Page 89 - รายงานวิจัย เรื่อง ทางเลือกเชิงนโยบายการแก้ไขปัญหาผู้ลี้ภัยในค่ายพักพิงชั่วคราว
P. 89
บทที่ ๕
แต่อย่างไรก็ดี อาจจะกล่าวได้ว่าผู้ลี้ภัยจะมีความห่วงใยในความปลอดภัยในการเดินทางกลับคืนถิ่นฐานบ้านเกิดของตนเอง
ในระดับที่แตกต่างกัน ส�าหรับผู้ลี้ภัยจ�านวนหนึ่งที่อพยพมาจากหมู่บ้านใกล้พรมแดนได้เดินทางข้ามพรมแดนไป-มา เพื่อดูแลที่ดินและ
พืชผลของตนเองที่ได้ปลูกไว้ บางคนข้ามไปดูลาดเลาว่าจะกลับไปภูมิล�าเนาของตนได้หรือไม่ หรือบางคนไปจับจองที่ดินเพื่อเตรียมตัวกลับ
ทั้งนี้ เนื่องจากที่ดินเริ่มกลายเป็นที่ต้องการมากขึ้น ในกรณีของค่ายผู้ลี้ภัยบ้านใหม่ในสอย องค์การด้านการศึกษาของคะเรนนี เช่น
KnCC ได้หาสถานที่ตั้งโรงเรียนในรัฐคะยาห์ ที่เมืองทิโมโซเพื่อเตรียมรับนักเรียนที่ต้องการเรียนในระดับ Post-ten คณะผู้วิจัยมี
ข้อสังเกตว่าการกลับไปหาที่ดินท�ากินน่าจะเป็นไปได้ง่ายส�าหรับผู้ที่มีญาติพี่น้องหรือคนรู้จักในพื้นที่ใกล้ชายแดน แต่ส�าหรับผู้ที่อพยพมาจาก
พื้นที่ที่ห่างไกลชายแดนอาจจะเป็นไปได้ยาก อย่างไรก็ดี ถึงแม้จะมีความไม่ชัดเจนและความห่วงกังวลในความปลอดภัยในการกลับคืน
สู่ถิ่นฐาน ปรากฏว่า ผู้ลี้ภัยจ�านวนหนึ่งเริ่มอพยพกลับถิ่นฐานของตนเองโดยสมัครใจ ในทางกลับกัน ก็ปรากฏว่าในระยะ ๓-๔ ปีที่ผ่านมา
มีผู้ลี้ภัยอีกจ�านวนไม่น้อยที่อพยพเข้ามาพ�านักในค่ายผู้ลี้ภัยเพื่อโอกาสทางการศึกษา และโอกาสทางเศรษฐกิจ ข้อมูลจากการบรรยายสรุป
ของตัวแทนฝ่ายไทยที่ค่ายผู้ลี้ภัยบ้านนุโพ เมื่อวันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๘ ระบุว่า มีผู้ลี้ภัยซึ่งเป็นกลุ่มผู้เข้ามาใหม่ (New Arrivals)
จ�านวน ๖,๕๔๖ คน
ถึงแม้ว่า จะมีผู้ลี้ภัยเริ่มเดินทางกลับคืนสู่ไปประเทศต้นทางบ้างแล้ว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการเตรียมการส่ง
ผู้ลี้ภัยกลับคืนมาตุภูมิ ข้อเท็จจริงก็คือ ยังมีผู้ลี้ภัยอีกจ�านวนประมาณ ๑๑๐,๐๐๐ คน ซึ่งจะต้องพ�านักอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยอีกเป็นระยะ
เวลานาน เพื่อรอให้มีการหยุดยิงทั่วประเทศ และการเจรจาทางการเมือง (Political Dialogue) ดังนั้น การด�าเนินการส่งผู้ลี้ภัย
กลับคืนสู่มาตุภูมิคงจะไม่เกิดขึ้นในระหว่างรอสถานการณ์ทางการเมืองคลี่คลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คงจะไม่สามารถเป็นไปได้
ในระหว่างการเตรียมการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปลายปีนี้ แต่การเลือกตั้งอาจจะเป็นแรงจูงใจที่ท�าให้ผู้ลี้ภัยจ�านวนหนึ่งเลือกที่จะเดินทาง
กลับสู่ถิ่นฐานของตน อย่างไรก็ดี หลังจากการเลือกตั้งรัฐบาลใหม่คงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งในการส่งผู้ลี้ภัยเดินทางกลับ ดังนั้น ผู้ลี้ภัย
จ�านวนดังกล่าวคงจะต้องอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยในบริเวณชายแดนไทย-พม่า/เมียนมาร์อีกเป็นระยะหนึ่ง
ประเด็นส�าคัญก็คือ ในระหว่างที่รอการส่งกลับคืนสู่ถิ่นฐานเดิม ผู้ลี้ภัยเหล่านี้อยู่ในสภาพอย่างไร ผู้ลี้ภัยที่ยังอยู่ในค่าย
ผู้ลี้ภัยบางส่วนอาจจะรอการเดินทางไปประเทศที่สาม เพราะผ่านการคัดกรองแล้ว แต่ส่วนใหญ่ต้องเผชิญกับปัญหาหลัก ๒ ประการ
คือ การลดอาหารปันส่วน ซึ่งอาจจะไม่มีผลกระทบมากนักกับผู้ที่มีงานท�าในค่ายผู้ลี้ภัย เช่น เปิดร้านค้า ขายอาหาร ขนม เครื่องใช้
ในชีวิตประจ�าวัน และเครื่องดื่มเล็กๆ น้อยๆ หรือท�างานให้กับองค์กรเอกชนระหว่างประเทศ ซึ่งมีจ�านวนลดน้อยลงตามล�าดับ แต่ส�าหรับ
ผู้ลี้ภัยที่ไม่มีช่องทางหารายได้อื่น หรือไม่มีญาติพี่น้อง ที่ส่งเงินมาจุนเจือ การลดอาหารปันส่วนจึงมีผลกระทบมาก และเป็นเสมือนสัญญาณ
ที่บ่งถึงการปิดฉากค่ายผู้ลี้ภัยที่ก�าลังใกล้เข้ามา ส่วนปัญหาอีกด้านหนึ่ง ก็คือการที่ไม่สามารถออกไปท�างานนอกค่ายผู้ลี้ภัย ซึ่งมีความ
เข้มงวดมากขึ้น หลังจากรัฐบาลไทยอยู่ภายใต้ คสช. การเดินทางเข้า-ออกค่อนข้างล�าบาก จึงมีผลกระทบต่อการกินอยู่ อาหารประทังชีวิต
เพราะผู้ลี้ภัยต้องเผชิญกับการลดจ�านวนอาหารปันส่วน
ต่อสถานการณ์ดังกล่าวมาข้างต้น มีความจ�าเป็นที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของฝ่ายรัฐบาล และองค์กรเอกชนระหว่าง
ประเทศ เช่น UNHCR จ�าเป็นจะต้องพิจารณาหาทางเลือกเชิงนโยบายต่อการส่งกลับผู้ลี้ภัย โดยพิจารณาจากสถานการณ์ในพื้นที่
ตลอดจนพัฒนาการของพื้นที่บริเวณชายแดนที่ก�าลังเปลี่ยนแปลงอันเนื่องจากนโยบายการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
๔. บทบาทและแนวทางของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) มีกลไกสนับสนุนการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและมียุทธศาสตร์การขับเคลื่อน
งานที่เป็นประเด็นส�าคัญตามบริบทหรือสถานการณสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย เพื่อปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจสอบกรณีร้องเรียน
การจัดท�าข้อเสนอเชิงนโยบาย ซึ่งครอบคลุมถึงสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ สิทธิของกลุ่มสตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ คนไร้รัฐ
แรงงานข้ามชาติและอื่นๆ ดังนั้น จึงถือว่ามีบทบาทค่อนข้างกว้างขวางและครอบคลุมปัญหาสิทธิมนุษยชนทั้งในประเทศ และ
ข้ามพรมแดน
76 77
ทางเลือกเชิงนโยบายการแก้ไขปัญหาผู้ลี้ภัยในค่ายพักพิงชั่วคราว ทางเลือกเชิงนโยบายการแก้ไขปัญหาผู้ลี้ภัยในค่ายพักพิงชั่วคราว