Page 117 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 117

ในคดี The Prosecutor v. Dusko Tadić (1997) ศาลได้ให้ความส�าคัญกับแนวค�าพิพากษา
               ในคดี  Barbie  เป็นอย่างมาก  โดยศาลเห็นว่า  ประชากรซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของการโจมตี  ได้แก่  พลเรือน  (civilian)  ทั้งหลายซึ่งอยู่

                                                                  261
               ภายใต้ความมุ่งหมายของความรับผิดฐานอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ  และไม่เพียงแต่เป็นประชากรทั่วไป (general population)
               เท่านั้นที่จะได้รับการพิจารณาว่าเป็นพลเรือนของรัฐ หากแต่ยังรวมถึงสมาชิกของกลุ่มผู้ต่อต้าน (member of the resistance) ซึ่งอาจ
                                                                                262
               กลายเป็นเหยื่อของการโจมตีอันน�าไปสู่ความรับผิดฐานอาชญากรรมต่อมนุษยชาติอีกด้วย

                                                 ศาล ICTR
                                                 ในคดี The Prosecutor v. Jean-Palu Akayesu (1998) ศาล ICTR ได้น�าค�าพิพากษา
               ในคดี  Barbie  มาใช้เป็นแนวทางในการพิจารณาเช่นเดียวกัน  โดยศาลกล่าวว่า  การกระท�าอันไร้มนุษยธรรมและการกระท�าอันเป็นการ

               รังควานที่เกิดขึ้นจากการด�าเนินการตามนโยบายของรัฐหรือองค์การที่จะน�าไปสู่ความผิดฐานอาชญากรรมต่อมนุษยชาตินั้น  ไม่เพียงแต่
               เป็นการโจมตีต่อกลุ่มบุคคล (individuals) อันเนื่องมาจากเชื้อชาติ หรือความเชื่อทางศาสนาของกลุ่มบุคคลเหล่านั้น แต่ยังรวมถึง

               การโจมตีที่ได้กระท�าต่อผู้ที่เป็นปฏิปักษ์กับนโยบายดังกล่าว (adversary of that policy) ไม่ว่าการปฏิปักษ์นั้นจะมีรูปแบบใดก็ตาม
               (whatever the form opposition) 263
                                                 จากแนวค�าพิพากษาของศาล  ICTY  และ  ICTR  ดังที่ได้กล่าวแล้วข้างต้น  จะเห็นว่ามี

               การให้นิยามความหมายของค�าว่า “พลเรือน” (civilian) ไปในทิศทางที่สอดคล้องกับค�าพากษาของศาลฎีกาแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส
               ในคดี  Barbie  โดยให้ค�านิยามของค�าว่า  “พลเรือน”  (civilian)  ในความหมายอย่างกว้าง  โดยครอบคลุมถึงประชากรที่เป็นพลเรือน
               โดยทั่วไป  (general  population)  รวมถึงประชากรพลเรือนที่ท�าการเคลื่อนไหวอย่างจริงจังเพื่อการต่อต้าน  (civilian  actively

               involved in a resistance movement) ในลักษณะที่เป็นปฏิปักษ์กับนโยบายของรัฐหรือขององค์กร ไม่ว่าการปฏิปักษ์เช่นว่านั้นจะมีรูป
               แบบใดก็ตาม
                                                 มีข้อสังเกตว่า การนิยามความหมายของค�าว่า “พลเรือน”  (civilian) ในความหมายอย่าง

               กว้างตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น ย่อมเป็นข้อสนับสนุนได้ว่า ทหารที่ไม่สามารถท�าการสู้รบหรือต่อสู้ได้ (soldier hors de combat) ย่อม
               อยู่ในความหมายของค�าว่า “พลเรือน” (civilian) ด้วยนั่นเอง 264

                                                 ประเด็นที่สอง
                                                 ค�าว่า “พลเรือน” ในที่นี้จ�าเป็นต้องเป็นพลเรือนที่อาศัยอยู่ในประเทศนั้นๆ ด้วยหรือไม่
                                                 ธรรมนูญกรุงโรมฯ ใช้ค�าว่า “any civilian” ย่อมเป็นการยืนยันว่าพลเรือนในที่นี้ไม่จ�าเป็น
                                                                                                                265
               ต้องเป็นประชากรที่อยู่ภายใต้อ�านาจอธิปไตยของรัฐนั้นๆ แต่หมายความรวมถึงพลเรือนทุกคนย่อมได้รับความคุ้มครองทั้งสิ้น
               กล่าวคือ  การกระท�าความผิดฐานอาชญากรรมต่อมนุษยชาติที่ก�าหนดไว้ในมาตรา  ๗  ของธรรมนูญกรุงโรม  ต้องเป็นการกระท�าซึ่งได้

               กระท�าต่อประชากรที่เป็นพลเรือนโดยตรง  (directed  against  any  civilian  population)  โดยพลเรือนที่ตกเป็นเหยื่อของ
               การโจมตี  อาจเป็นพลเรือนที่มีสัญชาติของรัฐ  (nationality)  หรือมีเชื้อชาติหรือมีลักษณะเด่นบางอย่างที่สามารถแบ่งแยกออก
                                                                 266
               ได้อย่างชัดเจน (ethnicity or other distinguishing features)  ซึ่งประชากรที่เป็นพลเรือนดังกล่าวต้องเป็น “เป้าหมายพื้นฐาน



                       261
                         The Prosecutor v. Dusko Tadić (Trail Chamber Opinion and Judgment) IT-94-I-T (7 May 1997) paras 639.
                       262
                          The Prosecutor v. Dusko Tadić (Trail Chamber Opinion and Judgment) IT-94-I-T (7 May 1997) paras 641.
                       263
                         The Prosecutor v. Jean-Palu Akayesu (Trial chamber Judgment) ICTR-96-4-T (2 September 1998) paras 576.
                       264
                         Caroline Fournet, Genocide and Crimes against humanity : Misconceptions and confusion in French law and practice, (Oxford
               and Portland ,Oregon : Hart Publishing), 2013, p. 19.
                       265
                          UNITED NATIONS WAR CRIMES COMMISSION, HISTORY OF THE UNITED NATIONS WAR CRIMES COMMISSION AND THE DEVEL-
               OPMENT OF THE LAWS OF WAR 35 (1948), at 193.
                       266
                          Pre-Trial Chamber I, Katanga decision, ICC-01/04-01/07-717, para. 399; see also O. Triffterer (ed.),Commentary on the Rome
               Statute’ Observers’ Notes, Article by Article, (1999), p. 381; ICTY, Prosecutor v. Tadic, Case No. IT-94-1-T, “Trial Judgment”, 7 May 1997,
               para. 635; ICTY, Prosecutor v. Kunarac et al, Case No. IT-96-23 & IT-96-23/1-A, “Trial Judgment”, 22 February 2001, para. 423.
               96
               ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖
   112   113   114   115   116   117   118   119   120   121   122