Page 112 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 112
ประการที่สอง
การกระท�าความผิดอาญาต่างๆ ดังกล่าว “เป็นส่วนหนึ่ง” ของการโจมตีหรือการก่อให้เกิด
ผลกระทบในวงกว้างหรืออย่างเป็นระบบ
ประการที่สาม
การกระท�าความผิดเหล่านี้มุ่งกระท�าเพื่อโจมตีหรือประทุษร้ายต่อกลุ่มเป้าหมาย
ที่เป็นประชากรพลเรือนโดยตรง
เป้าหมายหลักของการโจมตีหรือประทุษร้ายเช่นนั้น คือ ประชากรพลเรือน ไม่ว่า
จะเป็นประชากรพลเรือนของรัฐซึ่งเป็นผู้กระท�าการนั้นเอง หรือประชากรพลเรือนใดๆ ที่มิใช่ประชากรพลเรือนของรัฐนั้นก็ได้ ดังที่
ข้อ ๗ วรรคหนึ่ง แห่งธรรมนุญกรุงโรมฯ ใช้ค�าว่า “โดยมีเป้าหมายต่อประชากรพลเรือนใด” (any civilian population) อันได้แก่
พลเรือนทั่วไปหรือปัจเจกชนทั่วไปนั่นเอง ทั้งนี้ ข้อ ๗ วรรคสอง (ก) แห่งธรรมนูญกรุงโรมฯ ได้ให้นิยามของค�าว่า “การโจมตีที่มี
เป้าหมายต่อประชากรพลเรือนใดๆ” (Attack directed against any civilian population) ว่าหมายถึง “กระบวนการกระท�าซึ่ง
ด�าเนินไปครั้งแล้วครั้งเล่าต่อประชากรพลเรือนใดๆ ดังอ้างถึงในวรรค ๑ อันเป็นการด�าเนินการตามหรือส่งเสริมนโยบายของรัฐหรือ
องค์การที่จะกระท�าการโจมตีเช่นว่า”
การที่ธรรมนูญกรุงโรมฯ ใช้ถ้อยค�าว่า “ประชากรพลเรือน” เช่นนี้น่าจะมีวัตถุประสงค์
เพื่อมุ่งหมายถึงเหยื่อหรือผู้ได้รับความเสียหายหรือได้รับผลกระทบ ได้แก่ บุคคลหรือปัจเจกชนทั่วไปซึ่งแสดงถึงนัย “จ�านวนมาก”
อันส่งผลกระทบ “เชิงจิตวิทยา” ต่อประชากรพลเรือนที่เป็นเป้าหมายของการโจมตีหรือการประทุษร้าย และประชากรพลเรือนที่
ตกเป็นเป้าหมายจะต้องมีความเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน เช่น เป็นสมาชิกกลุ่มเป้าหมายการโจมตีหรือการประทุษร้าย ซึ่งท�าให้การโจมตี
หรือการประทุษร้ายสามารถกระท�าได้โดยสะดวกเพราะมีเป้าหมายของการกระท�าที่ชัดเจน
ประการที่สี่
ผู้กระท�ารู้ถึงการโจมตีหรือการก่อให้เกิดผลกระทบในวงกว้างหรืออย่างเป็นระบบต่อ
ประชาชนพลเรือนเช่นนั้น
(๒.๑.๒) องค์ประกอบความผิดของอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
จากลักษณะส�าคัญสี่ประการดังกล่าวข้างต้น การกระท�าความผิดอาญาร้ายแรง
ในลักษณะของอาชญากรรมต่อมนุษยชาติและเป็นภัยคุกคามต่อประชาคมระหว่างประเทศ ประกอบด้วยองค์ประกอบความผิดที่มี
ลักษณะเฉพาะเป็นของตนเอง ซึ่งแตกต่างไปจากองค์ประกอบความผิดของความผิดอาญาสามัญทั่วไป ซึ่งแบ่งออกได้เป็นสองลักษณะ
ได้แก่ ก. องค์ประกอบภายนอก: องค์ประกอบเชิงรูปแบบ และ ข. องค์ประกอบภายใน: องค์ประกอบเชิงเนื้อหา ทั้งนี้ การกระท�า
ความผิดอาญาร้ายแรงที่จัดเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติจะต้องประกอบด้วยองค์ประกอบภายนอกและองค์ประกอบภายใน
ประกอบกัน
ก. องค์ประกอบภายนอก: องค์ประกอบเชิงรูปแบบ
การกระท�าที่เป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติตามนัยแห่งข้อ ๗ วรรคหนึ่ง ของธรรมนูญ
กรุงโรมฯ จะต้องเป็นการกระท�าความผิดลักษณะใดลักษณะหนึ่งดังที่ก�าหนดไว้โดยชัดแจ้งในบทบัญญัติดังกล่าว ทั้งนี้ การกระท�า
244
ความผิดอาญาร้ายแรงที่มีลักษณะเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติแบ่งออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่
244 โปรดดู David Luban, A Theory of Crimes Against Humanity, Yale Journal of International Law, 2004, p. 8 อ้างอิงใน พันต�ารวจตรี
กฤษฎิ์ สถิตย์วัฒนานนท์, กฎหมายอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ: ประเด็นพื้นฐานทางกฎหมาย (Crimes against Humanity), หน้า 9. http://www.police-
science.rpca.ac.th/crimes.pdf
91
ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖