Page 55 - รายงานการศึกษาวิจัย มาตรฐานสากลในการดำเนินธุรกิจเพื่อการเคารพสิทธิมนุษยชน
P. 55
1) การประกาศนโยบายของบริษัทที่ว่าด้วยการเคารพสิทธิมนุษยชน
2) การประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นจริงหรือมีแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้นจากกิจกรรมของบริษัท
3) การบูรณาการข้อผูกมัดเชิงนโยบายเข้ากับการประเมิน รวมถึงกลไกควบคุมภายใน
และภายนอก
4) การติดตามและรายงานผลการดำาเนินงาน (United Nations, 2011)
กรอบแนวคิดนี้เป็นประเด็นสำาคัญสำาหรับมาตรฐานด้านสิทธิมนุษยชน เมื่อพิจารณามาตรฐาน
ทั้ง 8 มาตรฐานพบว่า มีเพียงข้อตกลงแห่งสหประชาชาติ และหลักการกำากับกิจการที่ดีของ
OECD เท่านั้นที่ไม่กำาหนด กระนั้นก็ตาม แต่ละมาตรฐานก็มีรายละเอียดในด้านนี้แตกต่างกัน
โดยหลักเกณฑ์ของ IFC นอกจากจะกล่าวถึงการประเมินผลกระทบและป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชน
เช่นเดียวกับมาตรฐานอื่นๆ แล้ว ยังได้ระบุถึงการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียด้วย
ชุดตัวชี้วัดด้านสิทธิมนุษยชนสำาหรับภาคธุรกิจของสถาบันสิทธิมนุษยชนเดนมาร์กระบุให้บริษัท
ควรมีกลไกการเยียวยาที่ชัดเจน รวมทั้งบริษัทต้องสื่อสารเกี่ยวกับการจัดการผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อสาธารณะ
แนวปฏิบัติสำาหรับบรรษัทข้ามชาติของ OECD กล่าวถึงกระบวนการนี้อย่างกว้างๆ โดยกำาหนด
ให้บริษัทตรวจสอบและวิเคราะห์สถานะด้านสิทธิมนุษยชนเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชน
เท่านั้น แต่มิได้ระบุแนวทางในการปฏิบัติ
4. ความรับผิดชอบตลอดสายห่วงโซ่อุปทาน (supply chain)
การพิจารณาระดับการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนตลอดห่วงโซ่อุปทานของธุรกิจต่างๆ เป็นประเด็น
สำาคัญที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ โดยเฉพาะในยุคโลกาภิวัตน์ที่บรรษัทข้ามชาติซึ่งแสวงหาผู้จัดหา
่
วัตถุดิบในราคาตำาเพิ่มจำานวนมากขึ้น บริษัทขนาดใหญ่มักจะมีความซับซ้อน ห่วงโซ่อุปทานยาวและ
54 กว้าง มิได้ดำาเนินธุรกิจทุกขั้นตอนด้วยตัวเองแต่จ้างคู่ค้าเป็นทอดๆ ผู้รับเหมาช่วง หรือโยกงาน
(outsource) จึงเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนมากขึ้นในทุกประเภทอุตสาหกรรม
ในมาตรฐานตัวอย่างที่ศึกษาในงานวิจัยชิ้นนี้ มีมาตรฐาน 6 มาตรฐานที่ระบุอย่างเฉพาะเจาะจง
เกี่ยวกับการป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชนในห่วงโซ่อุปทาน หลักการชี้แนะว่าด้วยธุรกิจและ
สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ระบุกว้างๆ ในข้อ 13 ให้มี “ความพยายามป้องกันหรือลดผลกระทบ
และความเสียหายต่อสิทธิมนุษยชนที่มีความเกี่ยวเนื่องกับการประกอบกิจการของตนเอง” ส่วนแนวปฏิบัติ
สำาหรับบรรษัทข้ามชาติของ OECD กำาหนดให้ต้องมี “การส่งเสริมให้คู่ค้าทางธุรกิจ ผู้รับจ้าง และผู้รับช่วงต่อ
นำาเอาหลักการนี้ไปใช้ด้วย” ขณะที่หลักเกณฑ์ของ IFC ได้ระบุให้ครอบคลุมตลอดห่วงโซ่อุปทานอย่างชัดเจน
ในหลักเกณฑ์ที่ 2 แรงงานและสภาพการทำางาน เช่นเดียวกับมาตรฐานการเปิดเผยข้อมูลของ GRI
รายงานการศึกษาวิจัยมาตรฐานสากลในการดำาเนินธุรกิจเพื่อการคารพสิทธิมนุษยชน
59-09-116 001-128 vijai lem4 i_coated.indd 54 9/24/16 1:50 PM

