Page 175 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 175

ถึงที่สุดให้ยกฟ้องในคดีที่ต้องหานั้น เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบทรัพย์สิน หากมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าทรัพย์สินรายใดอาจมี
               การโอน  ยักย้าย  ซุกซ่อน  หรือเป็นกรณีที่มีเหตุผลและความจ�าเป็นอย่างอื่นให้คณะกรรมการมีอ�านาจสั่งยึดหรืออายัดทรัพย์สิน

               รายนั้นไว้ชั่วคราวจนกว่าจะมีการวินิจฉัย  ทั้งนี้  ไม่ตัดสิทธิผู้ถูกตรวจสอบหรือผู้ซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่จะยื่นค�าร้องขอ
               ผ่อนผันเพื่อขอรับทรัพย์สินนั้นไปใช้ประโยชน์โดยไม่มีประกันหรือมีประกัน หรือมีประกันและหลักประกันก็ได้ (มาตรา ๒๒)
                                       แต่ในเรื่องร้องเรียนหลายๆ เรื่อง การด�าเนินการยึดทรัพย์สินของผู้เสียหายหรือญาติของผู้เสียหาย

               ที่กระท�าโดยเจ้าหน้าที่ต�ารวจนั้น  มิได้เป็นการปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยมาตรการปราบปรามยาเสพติดแต่ประการใด
               ในทางปฏิบัติได้ปรากฏข้อเท็จจริงว่า เจ้าหน้าที่ต�ารวจในพื้นที่ได้ด�าเนินการยึดทรัพย์สินของผู้ต้องสงสัยที่จ�าเป็นต่อการด�ารงชีพ เช่น
               อุปกรณ์เครื่องครัว  อุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบอาชีพ  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการลดจ�านวนผู้ต้องสงสัยว่าค้าหรือผู้ผลิตยาเสพติด

               เป็นส�าคัญ

                            ๔.๒.๒  ปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับการกระท�าอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นจากการด�าเนิน

               นโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด
                                   ในทางตรงกันข้ามกับปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับการกระท�าความผิดอาญาซึ่งเกี่ยวข้องได้ทั้งกับ
               บุคคลผู้กระท�าความผิดอาญานั้นๆ โดยตรง และบุคคลผู้ก�าหนดนโยบายอันเป็นการเปิดช่องให้มีการกระท�าความผิดอาญานั้น ปัญหา

               ทางกฎหมายเกี่ยวกับการกระท�าอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนในที่นี้จะมุ่งไปที่  “บุคคลผู้ก�าหนดนโยบาย”  ในการประกาศสงคราม
               ต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดเป็นหลัก กล่าวคือ พ.ต.ท. ทักษิณ  ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นเป็นผู้ก�าหนดและผู้ประกาศนโยบาย

               ดังกล่าว ปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับการกระท�าอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นจากการด�าเนินนโยบายในการประกาศ
               สงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดของรัฐบาล  พ.ต.ท.  ทักษิณ  ชินวัตร  แบ่งออกได้เป็นสองประการส�าคัญ  ได้แก่  (๑)  ปัญหาว่า
               การด�าเนินนโยบายของรัฐบาล  พ.ต.ท.  ทักษิณ  ชินวัตร  ในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดเป็นการก่ออาชญากรรม

               ร้ายแรงตามกฎหมายระหว่างประเทศหรือไม่อย่างไร และ (๒) หากการด�าเนินนโยบายดังกล่าวของรัฐบาล พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร
               เป็นการก่ออาชญากรรมร้ายแรงตามกฎหมายระหว่างประเทศ กรณีจะต้องด�าเนินการอย่างไรเพื่อให้ผู้ก�าหนดนโยบายดังกล่าวได้รับโทษ
                                   (๑) ปัญหาว่าการด�าเนินนโยบายของรัฐบาล พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อ

               เอาชนะยาเสพติด เป็นการก่ออาชญากรรมร้ายแรงตามกฎหมายระหว่างประเทศหรือไม่ อย่างไร
                                       ในการพิจารณาปัญหาว่าการด�าเนินนโยบายในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดของ
               รัฐบาล พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เป็นการก่ออาชญากรรมร้ายแรงตามกฎหมายระหว่างประเทศหรือไม่ อย่างไร ในที่นี้มีความผิดฐาน

               ก่ออาชญากรรมร้ายแรงตามกฎหมายระหว่างประเทศสองฐานความผิดที่ควรจะน�ามาพิจารณา ได้แก่ (๑.๑) การก่ออาชญากรรมต่อ
               มนุษยชาติ (Crime against humanity) และ (๑.๒) การบังคับบุคคลให้สูญหาย (Enforced disappearance)

                                       (๑.๑) การก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ (Crime against humanity)
                                            การก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ (Crime against humanity) เป็นความผิดอาชญากรรม
               ร้ายแรงตามกฎหมายจารีตประเพณีระหว่างประเทศหลายฉบับ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ธรรมนูญกรุงโรมว่าด้วยศาลอาญาระหว่างประเทศ

               (The Rome Statute of the International Criminal Court) ซึ่งบทบัญญัติของธรรมนูญกรุงโรมฯ มีสถานะเป็น “กฎหมายบังคับ
               เด็ดขาด” (jus cogens) เหนือกฎเกณฑ์หรือบทบัญญัติแห่งกฎหมายใดๆ ภายในของประเทศภาคีต่างๆ

                                            ดังที่ได้กล่าวแล้วในบทที่สอง  การก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติซึ่งตกอยู่ภายใต้อ�านาจพิจารณา
               และวินิจฉัยของศาลอาญาระหว่างประเทศจะต้องประกอบด้วยเงื่อนไขเกี่ยวกับองค์ประกอบความผิด  และองค์ประกอบการเข้าเป็น
               ภาคีของธรรมนูญกรุงโรมฯ  ประกอบกัน  กรณีจึงมีปัญหาที่จะต้องพิจารณาในที่นี้  คือ  การก�าหนดและการด�าเนินนโยบายในการ

               ประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดของรัฐบาลซึ่งมี พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น มีลักษณะเป็น
               การก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติตามธรรมนูญกรุงโรมว่าด้วยศาลอาญาระหว่างประเทศหรือไม่
                                            การกระท�าอันมีลักษณะเป็นการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติตามธรรมนูญกรุงโรมว่าด้วย

               ศาลอาญาระหว่างประเทศ ประกอบด้วยองค์ประกอบสองลักษณะ ได้แก่ (๑.๑.๑) องค์ประกอบภายนอกหรือองค์ประกอบเชิงรูปแบบ

               154
               ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖
   170   171   172   173   174   175   176   177   178   179   180