Page 163 - รายงานฉบับสมบูรณ์ โครงการวิจัยการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ของประเทศไทย และความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน
P. 163
ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นเลขานุการ และให้ปลัดกระทรวงการพัฒนา
สังคมและความมั่นคงของมนุษย์แต่งตั้งข้าราชการของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของ
มนุษย์ จํานวนไม่เกินสองคน เป็นผู้ช่วยเลขานุการ”
ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (๒/๑) ของมาตรา ๑๖ แห่งพระราชบัญญัติปูองกันและปราบปราม
การค้ามนุษย์ พ.ศ. ๒๕๕๑ “(๒/๑) เสนอความเห็นต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อกําหนดมาตรการปูองกันและ
ปราบปรามการค้ามนุษย์ในสถานประกอบกิจการ โรงงาน และยานพาหนะ และกําหนดให้สถานประกอบ
กิจการ โรงงานและยานพาหนะ ต้องอยู่ภายใต้บังคับของมาตรการดังกล่าว”
มาตรา ๖ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา ๑๖/๑ มาตรา ๑๖/๒ และมาตรา ๑๖/๓ แห่ง
พระราชบัญญัติปูองกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. ๒๕๕๑
“มาตรา ๑๖/๑ ให้นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีมีอํานาจออกประกาศ
กําหนดมาตรการปูองกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ในสถานประกอบกิจการ โรงงาน และยานพาหนะ
และประกาศกําหนดให้สถานประกอบกิจการ โรงงาน และยานพาหนะใด ๆ ต้องอยู่ภายใต้บังคับของ
มาตรการดังกล่าว ทั้งนี้ โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
มาตรา ๑๖/๒ ในกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจพบว่ามีการฝุาฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรการ
ปูองกันและปราบปรามการค้ามนุษย์หรือพบการกระทําความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ในสถานประกอบ
กิจการโรงงาน หรือยานพาหนะตามมาตรา ๑๖/๑ หากเจ้าของ ผู้ครอบครอง หรือผู้ดําเนินกิจการสถาน
ประกอบกิจการโรงงาน หรือยานพาหนะ ดังกล่าวไม่สามารถชี้แจงหรือพิสูจน์ให้คณะอนุกรรมการตาม
มาตรา ๒๕ วรรคสอง เชื่อได้ว่าตนได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแก่กรณีแล้ว ให้คณะอนุกรรมการตาม
มาตรา ๒๕ วรรคสองมีอํานาจสั่งอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้
(๑) ปิดสถานประกอบกิจการหรือโรงงานชั่วคราว
(๒) พักใช้ใบอนุญาตประกอบการสําหรับการประกอบธุรกิจหรือโรงงาน
(๓) ห้ามใช้ยานพาหนะเป็นการชั่วคราว
(๔) ดําเนินมาตรการที่จําเป็นเพื่อปูองกันมิให้มีการกระทําผิดเกิดขึ้นอีก
ทั้งนี้ การสั่งตาม (๑) (๒) และ (๓) ต้องไม่เกินครั้งละสามสิบวันนับแต่วันที่เจ้าของ ผู้ครอบครอง
หรือผู้ดําเนินกิจการสถานประกอบกิจการ โรงงาน หรือยานพาหนะ ได้รับทราบคําสั่ง
ในกรณีมีการออกคําสั่งใด ๆ ตามวรรคหนึ่ง ให้คณะอนุกรรมการตามมาตรา ๒๕ วรรคสองแจ้งให้
หน่วยงานซึ่งควบคุมสถานประกอบกิจการ โรงงาน หรือยานพาหนะนั้นทราบ และให้หน่วยงานดังกล่าว
ถือปฏิบัติตามนั้น
การพิจารณาปิดสถานประกอบกิจการหรือโรงงานชั่วคราว การพักใช้ใบอนุญาตประกอบการ
สําหรับการประกอบธุรกิจหรือโรงงาน การห้ามใช้ยานพาหนะเป็นการชั่วคราวหรือการดําเนินมาตรการที่
จําเป็นเพื่อปูองกันมิให้มีการกระทําผิดเกิดขึ้นอีก ตามวรรคหนึ่ง และการแจ้งให้หน่วยงานรับทราบตาม
วรรคสามให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีประกาศกําหนด
มาตรา ๑๖/๓ ให้แจ้งคําสั่งตามมาตรา ๑๖/๒ ต่อเจ้าของ ผู้ครอบครองหรือผู้ดําเนินกิจการ สถาน
ประกอบกิจการ โรงงาน หรือยานพาหนะนั้นทราบเป็นหนังสือ ณ ภูมิลําเนาของผู้นั้น ภายในเจ็ดวันนับแต่
วันออกคําสั่ง
๑๔๓