persons from Enforced Disappearance, Article 6, paragraph 2.
110
International Convention for the Protection of All Persons from Enforced Disappearance, Article 3
“Each State Party shall take appropriate measures to investigate acts defined in article 2 committed by persons or group of persons
acting without the authorization, support or acquiescence of the State and to bring those responsible to justice.”
111
ความตอนหนึ่งใน Preamble ของ Inter-American Covention on Forced Disappearance of Persons 1994
112
Inter-American Covention on Forced Disappearance of Persons 1994, Article I.
59
ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖