Page 94 - รายงานวิจัย เรื่อง ทางเลือกเชิงนโยบายการแก้ไขปัญหาผู้ลี้ภัยในค่ายพักพิงชั่วคราว
P. 94

ข้อเสนอแนะต่อทางเลือกเชิงนโยบาย



                  ของชาวพุทธที่มีท่าทีอคติทางชาติพันธุ์ พวกเขาได้กล่าวต่อหน้าคณะผู้วิจัยและคณะอนุกรรมการสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง

                  เมื่อคราวไปติดตามสถานการณ์งานในค่ายผู้ลี้ภัยบ้านนุโพว่า หากจะถูกส่งกลับไปประเทศพม่า  พวกเขาเลือกจะขอลี้ภัยในประเทศไทย
                  ถึงแม้ว่าจะอยู่ใน “คุกในประเทศไทยจนตาย” ก็ตาม
                                  ข้อเสนอเชิงนโยบาย

                                  ควรพิจารณาให้มีนโยบายพิเศษส�าหรับการส่งผู้ลี้ภัยชาวมุสลิมคืนกลับสู่ถิ่นฐาน โดยค�านึงถึงความปลอดภัยของ
                  คนเหล่านี้  หรืออาจจะมีนโยบายให้สิทธิแก่คนกลุ่มนี้ในการเปลี่ยนสถานะ  และให้สิทธิในการเลือกอยู่ในประเทศไทย  แต่อย่างไรก็ดี
                  จ�าเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการศึกษาวิจัยอย่างละเอียดในเรื่องนี้ต่อไป เพื่อให้การคุ้มครองผู้ที่มีวัฒนธรรมและการนับถือศาสนาที่แตกต่าง

                  ออกไป  ในระหว่างที่รอคอยการส่งกลับคืนสู่ถิ่นฐานเดิม  ต้องค�านึงถึงปัญหาของผู้ลี้ภัยที่อยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยที่ยังไม่สามารถเดินทางกลับคืน
                  สู่ถิ่นฐาน หรือไม่ได้รับอนุญาตให้ออกมาท�างานนอกค่ายได้

                              ๕.๓ นโยบายการสร้าง “ชุมชนจินตนาการ”
                                  ผู้ลี้ภัยที่พ�านักอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยบริเวณชายแดนไทย-พม่า  ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงคะเรนนี  มอญ  ฉิ่น

                  คะฉิ่น อาระกันฉาน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นชนกลุ่มน้อยในประเทศพม่า/เมียนมาร์ ที่มีประวัติศาสตร์ ภาษาและวัฒนธรรมที่แตกต่างไป
                  จากชาวพม่า  (Burman)  ที่เป็นชนกลุ่มใหญ่  นับตั้งแต่อังกฤษได้ให้เอกราชแก่พม่า/เมียนมาร์  และการลงนามในสัญญาปางหลวง
                  ชนกลุ่มน้อยเหล่านี้ต้องการที่จะอยู่ภายใต้การปกครองแบบสหพันธรัฐ  (Federal  Union)  ที่มีรัฐชาติพันธุ์  (Ethnic  State)  ของตนเอง

                  มีอิสระในการจัดการปัญหาภายในของตนเอง โดยเฉพาะผลประโยชน์ที่มาจากทรัพยากร รวมทั้งรักษาอัตลักษณ์ทางชาติพันธุ์
                  ประวัติศาสตร์และภาษาของตน ดังนั้น จึงเป็นเหตุให้เกิดความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลที่กุมอ�านาจโดยกลุ่มชาติพันธุ์พม่าที่เป็น
                  ชนกลุ่มใหญ่  และน�ามาสู่การปราบปรามชนกลุ่มน้อยเหล่านี้ด้วยการใช้ก�าลังทหารที่ท�าให้ชนกลุ่มน้อยบาดเจ็บล้มตาย  หมู่บ้านถูกเผา
                                                                       19
                  ทหารพม่าใช้การข่มขืนเป็นอาวุธในการปราบปรามกดขี่ชนกลุ่มน้อยเหล่านี้  รวมทั้งมีการเกณฑ์แรงงาน ยึดที่ดิน ทรัพย์สิน ข้าวปลาอาหาร
                  ฝังกับระเบิด  โจมตีฐานที่มั่นของกองก�าลังถืออาวุธชนกลุ่มน้อยจนแตกกระเจิง  ท�าให้ประชาชนชนกลุ่มน้อยต้องอพยพหนีภัยการสู้รบ
                  เข้ามาพักพิงในประเทศไทย  รัฐบาลยังได้ส่งกองก�าลังกองทัพพม่าเข้าไปควบคุมพื้นที่ในรัฐชาติพันธุ์ต่างๆ  ความรุนแรงที่รัฐบาลพม่า/

                  เมียนมาร์ปฏิบัติต่อชนกลุ่มน้อย  จึงสร้างความเกลียดชัง  ความหวาดกลัว  ความทรงจ�าที่เจ็บปวดและความไม่ไว้วางใจในหมู่ประชาชน
                  ชนกลุ่มน้อย และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ลี้ภัยที่ต้องหลบหนีละทิ้งถิ่นฐานออกจากประเทศพม่า/เมียนมาร์ เพื่อหาที่พักพิงที่ปลอดภัยกว่า
                  ในประเทศไทย

                                  แผนยุทธศาสตร์ในการส่งผู้ลี้ภัยกลับสู่ถิ่นฐานโดยสมัครใจ ตั้งอยู่บนข้อสมมติฐานว่าผู้ลี้ภัยเหล่านี้จะสามารถ
                  มีชีวิตอยู่ในถิ่นฐานเดิมหรือพื้นที่ใหม่ได้ สามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่และบูรณาการเข้าสู่สังคมพม่าได้ ทั้งนี้ UNHCR มีแผนที่จะท�าความเข้าใจ
                  กับเจ้าหน้าที่ของรัฐ และประชาชนที่อยู่โดยรอบพื้นที่ที่ผู้ลี้ภัยจะเดินทางกลับ แต่อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่า UNHCR จะมียุทธศาสตร์ให้ผู้ลี้ภัย

                  เดินทางกลับถิ่นฐานในรูปแบบต่างๆ เช่น การเดินทางกลับคืนถิ่นฐานด้วยตนเอง หรือเดินทางกลับโดยการอ�านวยสะดวก หรือ
                  ด้วยการสนับสนุนของ UNHCR ก็ตาม ประเด็นที่จะต้องค�านึงถึงก็คือ ผู้ลี้ภัยที่เป็นชนกลุ่มน้อยเหล่านี้ จะมี “จินตนาการชุมชน” ร่วม
                  กับประชาชนชาวพม่า/เมียนมาร์ที่มีความรู้สึกยอมรับว่า พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของความเป็นชาติเดียวกันหรือไม่ บาดแผลที่ผู้ลี้ภัย

                  ได้รับจากกองทัพพม่าที่ปราบปรามกลุ่มชาติพันธุ์ชนกลุ่มน้อย ที่ท�าให้พวกเขาต้องสูญเสียบุคคลในครอบครัว พลัดพรากจากถิ่นที่อยู่
                                                                                                        20
                  อาศัย  และสูญเสียทรัพย์สินเงินทอง  หรือบางราย  พี่สาว  น้องสาว  หรือลูกสาวของพวกเขาถูกทหารพม่าข่มขืน   ต้องอาศัยการ
                  เยียวยาอย่างจริงใจจากรัฐบาลพม่า หรือผู้ที่เกี่ยวข้อง เป็นที่น่าสังเกตว่ากระบวนการสันติภาพที่ได้ด�าเนินมาตั้งแต่หลังการเลือกตั้ง

                  ให้ความส�าคัญกับเงื่อนไขและข้อตกลงในการหยุดยิงทั่วประเทศมากกว่าที่จะเป็นการเจรจา เพื่อหาแนวทางในการสร้างความปรองดอง
                  และการให้อภัย และการยอมรับความผิดพลาดทางการเมืองและการทหารที่เกิดขึ้น อีกทั้งกระบวนการเยียวยาบาดแผลจากสงคราม
                  ก็ไม่ได้รับการกล่าวถึง แนวคิดเรื่องสหพันธ์รัฐที่ฝ่ายกองก�าลังถืออาวุธชนกลุ่มน้อยเรียกร้องจากรัฐบาล ก็ยังไม่เป็นชัดเจนว่าจะมี

                  ความหมายตรงกันกับฝ่ายรัฐบาลหรือไม่  ในขณะเดียวกับที่มีการเตรียมการส่งผู้ลี้ภัยกลับคืนถิ่นฐาน  แต่กองทัพพม่าก็ยังส่งก�าลังทหาร



                         19
                            Shan Women’s Action Network: SWAN 2002
                         20
                            Shan Women’s Action Network: SWAN 2002
 80                                                                                                                  81
 ทางเลือกเชิงนโยบายการแก้ไขปัญหาผู้ลี้ภัยในค่ายพักพิงชั่วคราว               ทางเลือกเชิงนโยบายการแก้ไขปัญหาผู้ลี้ภัยในค่ายพักพิงชั่วคราว
   89   90   91   92   93   94   95   96   97   98   99