Page 164 - รายงานฉบับสมบูรณ์ โครงการวิจัยการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ของประเทศไทย และความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน
P. 164

ในกรณีที่ไม่มีผู้รับ ให้ปิดคําสั่งไว้ที่ภูมิลําเนาของผู้นั้นในที่เปิดเผย และให้ถือว่าเจ้าของ
                   ผู้ครอบครองหรือผู้ดําเนินกิจการสถานประกอบกิจการ โรงงาน หรือยานพาหนะ ได้รับแจ้งคําสั่งนั้นแล้ว

                   เมื่อพ้นกําหนดสิบห้าวันนับแต่วันปิดคําสั่ง
                          ในกรณีเจ้าของ ผู้ครอบครอง หรือผู้ดําเนินกิจการสถานประกอบกิจการ โรงงาน หรือยานพาหนะ
                   ไม่เห็นด้วยกับคําสั่งของคณะอนุกรรมการตามมาตรา ๒๕ วรรคสอง ให้อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการภายใน
                   สามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคําสั่งจากคณะอนุกรรมการ

                          การอุทธรณ์ไม่เป็นเหตุให้ทุเลาการบังคับตามคําสั่งของคณะอนุกรรมการตามมาตรา ๒๕ วรรค
                   สอง
                          คําวินิจฉัยของคณะกรรมการให้เป็นที่สุด”
                          มาตรา ๗ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๒๕ แห่งพระราชบัญญัติปูองกันและปราบปรามการค้ามนุษย์

                   พ.ศ. ๒๕๕๑ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “มาตรา ๒๕ คณะกรรมการและคณะกรรมการ ปกค. จะแต่งตั้ง
                   คณะอนุกรรมการหรือคณะทํางานเพื่อพิจารณาและเสนอความเห็นในเรื่องหนึ่งเรื่องใดหรือปฏิบัติการ
                   อย่างหนึ่งอย่างใดตามที่คณะกรรมการและคณะกรรมการ ปกค. มอบหมายก็ได้
                          ให้คณะกรรมการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อทําการตามมาตรา ๑๖/๒

                          ให้นํามาตรา ๒๑ วรรคหนึ่ง วรรคสอง และวรรคสาม มาใช้บังคับกับการประชุมของ
                   คณะอนุกรรมการหรือคณะทํางานโดยอนุโลม”
                          มาตรา ๘ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (๖/๑) ของมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติปูองกันและ

                   ปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. ๒๕๕๑
                          “(๖/๑) ค่าปรับตามที่กระทรวงการคลังอนุญาต ให้นําไปใช้ได้โดยไม่ต้องนําส่งคลังเป็นรายได้ของ
                   แผ่นดิน”
                          มาตรา ๙ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา ๕๓/๑ และมาตรา ๕๓/๒ แห่งพระราชบัญญัติปูองกัน
                   และปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. ๒๕๕๑ “มาตรา ๕๓/๑ ถ้าการกระทําผิดตามมาตรา ๕๒ หรือมาตรา

                   ๕๓ วรรคสอง เป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทํา
                          (๑) รับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่แปดปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนหกหมื่น
                   บาทถึงสี่แสนบาท หรือจําคุกตลอดชีวิต

                          (๒) ถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจําคุกตลอดชีวิต หรือประหารชีวิต
                          มาตรา ๕๓/๒ เจ้าของ ผู้ครอบครอง หรือผู้ดําเนินกิจการสถานประกอบกิจการ โรงงานหรือ
                   ยานพาหนะ ผู้ใดฝุาฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคําสั่งตามมาตรา ๑๖/๒ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหกเดือนหรือ
                   ปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ”

                          ๒. มอบให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ร่วมกับกระทรวงเกษตรและ
                   สหกรณ์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขป๎ญหาการค้า
                   มนุษย์จัดทําแผนบูรณาการเกี่ยวกับการแก้ไขป๎ญหาการค้ามนุษย์ แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา เพื่อให้
                   ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจัดทําแผนปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนนโยบายและแผนบูรณาการดังกล่าวให้เกิด

                   ผลสัมฤทธิ์และมีประสิทธิภาพ ตลอดจนพิจารณาจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการในการปูองกันและแก้ไขป๎ญหา
                   การค้ามนุษย์แบบเบ็ดเสร็จและมีประสิทธิภาพ (One-Stop  Service  Centre)  เพื่อเป็นศูนย์ปฏิบัติการ
                   ร่วมกันแบบครบวงจร



                                                            ๑๔๔
   159   160   161   162   163   164   165   166   167   168   169