Page 90 - รายงานวิจัย เรื่อง ทางเลือกเชิงนโยบายการแก้ไขปัญหาผู้ลี้ภัยในค่ายพักพิงชั่วคราว
P. 90
ข้อเสนอแนะต่อทางเลือกเชิงนโยบาย
ส�าหรับภารกิจที่เกี่ยวข้องกับกรณีผู้ลี้ภัย ผู้หนีภัยจากการสู้รบและผู้แสวงหาที่พักพิง กสม. มีการด�าเนินการผ่าน
คณะอนุกรรมการด้านสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง คณะอนุกรรมการด้านสถานะบุคคลของผู้ไร้สัญชาติ ไทยพลัดถิ่น ผู้อพยพ
และชนพื้นเมือง ตลอดจนคณะอนุกรรมการปฏิบัติการยุทธศาสตร์ด้านสิทธิมนุษยชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยจัดท�า
ข้อเสนอแนะในการแก้ไขพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ โดยเฉพาะการน�ามาตรา ๑๗ ที่ระบุว่า “ในกรณีพิเศษเฉพาะเรื่อง
รัฐมนตรีโดยอนุมัติของคณะรัฐมนตรีจะอนุญาตให้คนต่างด้าวผู้ใด หรือจ�าพวกใดเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรภายใต้เงื่อนไขใดๆ หรือจะ
ยกเว้นไม่จ�าเป็นต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ในกรณีใดๆ ก็ได้” มาใช้ในการหาช่องทางการคุ้มครองชั่วคราวส�าหรับบุคคลที่จ�าเป็น
ต้องอพยพ เคลื่อนย้ายในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ
ส�าหรับกรณีของผู้ลี้ภัยในค่ายผู้ลี้ภัย ในพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า/เมียนมาร์ กสม. ได้มีการติดตามสถานการณ์เป็นระยะๆ
รวมทั้งติดตามปัญหาสิทธิมนุษยชนของผู้หนีภัยจากการสู้รบ และผู้แสวงหาที่พักพิงที่ได้รับการร้องเรียนมาบ่อยครั้ง โดยยึดหลักการ
Non-Refoulement หรือการไม่ส่งผู้หนีภัยจากการสู้รบ หรือผู้แสวงหาที่พักพิงกลับโดยไม่สมัครใจ ดังนั้น เมื่อสถานการณ์ทางการเมือง
ในประเทศพม่า/เมียนมาร์เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง และเริ่มมีการเตรียมการส่งผู้ลี้ภัยกลับคืนสู่ถิ่นฐาน กสม. จึงให้ความสนใจต่อประเด็น
สิทธิของผู้ลี้ภัยในการมีส่วนร่วมในการเตรียมตัวส่งกลับ และได้มอบหมายให้มีการท�าการศึกษาวิจัยในเรื่องดังกล่าวนี้ ตั้งแต่ปี ๒๕๕๖
อย่างไรก็ดี กระทรวงมหาดไทยซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบดูแลพื้นที่ไม่อนุญาตให้ กสม. ส่งคณะผู้วิจัยเข้าไปศึกษาวิจัย
ในพื้นที่พักพิงชั่วคราวตามที่ร้องขอ ดังนั้น จึงต้องเปลี่ยนประเด็นการศึกษา จากการมีส่วนร่วมในการเตรียมตัวกลับถิ่นฐาน มาสู่การศึกษา
ทางเลือกเชิงนโยบายในการแก้ไขปัญหาผู้ลี้ภัยในค่ายผู้ลี้ภัย อย่างไรก็ดี คณะอนุกรรมการด้านสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองฯ
ได้ติดตามการด�าเนินการวิจัย และได้เดินทางไปพบองค์กรเอกชน CSOs ที่ท�างานเกี่ยวข้องกับผู้ลี้ภัย และเดินทางไปในค่ายผู้ลี้ภัย
บ้านนุโพและค่ายผู้ลี้ภัยบ้านใหม่ในสอย เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้ลี้ภัยเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัย และการเดินทางกลับ
คืนสู่ถิ่นฐาน ทั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยที่รับผิดชอบค่ายผู้ลี้ภัยและกรรมการค่ายผู้ลี้ภัยทั้งสองแห่ง
ในการประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นต่องานวิจัย เรื่อง “ทางเลือกเชิงนโยบายการแก้ไขปัญหาผู้ลี้ภัยในที่พักพิง
ชั่วคราว” เมื่อวันที่ ๓ กันยายน ๒๕๕๘ ที่คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นายแพทย์นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ ประธาน
อนุกรรมการด้านสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองได้ให้ความเห็นต่อปัญหาการจัดการผู้ลี้ภัยว่า การพิจารณาทางเลือกเชิงนโยบาย
การแก้ไขปัญหาผู้ลี้ภัย ควรให้ความส�าคัญต่อสถานการณ์โลกาภิวัตน์และหลักสิทธิมนุษยชน ปัญหาของผู้ลี้ภัยและผู้อพยพเพื่อแสวงหา
ที่พักพิงบริเวณชายแดนไทย-พม่า/เมียนมาร์ ไม่สามารถจะพิจารณาแค่เพียงการจัดการปัญหาผู้ลี้ภัยอย่างเดียว แต่จะต้องเข้าใจว่าเป็น
ปัญหาส่วนหนึ่งของกระแสโลกาภิวัตน์และเป็นผลกระทบที่เกิดจากการพัฒนาภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์ จ�าเป็นต้องมองให้ทะลุใน
เรื่องของปัญหาของผู้ลี้ภัยซึ่งอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในขณะนี้ และหลักสิทธิมนุษยชนเท่านั้นที่จะแก้ไขปัญหาเรื่องผู้อพยพและผู้ลี้ภัย
ในโลกนี้ได้
ประธานอนุกรรมการด้านสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองยังได้ให้ความเห็นอีกว่า ปัจจุบันประเทศไทยและพม่า/
เมียนมาร์มีความเหมือนกันที่อยู่ใต้การปกครองแบบรัฐทหารและยึดอยู่ในความคิดชาตินิยม ดังนั้น จึงมีความท้าทายอย่างยิ่งที่จะ
จัดการปัญหาผู้ลี้ภัยโดยยึดหลักสิทธิมนุษยชน เมื่อร้อยกว่าปีที่แล้ว ประเทศไทยได้ก�าหนดเขตแดนของประเทศเพื่อประกาศอ�านาจ
อธิปไตยของชาติ และเพื่อป้องกันการรุกล่าของอาณานิคม การก�าหนดเขตแดนจึงเป็นเรื่องของความมั่นคงเป็นหลัก แต่ปัจจุบันนี้มี
การเปลี่ยนแปลงแนวคิดเรื่องอ�านาจอธิปไตยเหนือดินแดน เขตแดนกลายเป็นพื้นที่ของการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจ และการเติบโต
ของการค้าข้ามแดน มีการอพยพเคลื่อนย้ายของประชากรข้ามเขตแดนมากขึ้น ดังนั้น ต้องค�านึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนเป็นหลักการ
ส�าคัญของการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน แต่กระนั้นก็ดี ประชาคมอาเซียนก็ยังไม่สามารถบรรลุถึงเป้าของการเป็น One Community ได้
เพราะยังมีปัญหาการยึดติดอยู่กับผลประโยชน์ของรัฐชาติ ยิ่งกว่านั้นยังมีแนวโน้มที่จะให้ความส�าคัญกับสังคมชาติพันธุ์เดียว ไม่ยอมรับ
ลักษณะความเป็นพหุสังคม พหุชาติพันธุ์
76 77
ทางเลือกเชิงนโยบายการแก้ไขปัญหาผู้ลี้ภัยในค่ายพักพิงชั่วคราว ทางเลือกเชิงนโยบายการแก้ไขปัญหาผู้ลี้ภัยในค่ายพักพิงชั่วคราว