Page 173 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 173
(๑) การกระท�าความผิดอาญาทั่วไป
ปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับการกระท�าความผิดอาญาที่เกิดขึ้นจากการด�าเนินนโยบายของรัฐบาลใน
การประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดอาจเป็น (๑.๑) กรณีการกระท�าความผิดอาญาของผู้กระท�าความผิดโดยตรง หรือ
อาจเป็น (๑.๒) กรณีการกระท�าความผิดอาญาของบุคคลผู้ก�าหนดนโยบายอันเป็นการเปิดช่องให้มีการกระท�าความผิดอาญา
(๑.๑) กรณีการกระท�าความผิดอาญาของผู้กระท�าความผิดโดยตรง
(๑.๑.๑) การฆ่าคนตายโดยเจตนา
จากกรณีศึกษาที่ได้ยกขึ้นกล่าวแล้วข้างต้น สามารถสรุปข้อเท็จจริงได้ว่า ในระหว่าง
ระยะเวลาสามเดือนของการปฏิบัติการตามนโยบายปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาล การด�าเนินการเหล่านี้จึงเป็นการด�าเนินการ
ที่มีประชากรพลเรือนเป็นเป้าหมาย กล่าวคือ การใช้ก�าลังประทุษร้ายและใช้อาวุธปืนในการด�าเนินการก่อให้เกิดการสูญเสียต่อชีวิต
และร่างกายของประชากรพลเรือนเป็นจ�านวนหลายพันคน โดยมีการฆาตกรรมที่เป็นการกระท�าที่ “มีเป้าหมายล่วงหน้า” โดยชัดแจ้ง
กล่าวคือ การกระท�าให้เกิดการสูญเสียต่อชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของผู้เสียหายเป็นส�าคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การกระท�าต่อ
ผู้เสียหาย กลุ่มบุคคลผู้กระท�าการประทุษร้าย กระท�าการโดย “มุ่งประสงค์ต่อชีวิต” ของผู้เสียหายเป็นหลัก กล่าวคือ การกระท�าให้
ผู้เสียหายถึงแก่ความตายหรือการฆาตกรรมผู้เสียหาย หรือการอุ้มหายหรือการท�าให้ผู้เสียหายสูญหายไป ผู้เสียหายในเรื่องร้องเรียน
ทุกเรื่องถูกกระท�าให้ถึงแก่ความตาย อันส่งผลให้จ�านวนคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลา ๓ เดือนของการปฏิบัติการของรัฐ
และองค์กรของรัฐเพื่อเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลในการท�าสงครามกับยาเสพติด มีจ�านวนสูงผิดปกติ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วง
ระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนและหลังการด�าเนินการตามนโยบายดังกล่าวของรัฐบาล ทั้งนี้ เนื่องจากเกณฑ์ชี้วัดผลสัมฤทธิ์หรือ
เป้าหมายของการปฏิบัติการขององค์กรของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้อง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการลดจ�านวนผู้ต้องสงสัย
ว่าค้าหรือผู้ผลิตยาเสพติดเป็นส�าคัญ
(๑.๑.๒) การท�าให้เสียทรัพย์สิน
ในเรื่องร้องเรียนหลายๆ เรื่อง การด�าเนินการยึดทรัพย์สินของผู้เสียหายหรือญาติของ
ผู้เสียหายเป็นการกระท�าของเจ้าหน้าที่ต�ารวจในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง แต่การยึดทรัพย์สินดังกล่าวนั้น มิได้เป็นการปฏิบัติตามบทบัญญัติ
แห่งกฎหมายว่าด้วยมาตรการปราบปรามยาเสพติดแต่ประการใด ในทางปฏิบัติได้ปรากฏข้อเท็จจริงว่า เจ้าหน้าที่ต�ารวจในพื้นที่
ได้ด�าเนินการยึดทรัพย์สินของผู้ต้องสงสัยที่จ�าเป็นต่อการด�ารงชีพ เช่น อุปกรณ์เครื่องครัว อุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบอาชีพ โดยมี
วัตถุประสงค์เพื่อเป็นการลดจ�านวนผู้ต้องสงสัยว่าค้าหรือผู้ผลิตยาเสพติดเป็นส�าคัญ
(๑.๑.๓) การท�าให้เสี่อมเสียชื่อเสียงเกียรติยศ
จากข้อเท็จจริงที่ได้ท�าการศึกษามานั้น ชี้ให้เห็นว่าการรวบรวมข้อมูลเป้าหมายบุคคล/
เป้าหมายพื้นที่ เพื่อจัดท�าบัญชีรายชื่อผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยต้องจัดท�าอย่างเร่งรีบ ขาดการตรวจสอบข้อมูลที่ถูกต้อง รอบคอบ
เป็นประเด็นปัญหาส�าคัญที่ท�าให้เกิดการใช้อ�านาจหน้าที่โดยมิชอบขององค์กรของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องในการจัดท�า
บัญชีรายชื่อผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และน�ามาสู่ปัญหาความเสื่อมเสียชื่อเสียงและเกียรติยศของประชากรพลเรือนผู้บริสุทธิ์และไม่มี
ส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดแต่มีชื่อถูกระบุไว้ในบัญชีดังกล่าว ตลอดจนก่อให้เกิดการใส่ร้ายป้ายสีกันระหว่างผู้ที่มีความขัดแย้งกัน
หรือเป็นคู่แข่งทางธุรกิจการค้าในท้องถิ่น หรือเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง หรือน�าไปสู่การเสียชีวิตของบุคคลที่ถูกระบุชื่อไว้ใน
บัญชีดังกล่าวในฐานะบุคคลเป้าหมาย เมื่อไปรายงานตัวตามค�าสั่งขององค์กรของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ แล้วแต่กรณี ผู้เสียหายก็
มักจะถูกลอบสังหารหรือถูกฆาตกรรมภายหลังจากกลับจากการไปรายงานตัวแล้ว ดังที่เกิดขึ้นในเรื่องร้องเรียนหลายๆ เรื่อง
(๑.๒) กรณีการกระท�าความผิดอาญาของบุคคลผู้ก�าหนดนโยบายอันเป็นการเปิดช่องให้มีการ
กระท�าความผิดอาญา
แม้โดยหลักกฎหมายอาญา การกระท�าความผิดอาญาจะต้องพิจารณาจากการกระท�าการหรือ
พฤติการณ์ของผู้กระท�าความผิดอาญาอย่างชัดแจ้ง แต่อย่างไรก็ตาม ในส่วนที่เกี่ยวกับบุคคลผู้ก�าหนดนโยบายในการประกาศสงคราม
ต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด แม้จะมิได้เป็นผู้ลงมือกระท�าความผิดอาญาโดยตรงด้วยตนเอง หากแต่ยังอาจมีค�าถามอีกประการหนึ่ง
152
ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖