Page 119 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 119

การพิจารณาความเชื่อมโยงในกรณีดังกล่าว เป็นผลมาจากการที่มาตรา ๗ วรรคหนึ่ง
                                                         274
               ของธรรมนูญกรุงโรมฯ  ได้บัญญัติค�าว่า  “as part of”   ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างการกระท�าของผู้กระท�าความผิด
                                                         275
               (perpetrator) กับการโจมตีหรือประทุษร้าย (attack) ไว้  โดยในแง่ขององค์ประกอบความรับผิดทางอาญา (elements of crimes)
               ความเชื่อมโยงดังกล่าวจะเป็นองค์ประกอบทางกฎหมายที่ส�าคัญส�าหรับการพิจารณาการกระท�าทั้งหลาย  เช่น  การฆาตกรรมและการ

               ข่มขืน ฯลฯ เหล่านี้เป็นความผิดฐานอาชญากรรมต่อมนุษยชาติหรือไม่ ซึ่งการพิจารณาว่ารูปแบบของการกระท�านั้นเป็นส่วนหนึ่ง (as
               part of) ของการโจมตี (attack) หรือไม่ ศาลจะพิจารณาจากลักษณะของการกระท�า (characteristics) จุดประสงค์หรือความมุ่งหมาย
                                                                                       276
               (aims) และผลที่เกิดขึ้นจากการกระท�า (the nature or consequences of the act) ดังกล่าว
                                                 • การโจมตีหรือประทุษร้ายต้องเป็นผลมาจากนโยบายของรัฐหรือองค์การใดองค์การหนึ่ง
                                                 การโจมตีหรือประทุษร้าย (ประชากรที่เป็นพลเรือน) ต้องเป็นผลมาจากนโยบายของรัฐ

               หรือองค์การใดองค์การหนึ่ง ซึ่งมีประเด็นที่ต้องพิจารณาตามล�าดับ ดังนี้
                                                 ประเด็นที่หนึ่ง

                                                 มาขององค์ประกอบเรื่องนโยบาย  (policy  element)  และความหมายของนโยบายของ
               รัฐหรือองค์การ องค์ประกอบเรื่องนี้ หมายถึง การโจมตีต่อประชากรที่เป็นพลเรือนต้องเป็นผลโดยตรงจากการวางแผนหรือการสั่งการ
                                                               277
               จากรัฐหรือองค์การ  (element  of  planning  or  direction)   โดยในคราวที่มีการยกร่างกฎบัตรนูเรมเบิร์ก  ที่ประชุมได้ให้ความ
               ส�าคัญต่อประเด็นดังกล่าว  โดยเห็นว่าองค์ประกอบเรื่องนโยบาย  (policy  element)  ในที่นี้  หมายถึง  นโยบายที่เกี่ยวข้องกับการ
               กระท�าที่ชั่วร้าย (policy of atrocities ) ซึ่งเป็นการรังควานต่อประชากรที่เป็นพลเรือน (persecutions against civilian population)
               นอกจากนี้  ยังหมายความรวมถึงนโยบายสร้างความหวาดกลัว (policy of terror) ที่เกี่ยวข้องกับการรังควาน การลงโทษและการ
                                                                        278
               ฆาตกรรมพลเรือน (persecutions, repression and murder of civilians)
                                                 การก�าหนดองค์ประกอบเรื่องนโยบาย  (policy  element)  เป็นผลมาจากการท�างาน
               ของคณะกรรมการกฎหมายระหว่างประเทศ (International Law Commission: ILC) ตลอดจนการวางแนวค�าตัดสินของศาล ICTY

               และจากงานเขียนของนักกฎหมายต่างๆ  กล่าวคือ  ในคราวที่มีการยกร่างประมวลกฎหมายอาญา  (Code  of  Crimes)  ของ  ILC  ที่
               ประชุมได้ก�าหนดให้การกระท�าความผิดฐานอาชญากรรมต่อมนุษยชาติทุกประเภท ต้องได้รับการส่งเสริม (instigated) หรือเป็นผลมา
                                                     279
               จากรัฐบาลหรือองค์การหรือบุคคลกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง  ซึ่งในประเด็นนี้ ILC ได้ให้ข้อสังเกตว่า ผลโดยตรงหรือการส่งเสริมดังกล่าว จะ
                                                                                                                280
               ต้องก่อให้เกิดการกระท�าซึ่งมีขนาดใหญ่ (great dimension) และก่อให้เกิดอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ (crime against humanity)
               นอกจากนี้ ศาล ICTY เคยวางหลักการตีความค�าว่า “directed against any civilian population” ไว้ว่า การกระท�าดังกล่าวต้องเกิด

               จากการกระท�าของรัฐบาล องค์กร หรือบุคคลกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง 281


                       274
                          Art. 7 Crimes against humanity 1.  For the purpose of this Statute, “crime against humanity” means any of the following acts
               when committed as part of a widespread or systematic attack directed against any civilian population, with knowledge of the attack: (…)
                       275
                          Pre-Trial Chamber I, Katanga decision, ICC-01/04-01/07-717, para. 400.
                       276
                          ICTR, The Prosecutor v. Kajelijeh, Case No. ICTR-98-44A-T, “Trial Judgment”, 1 December 2003, para. 866; ICTR, The Prose-
               cutor v. Semanza, Case No. ICTR-97-20-T, “Trial Judgment”, 15 May 2003, para. 326.
                       277
                          Darryl Robinson, “Defining “Crime Against Humanity” at the Rome Conference,” The American Journal of International Law,
               Vol. 93, No. 1 (Jan., 1999), p. 48.
                       278
                          Darryl Robinson, “Defining “Crime Against Humanity” at the Rome Conference,” The American Journal of International Law,
               Vol. 93, No. 1 (Jan., 1999), p. 48.
                       279
                          Report of the International Law Commission on the work of its forty-eighth session, UN GAOR, 51st Sess., Supp. No. 10, at
               14, UN Doc. A/51/10 (1996) [hereinafter 1996 ILC Report]. at 93, 95-96.
                       280
                          Report of the International Law Commission on the work of its forty-eighth session, UN GAOR, 51st Sess., Supp. No. 10, at
               14, UN Doc. A/51/10 (1996) [hereinafter 1996 ILC Report]. at 96.
                       281
                          Prosecutor v. Tadic, Opinion and Judgment, No. IT-94-1-T, para. 644  (May 7, 1997), 36 ILM at 941.
               98
               ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖
   114   115   116   117   118   119   120   121   122   123   124