Page 122 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 122
ส่วนการค้นหานโยบายที่ไม่เป็นทางการเหล่านั้น สามารถสรุปได้จากเส้นทางของการ
กระท�าที่ได้เกิดขึ้น (way in which the act occur) และหากการกระท�าดังกล่าวเกิดขึ้นในวงกว้าง (widespread) หรือเป็นระบบ
(systematic) สิ่งเหล่านี้ย่อมแสดงให้เห็นว่าการกระท�าดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากนโยบาย ไม่ว่านโยบายนั้นจะเป็นทางการ
หรือไม่ก็ตาม ซึ่งท้ายที่สุดก็จะพบว่าการกระท�าความผิดฐานอาชญากรรมต่อมนุษยชาติสามารถเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีนโยบายก�าหนด
291
ให้มีการกระท�าดังกล่าวเท่านั้น
(๓) การมีอยู่ของแผนหรือนโยบายไม่ได้ก่อให้เกิดเป็นองค์ประกอบของความรับผิดฐาน
อาชญากรรมต่อมนุษยชาติตามธรรมนูญ ICTY แต่อย่างไรก็ดี เครื่องมือที่ใช้ในการด�าเนินงานจะเป็นพยานหลักฐาน (evidentiary
tool) เพื่อพิสูจน์ว่าได้มีการกระท�าต่อประชากรที่เป็นพลเรือน หรือมีการโจมตีในวงกว้างหรือเป็นระบบ
ในคดี The Prosecutor v. Dragoljub Kunarac (2002) ศาลได้อธิบายว่า ไม่ว่าการโจมตี
นั้นจะเกิดขึ้นโดยได้รับการสนับสนุนจากนโยบาย (policy) หรือแผน (plan) ในรูปแบบใดก็ตาม กรณีก็ไม่มีความจ�าเป็นที่จะต้อง
พิสูจน์ให้เห็นถึงการมีอยู่ของนโยบายหรือแผนซึ่งน�าไปสู่การโจมตีดังกล่าว เพราะการพิสูจน์ให้เห็นถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการโจมตี
โดยตรงต่อประชากรที่เป็นพลเรือน และพิสูจน์ให้เห็นว่าการโจมตีเกิดขึ้นในวงกว้างหรือเป็นระบบนั้นต่างหากที่ถือว่าเป็นองค์ประกอบ
ของความรับผิดฐานอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ อีกทั้งในการพิสูจน์องค์ประกอบทางกฎหมายดังกล่าวก็ไม่มีความจ�าเป็นต้องแสดงให้
เห็นว่าการโจมตีนั้นเป็นผลมาจากนโยบายหรือแผนที่มีอยู่ เพราะการโจมตีโดยตรงต่อประชากรที่เป็นพลเรือน และการโจมตีใน
วงกว้างหรือเป็นระบบ ย่อมแสดงให้เห็นถึงข้อเท็จจริงได้ว่ามีนโยบายหรือแผนในการด�าเนินงานอยู่แล้ว ดังนั้น การมีอยู่ของนโยบาย
หรือแผนจึงอาจเป็นพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องในคดี (evidentially relevant) แต่ไม่ถือว่าเป็นองค์ประกอบทางกฎหมายของความ
รับผิดฐานอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ (not a legal element of the crime) 292
(๔) ความแตกต่างระหว่าง“อย่างเป็นระบบ” (systematic) กับ“นโยบาย” (policy) การ
293
ตีความค�าว่า “อย่างเป็นระบบ” (systematic) ของศาล ICTR เกิดขึ้นโดยพิจารณาจากการก่อตั้งองค์กรหรือความร่วมมือประสาน
งานในระดับที่สูงมาก (very high degree of organization or orchestration) โดยศาลเห็นว่า “อย่างเป็นระบบ” (systematic)
เป็นการกระท�าผ่านองค์กรโดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของการปฏิบัติตามนโยบายที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรที่ส�าคัญของรัฐหรือเอกชน ซึ่งการ
นิยามดังกล่าวมีลักษณะตรงข้ามกับค�าว่า “นโยบาย” (policy) ซึ่งมีความยืดหยุ่นมากกว่า (more flexible) 294
ศาล ICTY วางหลักดังกล่าวไว้ในคดี The Prosecutor v. Dusko Tadić (1997) ว่า
295
นโยบายนั้นไม่จ�าเป็นต้องมีแบบแผนหรือเป็นทางการ (policy need not be formalized) ตัวอย่างเช่น การพิสูจน์ว่ามีการใช้
คลื่นความถี่ทางวิทยุเพื่อให้การสนับสนุนการฆ่าคนเป็นจ�านวนมาก (radio broadcasts advocating mass murder) ย่อมมีน�้าหนัก
เพียงพอที่รับฟังได้ว่ามี “นโยบาย” นอกจากนี้ ศาล ICTY ยังให้ค�าแนะน�าใน คดี Tadić อีกว่าการมีอยู่ของนโยบาย ในบางสถานการณ์
อาจสรุปอย่างสมเหตุสมผลได้จากลักษณะของกระท�าที่เกิดขึ้น 296
อย่างไรก็ดี เมื่อมีการร่างธรรมนูญกรุงโรมฯ ในเวลาต่อมา ได้มีการก�าหนดให้นโยบายของ
รัฐหรือองค์การเป็นองค์ประกอบอย่างหนึ่งของความรับผิดฐานอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ จึงถือได้ว่าเป็นกฎหมายฉบับแรกที่มีการรับรอง
องค์ประกอบในเรื่องดังกล่าวอย่างเป็นทางการ 297
291
อ้างแล้ว, para 653.
292
The Prosecutor v. Dragoljub Kunarac, Radomir Kovac and Zoran Vuković (Appeals Chamber Judgment) IT-96-23 and IT-96-
23/1-A (12 June 2002), para. 98.
293
Prosecutor v. Akayesu, Judgement, No. ICTR-96- 4-T (Sept. 2, 1998)
294
Darryl Robinson, อ้างแล้ว, p. 51.
295
The Prosecutor v. Dusko Tadić (Trail Chamber Opinion and Judgment) IT-94-I-T (7 May 1997) para 653.
296
Darryl Robinson, อ้างแล้ว, p. 51.
297
Caroline Fournet, อ้างแล้ว, p. 32.
101
ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖