Page 120 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 120

ในขณะที่นักกฎหมายระหว่างประเทศ  เช่น  Virginia  Morris  and  Michael  Scharf
                  ได้กล่าวในงานเขียน เรื่อง “The Insider’s Guide to the International Criminal Tribunal for the Former Yugoslavia”

                  โดยอธิบายว่า  “การโจมตีหรือประทุษร้ายโดยตรงต่อประชากรที่เป็นพลเรือน  (directed  against  any  civilian  population)  คือ
                                                                                        282
                  ระบบการวางแผนหรือการก�าหนดนโยบายทั่วไป  (systematic  plan  or  general  policy)   ท�านองเดียวกับการแสดงความเห็น
                  ของ JOSEPH B. KEENAN & BRENDAN F. BROWN ซึ่งปรากฏในงานเขียนเกี่ยวกับอาชญากรรมต่างๆ ในกฎหมายระหว่างประเทศ

                  เมื่อปี ค.ศ. ๑๙๕๐ ว่า “การกระท�าที่ไร้มนุษยธรรมเป็นผลมาจากการก�าหนดนโยบายต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากผู้น�าสูงสุดของฝ่ายพลเรือน
                  หรือจากผู้น�าสูงสุดในกองทัพ ซึ่งนโยบายเหล่านี้มีผลต่อการก�าหนดนโยบายของรัฐด้านอาชญากรรมอย่างชัดเจน (a definitely

                  criminal  State  policy)  การกระท�าอันเป็นอาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติ  จึงไม่อาจมีความเป็นไปได้  หากปราศจากการออกค�าสั่ง
                                                                                                             283
                  บังคับบัญชา หรือการน้อมรับค�าสั่งจากผู้น�าด้วยความยินยอม (the active direction, or acquiescence, of leaders...)
                                                    M. Cherif Bassiouni ได้แสดงความเห็นของเขาเกี่ยวกับองค์ประกอบเรื่องนโยบาย

                  (policy element) ของฐานความผิดอาชญากรรมต่อมนุษยชาติไว้ในหนังสือ เรื่อง “อาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติในกฎหมายอาญา
                  ระหว่างประเทศ (Crimes against Humanity in International Criminal Law)” ว่า องค์ประกอบเรื่องนโยบาย (the policy

                  element)  ถือเป็นองค์ประกอบที่เป็นสาระส�าคัญอย่างหนึ่งของความผิดฐานอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ  ซึ่งน�าไปสู่การก�าหนดความ
                  ผิดในทางอาญาฐานอื่นๆ ตามกฎหมายภายในของรัฐที่จ�าเป็นต้องมีองค์ประกอบทางกฎหมายระหว่างประเทศ (international
                          284
                  element)
                                                    นอกจากนั้น องค์ประกอบเรื่องนโยบาย (policy element) ของความผิดฐานอาชญากรรม
                  ต่อมนุษยชาติ ได้ถูกยืนยันอีกหลายครั้งจากศาลภายในประเทศต่างๆ ตัวอย่างเช่น
                                                    • ประเทศฝรั่งเศส:  ในคดี Barbie  และ  คดี  Touvier  ศาลฎีกาแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส

                  ได้วางหลักว่า  การกระท�าความผิดทางอาญาจะมีส่วนเกี่ยวข้องหรือประสบความส�าเร็จได้จากการปฏิบัติตามนโยบายที่ก�าหนดขึ้นโดย
                                                                                             285
                  อ�านาจสูงสุดของรัฐ ( in the name of a state practicing a policy of ideological hegemony)
                                                    • ประเทศเนเธอร์แลนด์: ศาลได้วางหลักในคดี Menten ว่า อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ

                  เป็นอาชญากรรมที่เกิดขึ้นจากส่วนหนึ่งของระบบที่ตั้งอยู่บนความน่ากลัว หรือเป็นการกระท�าที่มีความเชื่อมโยงกับนโยบายที่มีผล
                  กระทบโดยตรงกับกลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่งเป็นการเฉพาะ 286

                                                    • ประเทศแคนาดา: ศาลสูงสุดแห่งประเทศแคนาดา (the Supreme Court of Canada)
                  ได้วางหลักในคดี  Finta  ว่า  สิ่งที่แบ่งแยกอาชญากรรมต่อมนุษยชาติออกจากความผิดอาญาฐานอื่นๆ  ภายใต้ประมวลกฎหมายอาญา
                  แคนาดา (Canadian Criminal Code) นั่นก็คือ การกระท�าทารุณโหดร้าย (cruel) และการกระท�าที่ร้ายแรง (terrible) ซึ่งถือเป็น

                  องค์ประกอบส�าคัญของความผิดฐานดังกล่าว โดยเกิดขึ้นจากการปฏิบัติให้เป็นไปตามนโยบายว่าด้วยการเลือกปฏิบัติหรือการกระท�า
                  อันเป็นการรังควานต่อกลุ่มบุคคลที่มีลักษณะพิเศษในด้านอัตลักษณ์หรือเชื้อชาติ 287



                         282
                             VIRGINIA MORRIS & MICHAEL P. ScHARF, AN INSIDER’S GUIDE TO THE INTERNATIONAL CRIMINAL TRIBUNAL FOR THE FORMER-
                  YUGOSLAVIA 79-80 (1995).
                         283
                            JOSEPH B. KEENAN & BRENDAN F. BROWN, CRIMES AGAINST INTERNATIONAL LAW 117 (1950), ref. n° 35 in Darryl Robinson,
                  “Defining “Crime Against Humanity” at the Rome Conference,” The American Journal of International Law, Vol. 93, No. 1 (Jan., 1999),
                  p. 49.
                         284
                             M. CHERIF BASSIOUNI, CRIMES AGAINST HUMANITY IN INTERNATIONAL CRIMINAL LAW (1992), pp. 244, 247.
                         285
                             Barbie, Cass. crim., Dec. 20, 1985, 1985 Bull. Crim., No. 407, at 1053; Touvier, Cass. crim., Nov. 27, 1992, 1992 Bull. Crim.,
                  No. 394, at 1085. อ้างใน Darryl Robinson, “Defining “Crime Against Humanity” at the Rome Conference,” The American Journal of
                  International Law, Vol. 93, No. 1 (Jan., 1999), p. 49.
                         286
                             Public Prosecutor v. Menten, 75 ILR 362, 362-63 (1981). in Darryl Robinson, อ้างแล้ว, p. 49.
                         287
                             Regina v. Finta, [1994] 1 S.C.R. 701, 814, in Darryl Robinson, อ้างแล้ว, p. 49-50.

                                                                                                                    99
                                    ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖
   115   116   117   118   119   120   121   122   123   124   125