Page 198 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 198
(๒.๒) การมุ่งเน้นการปฏิบัติการเพื่อลดจ�านวนผู้ค้าและผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้ได้มากที่สุดตามเป้าหมาย
ที่องค์กรของรัฐส่วนกลางก�าหนด เพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์ชี้วัดที่ ศตส. มท. ซึ่งเป็นองค์กรอ�านวยการและก�ากับดูแลก�าหนดไว้โดย
เคร่งครัด และการรายงานผลเกี่ยวกับการจับกุม การวิสามัญ และการเสียชีวิตของบุคคลต่างๆ ที่มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อผู้เกี่ยวข้องกับ
ยาเสพติด
โดยนัยดังกล่าว เจ้าหน้าที่ของรัฐจึงมุ่งเน้นไปที่จ�านวนที่ลดลงของผู้ค้าหรือผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดที่มี
ชื่ออยู่ในบัญชีด�าเป็นส�าคัญ ด้วยเหตุนี้ เมื่อมีผู้เสียชีวิตในพื้นที่ต่างๆ เจ้าหน้าที่ของรัฐก็จะมุ่งเน้นไปที่การรายงานข้อมูลตัวเลขที่ลดลง
ของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดตามบัญชีรายชื่อผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดโดยทันที เพื่อแสดงต่อ ศตส. มท. ซึ่งเป็นองค์กรก�ากับ
ดูแลการปฏิบัติการตามนโยบายของรัฐบาลว่าตนได้ปฏิบัติการให้เป็นไปตามเกณฑ์ชี้วัดที่ก�าหนดไว้โดยเคร่งครัดเป็นส�าคัญ
หากแต่เจ้าหน้าที่ของรัฐมิได้มุ่งเน้นที่การสืบสวนสอบสวนหรือการติดตามหาตัวผู้กระท�าความผิดมาลงโทษแต่อย่างใด แม้การฆาตกรรม
หรือการกระท�าให้บุคคลถึงแก่ความตายจะเกิดขึ้นใจกลางเมืองหรือกลางสี่แยก และในช่วงระหว่างวัน อันแสดงให้เห็นถึงการกระท�า
ที่อุกอาจและไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมืองก็ตาม ดังจะเห็นได้อย่างชัดแจ้ง ในเรื่องร้องเรียนจ�านวนมากที่เจ้าหน้าที่ต�ารวจสันนิษฐาน
ไว้ก่อนหรือมักจะกล่าวอ้างต่อสังคมหรือต่อสื่อมวลชนโดยทันทีว่าการตายหรือการฆาตกรรมบุคคลเหล่านั้นเป็น “การฆ่าตัดตอน”
กันเองระหว่างผู้ผลิตหรือผู้ค้ายาเสพติด ทั้งๆ ที่ยังมิได้มีการสืบสวนหาพยานหลักฐานอย่างชัดแจ้งแน่นอนที่สามารถยืนยันถึงข้อเท็จ
จริงเช่นนั้นได้แต่อย่างใด อันเป็นการชักจูงให้สังคมและประชาชนส่วนรวมของประเทศเข้าใจว่าบุคคลที่เสียชีวิตนั้นเกี่ยวข้องกับยา
เสพติดและเสียชีวิตเนื่องจากการกระท�าของผู้ผลิตหรือผู้ค้ายาเสพติดด้วยกันเอง
จึงกล่าวได้ว่า การน�านโยบายในการท�าสงครามขั้นแตกหักกับยาเสพติดของรัฐบาลแปลงไปสู่การปฏิบัติการ
ตามกระบวนการและขั้นตอนต่างๆ ข้างต้นโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐในระดับต่างๆ จึงเป็นไปแต่เพียง ใน “เชิงรูปแบบ” เป็นส�าคัญ เพื่อ
ตอบสนองเป้าหมายตามเกณฑ์ชี้วัดผลส�าเร็จของการปฏิบัติการแต่เพียงอย่างเดียวเป็นส�าคัญ หากแต่ใน “เชิงเนื้อหา” แล้วการปฏิบัติ
การต่างๆ กระท�าไปโดยไม่มีการก�าหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขของการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้
เป็นกรอบของการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความชอบธรรม (Legality) และความได้สัดส่วน (Proportionality) ของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตาม
หลักหลักนิติรัฐ-หลักนิติธรรม และหลักการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนและพลเมืองที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด การด�าเนิน
นโยบายของรัฐบาลจึงก่อให้เกิด “ความผิดพลาด” และ “ผลกระทบ” อย่างรุนแรงต่อประชากรพลเรือนโดยทั่วไป
๕.๑.๓ ผลของการด�าเนินนโยบายในการท�าสงครามขั้นแตกหักกับยาเสพติด
ผลการด�าเนินนโยบายในการท�าสงครามขั้นแตกหักกับยาเสพติดของรัฐบาล พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ในช่วงระยะ
เวลาสามเดือนแห่งการปฏิบัติการอย่างเข้มงวดและไร้ความปรานีี ปรากฏผลให้เห็นโดยชัดแจ้งว่า มี “ผู้เสียชีวิต” “อย่างกว้างขวาง”
เป็นจ�านวนมาก ครอบคลุมพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ และเป็นจ�านวน “มากผิดปกติ” โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับอัตราการเสียชีวิต
ของประชากรพลเรือนในช่วงสองปีก่อนและช่วงสองปีหลังจากการด�าเนินนโยบายในการท�าสงครามขั้นแตกหักกับยาเสพติดดังกล่าว
การด�าเนินนโยบายในการท�าสงครามขั้นแตกหักกับยาเสพติดของรัฐบาล พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เมื่อปี พ.ศ.
๒๕๔๖ น�ามาซึ่งผลกระทบอย่างรุนแรงและในวงกว้างต่อประชากรพลเรือน การสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการด�าเนินนโยบายดังกล่าว
ของรัฐบาลมี “ลักษณะเฉพาะ” ซึ่งสามารถสรุปได้ ดังนี้
177
ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖