Page 66 - รายงานผลการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง แนวทางการมีส่วนร่วมของประชาชนในการกำหนดแนวเขตที่ดินของรัฐ
P. 66
๓๙
ก. สั่งให้ผู้หนึ่งผู้ใดออกจำกป่ำสงวนแห่งชำติ หรือให้งดเว้นกำรกระท ำใดๆ ใน
เขตป่ำสงวนแห่งชำติ ในกรณีที่มีข้อเท็จจริงปรำกฏหรือเหตุอันควรสงสัยว่ำ มีกำรกระท ำผิดตำม
พระรำชบัญญัตินี้
ข. สั่งเป็นหนังสือให้ผู้กระท ำผิดต่อพระรำชบัญญัตินี้ รื้อถอน แก้ไขหรือท ำ
ประกำรอื่นใดแก่สิ่งที่เป็นอันตรำย หรือสิ่งที่ท ำให้เสื่อมสภำพในเขตป่ำสงวนแห่งชำติ ภำยในเวลำที่
ก ำหนดให้
ค. ยึด ท ำลำย รื้อถอน แก้ไขหรือท ำประกำรอื่น เมื่อผู้กระท ำผิดไม่ปฏิบัติตำม
ข้อ ข. หรือไม่ปรำกฏตัวผู้กระท ำผิด หรือรู้ตัวผู้กระท ำผิดแต่หำตัวไม่พบ
ถ้ำพนักงำนเจ้ำหน้ำที่ได้ปฏิบัติกำรอย่ำงหนึ่งอย่ำงใดดังกล่ำว และได้เสีย
ค่ำใช้จ่ำยเพื่อกำรนั้น ให้ผู้กระท ำผิดชดใช้หรือออกค่ำใช้จ่ำยนั้นทั้งหมด หรือให้พนักงำนเจ้ำหน้ำที่น ำ
ทรัพย์สินที่ยึดไว้ได้ออกขำยทอดตลำดหรือขำยโดยวิธีอื่นตำมที่เห็นสมควร เพื่อชดใช้ค่ำใช้จ่ำยนั้น และให้น ำ
ควำมในมำตรำ 1327 แห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์มำใช้บังคับแก่เงินที่ได้จำกกำรขำยทรัพย์สิน
นั้นโดยอนุโลม
ง. ด ำเนินกำรอย่ำงหนึ่งอย่ำงใดที่เห็นสมควร ทั้งนี้เพื่อป้องกันหรือบรรเทำ
ควำมเสียหำยแก่ป่ำสงวนแห่งชำติในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉิน
โดยมำตรำ 26 ระบุว่ำ กำรจับกุม ปรำบปรำมผู้กระท ำผิดตำมพระรำชบัญญัติ
นี้ ให้พนักงำนเจ้ำหน้ำที่เป็นพนักงำนฝ่ำยปกครองหรือต ำรวจ ตำมประมวลกฎหมำยวิธีพิจำรณำควำมอำญำ
การบังคับใช้กฎหมาย
(1) บรรดำป่ำที่เป็นป่ำสงวนอยู่แล้วตำมกฎหมำยว่ำด้วยกำรคุ้มครองและสงวนป่ำก่อน
วันที่พระรำชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้เป็นป่ำสงวนแห่งชำติตำมพระรำชบัญญัตินี้ เมื่อรัฐมนตรีเห็นสมควร
ก ำหนดป่ำอื่นใดเป็นป่ำสงวนแห่งชำติ เพื่อรักษำสภำพป่ำไม้ ของป่ำหรือทรัพยำกรธรรมชำติอื่น ให้กระท ำ
ได้โดยออกกฎกระทรวงซึ่งต้องมีแผนที่แสดงแนวเขตป่ำที่ก ำหนดเป็นป่ำสงวนแห่งชำตินั้นแนบท้ำย
กฎกระทรวงด้วย
(2) ในเขตป่ำสงวนแห่งชำติ ห้ำมมิให้บุคคลใดยึดถือครอบครองท ำประโยชน์หรืออยู่อำศัย
ในที่ดิน ก่อสร้ำง แผ้วถำง เผำป่ำ ท ำไม้ เก็บหำของป่ำ หรือกระท ำด้วยประกำรใดๆ อันเป็นกำรเสื่อมเสีย
แก่สภำพป่ำสงวนแห่งชำติ เว้นแต่ ท ำไม้หรือเก็บหำของป่ำตำมมำตรำ 15 เข้ำท ำประโยชน์หรืออยู่อำศัย
ตำมมำตรำ 16 มำตรำ 16 ทวิ หรือมำตรำ 16 ตรี กระท ำกำรตำมมำตรำ 17 ใช้ประโยชน์ตำมมำตรำ
18 หรือกระท ำกำรตำมมำตรำ 19 หรือมำตรำ 20 และท ำไม้หวงห้ำมหรือเก็บหำของป่ำหวงห้ำม
ตำมกฎหมำยว่ำด้วยป่ำไม้