Page 15 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 15

ข้อเสนอแนะ
                                 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  ในฐานะองค์กรระดับชาติในด้านการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน  จึงควร
                 ผลักดันให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมฐานความผิดอาญาในประมวลกฎหมายอาญาของประเทศไทย เพื่อให้ครอบคลุมความผิดฐานก่อ

                 อาชญากรรมร้ายแรงในลักษณะต่างๆ ตามที่ก�าหนดไว้ในข้อ ๕ ของธรรมนูญกรุงโรมว่าด้วยศาลอาญาระหว่างประเทศ อันได้แก่
                 อาชญากรรมอันเป็นการท�าลายล้างเผ่าพันธุ์  อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ  อาชญากรรมสงคราม  และอาชญากรรมอันเป็นการ

                 รุกราน ดังเช่นประเทศในภูมิภาคยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และสาธารณรัฐฝรั่งเศส ทั้งนี้ การด�าเนิน
                 การดังกล่าวอาจกระท�าได้โดยวิธีใดวิธีหนึ่งในสองวิธี ดังนี้
                                 ๑)  เสนอเป็น “ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....” แก้ไขเพิ่มเติม

                 บทบัญญัติภาค ๒ ความผิด โดยเพิ่มเติม “ลักษณะ ๖/๑ ความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมร้ายแรงต่อความผาสุกและสันติภาพของ
                 ประชาชน” และก�าหนดองค์ประกอบความผิดในแต่ละฐานความผิดของอาชญากรรมร้ายแรงลักษณะต่างๆ ที่ก�าหนด
                                 ๒) เสนอเป็นกฎหมายเฉพาะในระดับพระราชบัญญัติ โดยเสนอเป็น “ร่างพระราชบัญญัติการก่ออาชญากรรม

                 ร้ายแรง  อันเป็นภัยคุกคามต่อความผาสุกและสันติภาพของประชาชน  พ.ศ.  ....”  และก�าหนดให้อาชญากรรมร้ายแรงลักษณะ
                 ต่างๆ ดังกล่าวข้างต้นเป็นความผิดอาญาตามกฎหมายเฉพาะนี้ และก�าหนดบทลงโทษอย่างรุนแรง
                             ๒.๒ ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการปรับปรุงระบบการสืบสวนสอบสวนของพนักงานสอบสวนในคดีเกี่ยวกับ

                 การกระท�าการอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน
                                 นอกจากการแก้ไขปรับปรุงความผิดอาญาตามประมวลกฎหมายอาญาของประเทศไทยซึ่งเป็นกฎหมาย

                 สารบัญญัติเพื่อให้ครอบคลุมถึงอาชญากรรมร้ายแรงระหว่างประเทศต่างๆ และเพื่อให้การก่ออาชญากรรมร้ายแรงเช่นนั้นอยู่
                 ภายใต้เขตอ�านาจของศาลอาญาของประเทศไทยดังกล่าวข้างต้นแล้ว  การแก้ไขปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม
                 ซึ่งเป็นกฎหมายวิธีสบัญญัติก็มีความจ�าเป็นเช่นกัน เพื่อมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีอ�านาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวนสอบสวน

                 และการสั่งฟ้องคดีใช้อ�านาจหน้าที่ของตนไปในทางที่มิชอบ
                                 ข้อเสนอแนะ

                                 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  ในฐานะองค์กรระดับชาติในด้านการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน  จึงควร
                 ผลักดันให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมกระบวนการยุติธรรมที่เกี่ยวข้องในสองประการ ได้แก่
                                 ประการที่หนึ่ง

                                 การรับรองสิทธิของผู้ร้องทุกข์ (หรือผู้เสียหาย) ที่จะรับส�าเนาส�านวนการสอบสวนพร้อมค�าสั่งไม่ฟ้องคดี
                 ภายหลังจากที่พนักงานอัยการมีค�าสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดี ตามบทบัญญัติมาตรา ๑๔๖ แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
                 เพื่อที่ผู้ร้องทุกข์ (หรือผู้เสียหาย) จักได้ไปด�าเนินการใดๆ ตามความเหมาะสมต่อไป

                                 ประการที่สอง
                                 การแก้ไขปรับปรุงกระบวนการสอบสวนของพนักงานสอบสวน โดยก�าหนดให้พนักงานอัยการเป็นหัวหน้า
                 พนักงานสอบสวน  และเป็นผู้ควบคุมการสอบสวน  โดยท�าการสอบสวนและท�าส�านวนคดีร่วมกับพนักงานสอบสวนตั้งแต่เริ่มแรก

                 เพื่อเป็นการตรวจสอบถ่วงดุลการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวน อันจะท�าให้การสอบสวนและท�าส�านวนคดีของพนักงาน
                 สอบสวนเป็นไปอย่างเป็นอิสระอย่างแท้จริง มีความเป็นภาวะวิสัย ปราศจากการแทรกแซงของฝ่ายการเมืองหรือบุคคลใดๆ

                 โดยเฉพาะในคดีเกี่ยวกับกระท�าอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรง









               ฎ
               ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖
   10   11   12   13   14   15   16   17   18   19   20