Page 202 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 202
๕.๒.๒ ข้อเสนอแนะเพื่อการเยียวยาความเสียหายให้แก่ครอบครัวของผู้เสียหาย
ข้อเสนอแนะประการนี้เป็นข้อเสนอแนะประการส�าคัญอีกประการหนึ่งของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
เพิ่มเติมขึ้นจากการเปิดเผยข้อมูลและน�าเสนอความจริงต่อสาธารณชนดังกล่าวข้างต้น โดยที่ปฏิเสธมิได้ว่าการด�าเนินนโยบายในการ
ท�าสงครามขั้นแตกหักกับยาเสพติดของรัฐบาล พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖ เป็น “สาเหตุหลัก” ที่ก่อให้เกิดการกระท�า
อันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงในลักษณะต่างๆ ต่อประชากรพลเรือนดังที่ได้กล่าวแล้วข้างต้น ทั้งต่อการสูญเสียชีวิต
ร่างกาย และทรัพย์สิน และต่อการสูญเสียศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และเกียรติยศชื่อเสียงของผู้เสียหายและครอบครัวหรือญาติของ
ผู้เสียหาย หากแต่ผู้เสียหายและครอบครัวของผู้เสียหายจ�านวนไม่น้อยยังคงมิได้รับการเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการด�าเนิน
นโยบายดังกล่าวของรัฐบาลเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖ แต่อย่างใด ด้วยเหตุนี้ รัฐจึงมีหน้าที่ที่จะต้องเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้น
แก่ผู้เสียหายและครอบครัวหรือญาติของผู้เสียหายทั่วทุกคนโดยเสมอภาคและเท่าเทียมกัน
ข้อเสนอแนะ
ในฐานะองค์กรระดับชาติในด้านการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติควรจัดตั้ง
คณะกรรมการคณะหนึ่งขึ้นเพื่อท�าหน้าที่ในการเรียกร้องความเป็นธรรมและค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายและครอบครัวหรือญาติของ
ผู้เสียหาย การด�าเนินการดังกล่าวย่อมสอดคล้องกับอ�านาจหน้าที่ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติดังที่เคยบัญญัติไว้ใน
454
มาตรา ๒๕๗ (๔) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ แม้ว่าในปัจจุบัน รัฐธรรมนูญฯ ดังกล่าวจะได้ถูก
ยกเลิกไปแล้วโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) (เดือนพฤษภาคม ๒๕๕๗) แต่อย่างไรก็ตาม รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร
455
456
ไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ ก็ได้รับรองหลักการดังกล่าวไว้อยู่เช่นเดิมดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๔ และมาตรา ๕
นอกจากนี้ ตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (International Covenant on
Civil and Political Rights: ICCPR) ซึ่งประเทศไทยได้เข้าเป็นภาคีกติกาดังกล่าวแล้ว ประเทศไทยยังมีหน้าที่ที่จะต้องให้การ
เยียวยาความเสียหายแก่ประชากรพลเรือนที่ถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพโดยมิชอบอย่างจริงจังอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามข้อ ๒ ของ
กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมือง และสิทธิทางการเมือง ดังความว่า
“รัฐภำคีแต่ละรัฐแห่งกติกำนี้รับที่จะ
(ก) ประกันว่ำบุคคลใดที่สิทธิหรือเสรีภำพของตนซึ่งรับรองไว้ในกติกำนี้ ถูกละเมิด ต้องได้รับกำรเยียวยำ
อย่ำงเป็นผลจริงจัง โดยไม่ต้องค�ำนึงว่ำกำรละเมิดนั้นจะกระท�ำโดยบุคคลผู้ปฏิบัติกำรตำมหน้ำที่
(ข) ประกันว่ำบุคคลใดที่เรียกร้องกำรเยียวยำดังกล่ำวย่อมมีสิทธิที่จะได้รับกำรพิจำรณำจำกฝ่ำยตุลำกำร
ฝ่ำยบริหำร หรือฝ่ำยนิติบัญญัติที่มีอ�ำนำจ หรือจำกหน่วยงำนอื่นที่มีอ�ำนำจตำมที่ก�ำหนดไว้โดยระบบ
กฎหมำยของรัฐ และจะพัฒนำหนทำงกำรเยียวยำด้วยกระบวนกำรยุติธรรมทำงศำล
(ค) ประกันว่ำเจ้ำหน้ำที่ผู้มีอ�ำนำจต้องบังคับกำรให้กำรเยียวยำนั้นเป็นผล”
454
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๒๕๗ (๔) บัญญัติว่า “คณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติมีอ�ำนำจหน้ำที่
ดังต่อไปนี้ (๔) ฟ้องคดีต่อศำลยุติธรรมแทนผู้เสียหำย เมื่อได้รับกำรร้องขอจำกผู้เสียหำยและเป็นกรณีที่เห็นสมควรเพื่อแก้ไขปัญหำกำรละเมิดสิทธิมนุษยชน
เป็นส่วนรวม...”
455
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ มาตรา ๔ บัญญัติว่า “ภำยใต้บังคับบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้ ศักดิ์ศรี
ควำมเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภำพ และควำมเสมอภำค บรรดำที่ชนชำวไทยเคยได้รับกำรคุ้มครองตำมประเพณีกำรปกครองประเทศไทยในระบอบประชำธิปไตย
อันมีพระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุขและตำมพันธกรณีระหว่ำงประเทศที่ประเทศไทยมีอยู่แล้ว ย่อมได้รับกำรคุ้มครองตำมรัฐธรรมนูญนี้”
456
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ มาตรา ๕ บัญญัติว่า “เมื่อไม่มีบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้บังคับแก่กรณีใด
ให้กระท�ำกำรนั้นหรือวินิจฉัยกรณีนั้นไปตำมประเพณีกำรปกครองประเทศไทยในระบอบประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุข แต่ประเพณีกำร
ปกครองดังกล่ำวต้องไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญนี้”
181
ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖