Page 72 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 72
๒.๒ หน้าที่ของรัฐบาลในการจัดการและแก้ไขปัญหาการกระท�าอันเป็นการละเมิด
สิทธิมนุษยชน
ปัญหาการบังคับบุคคลให้สูญหายที่เกิดขึ้นกับประชาชนชาวเม็กซิโกผู้บริสุทธิ์ในกรณีต่างๆ อย่างต่อเนื่อง น�ามาซึ่งสภาพการณ์
แห่งความรุนแรง (violence) การไร้กฎหมายบังคับ (lawlessness) ตลอดจนบรรยายกาศแห่งความหวาดกลัว (fear) และความรู้สึก
ไม่ปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สิน ตลอดระยะเวลาหกปีของการบริหารประเทศของประธานาธิบดีเฟลิเป้ คาลเดรอน จน
กระทั่งในที่สุด ความกดดัน ความไม่เป็นธรรม และผลกระทบต่างๆ ผลักดันให้เกิดกระแสการต่อต้านและเรียกร้องอย่างกว้างขวาง
ของประชาชนชาวเม็กซิโกที่ได้รับผลกระทบ (เนื่องจากบุคคลในครอบครัวของตนได้สูญหายไปโดยมิชอบ และไม่ทราบชะตากรรม
หรือไม่ทราบสถานที่อยู่ของบุคคลนั้นแต่อย่างใด) และกระแสเรียกร้องจากองค์กรต่างๆ ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ โดยเฉพาะ
องค์กรเฝ้าระวังด้านสิทธิมนุษยชน (Human Rights Watch) ที่ต้องการให้รัฐบาลท�าความจริงให้ปรากฏ และเยียวยาความเสียหายที่
ประชาชนชาวเม็กซิโกผู้บริสุทธิ์จ�านวนมหาศาล (wave of disappearances) ได้รับจากการด�าเนินนโยบายท�าสงครามกับยาเสพติดที่
ใช้ความรุนแรงของรัฐบาลของนายเฟลิเป้ คาลเดรอน หากแม้ตลอดระยะเวลาของการบริหารประเทศ นายเฟลิเป้ คาลเดรอน ปฏิเสธ
มาโดยตลอดว่ากองทัพและหน่วยงานความมั่นคง (security forces) ไม่เคยกระท�าการใดๆ อันเป็นการใช้อ�านาจโดยมิชอบ (abuses)
แม้จะมีหลักฐานต่างๆ ที่แสดงให้เห็นในทางตรงกันข้าม แต่ในที่สุด ในช่วงท้ายของการด�ารงต�าแหน่ง นายเฟลิเป้ คาลเดรอน ก็ยอมรับ
ว่ามีการกระท�าอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน (human rights violations) เกิดขึ้น และแม้จะดูเหมือนว่าเขาพยายามจะด�าเนิน
มาตรการต่างๆ เพื่อจ�ากัดขอบเขตของการใช้อ�านาจที่มิชอบดังกล่าวก็ตาม แต่ก็เป็นเพียงการด�าเนินการในวงจ�ากัดเท่านั้น และที่ส�าคัญ
เขาล้มเหลวที่จะปฏิบัติหน้าที่ประการพื้นฐานของตนอย่างครบถ้วน ในอันที่จะท�าให้การกระท�าการอันมิชอบโดยทหารและเจ้าหน้าที่
ต�ารวจได้รับการสอบสวน และน�าตัวผู้กระท�าความผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
การจัดการกับปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างจริงจังจึงตกเป็นภาระหน้าที่อันหนักหน่วงของนายเอ็นริก เปน่า นิเอโต (Enrique
Pena Nieto) ประธานาธิบดีในสมัยต่อมาของประเทศเม็กซิโก นับแต่วันที่ ๑ ธันวาคม ค.ศ. ๒๐๑๒ ภายหลังการพ้นจากต�าแหน่งของ
นายเฟลิเป้ คาลเดรอน
หน้าที่ของรัฐบาลเม็กซิโกในการจัดการกับปัญหาการสูญเสียและผลกระทบต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้ความรุนแรงตามนโยบาย
การท�าสงครามปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาลนายเฟลิเป้ คาลเดรอน และน�ามาซึ่งปัญหาการบังคับประชาชนชาวเม็กซิโกผู้บริสุทธิ์
ให้สูญหายเป็นจ�านวนมหาศาลดังกล่าวนั้น ประกอบด้วยการจัดการในด้านต่างๆ ทั้งมิติภายในประเทศ และมิติระหว่างประเทศ ดังนั้น
การจัดการและแก้ไขปัญหาการกระท�าอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนจึงประกอบด้วยการด�าเนินการในสองลักษณะ ได้แก่ ๒.๒.๑
การแก้ไขปัญหาโดยมาตรการภายในประเทศ และ ๒.๒.๒ การปฏิบัติตามข้อผูกพันตามกฎเกณฑ์ระหว่างประเทศ
๒.๒.๑ การแก้ไขปัญหาโดยมาตรการภายในประเทศ
หากปรากฏว่า ภาครัฐพยายามแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น โดยการจัดตั้ง “หน่วยงานอัยการพิเศษเพื่อดูแลเหยื่อ
อาชญากรรม” (The Special Prosecutor’s Office for Attention to Victims of Crimes - PROVICTIMA) ขึ้นในปี ค.ศ. ๒๐๑๑
เพื่อท�าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ แก่ครอบครัวของผู้สูญหายเป็นการเฉพาะ แต่อย่างไรก็ตาม ครอบครัวของผู้สูญหาย
จ�านวนมากไม่ทราบถึงการมีอยู่และภารกิจของหน่วยงานดังกล่าว จึงมิได้ประสานขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานนั้น ในขณะที่
ครอบครัวของผู้สูญหายบางรายที่ได้เข้าขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานดังกล่าว ก็ให้ข้อมูล (ต่อองค์การเฝ้าระวังด้านสิทธิมนุษยชน)
ว่าเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานดังกล่าวไม่สามารถปฏิบัติให้เป็นไปตามภารกิจของหน่วยงาน นอกจากนี้ ครอบครัวของผู้สูญหายหลายราย
กล่าวด้วยว่าหน่วยงานดังกล่าวกดดันให้ญาติหรือครอบครัวของผู้สูญหายยอมรับว่าผู้สูญหายนั้นเสียชีวิตแล้ว ทั้งๆ ที่ไม่มีหลักฐาน
อันแน่ชัดที่จะสรุปเช่นนั้นได้ อันเป็นการเพิ่มความทุกข์ใจให้แก่ญาติและครอบครัวของผู้สูญหาย
51
ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖