Page 71 - รายงานผลการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง แนวทางการมีส่วนร่วมของประชาชนในการกำหนดแนวเขตที่ดินของรัฐ
P. 71

๔๔



               แก่อุทยำนแห่งชำติ พนักงำนเจ้ำหน้ำที่จะกระท ำกำรดังกล่ำวแล้วอย่ำงใดอย่ำงหนึ่งเสียเองก็ได้ตำมสมควร

               แก่กรณี และผู้กระท ำควำมผิดมีหน้ำที่ชดใช้ค่ำใช้จ่ำยที่ต้องเสียไปในกำรที่พนักงำนเจ้ำหน้ำที่กระท ำกำร
               เสียเองนั้น


                              ปัญหาอุปสรรค ข้อจ ากัดของกฎหมาย และการแก้ไข



                              อุทยำนแห่งชำติเป็นพื้นที่ซึ่งมีกำรจัดกำรดูแลเข้มงวด แต่ก็ยังมีกำรบุกรุกเข้ำไปครอบครอง

               ท ำประโยชน์ในที่ดิน เนื่องจำกพื้นที่อุทยำนส่วนใหญ่จะมีสภำพธรรมชำติที่สวยงำม เหมำะแก่กำรพักผ่อน
               หย่อนใจ ล ำพังเพียงก ำลังเจ้ำหน้ำที่ของกรมอุทยำนแห่งชำติ สัตว์ป่ำ และพันธุ์พืชไม่สำมำรถดูแลอุทยำน

               แห่งชำติได้อย่ำงทั่วถึง นอกจำกนั้น ในพื้นที่บำงแห่งมีประชำชนที่เป็นชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิมที่อยู่อำศัย

               มำก่อนกำรก ำหนดเป็นเขตอุทยำน ท ำให้ต้องมีกำรผ่อนผันให้อยู่อำศัยแต่ไม่ให้ขยำยเขตออกไป แต่ใน
               ทำงปฏิบัติก็มีกำรขยำยเขตที่ดินท ำกินออกไปเรื่อย ๆ ตำมจ ำนวนครอบครัวที่เพิ่มขึ้น และเช่นเดียว

               กับกฎหมำยป่ำไม้ หรือกฎหมำยป่ำสงวนที่มีปัญหำกำรจับกุมและยึดเครื่องมือที่ใช้ในกำรกระท ำผิด ท ำให้

               ผู้กระท ำผิดที่วำนใช้ผู้อื่นไปบุกรุกไม่เกรงกลัวกฎหมำย จนรัฐบำลต้องประกำศให้กำรท ำลำย
               ทรัพยำกรธรรมชำติเป็นกำรกระท ำของผู้มีอิทธิพลที่ต้องด ำเนินกำรอย่ำงเฉียบขำด


                              ควรมีกำรทบทวนกฎหมำยอุทยำนแห่งชำติทั้งฉบับ ให้ประชำชนและองค์กรปกครอง

               ท้องถิ่นมีหน้ำที่ในกำรดูแลรักษำอุทยำนแห่งชำติร่วมกับภำครัฐ รวมทั้งได้รับประโยชน์จำกกำรดูแลรักษำนั้น
               อันเป็นแรงจูงใจแทนกำรใช้กฎหมำยห้ำมและลงโทษแต่เพียงอย่ำงเดียว


               (กรมอุทยำนแห่งชำติ สัตว์ป่ำ และพันธุ์พืช, 2557 /ศูนย์ศึกษำนโยบำยที่ดิน คณะนิติศำสตร์ จุฬำลงกรณ์

               มหำวิทยำลัย, 25๕๗)

                              2.1.๕.๒ พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535



                              ความเป็นมา

                              เป็นกฎหมำยที่ออกใช้แทนพระรำชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่ำ พ.ศ. 2503 ที่ใช้มำ

               เป็นเวลำนำน เนื่องจำกมำตรกำรต่ำง ๆ ที่มีอยู่ในกฎหมำยเดิมไม่สำมำรถท ำให้กำรสงวนและคุ้มครองสัตว์
               ป่ำเป็นไปอย่ำงมีประสิทธิภำพและได้ผลสมดังวัตถุประสงค์ของกฎหมำย ประกอบกับจ ำเป็นต้องเร่งรัดกำร

               ขยำยพันธุ์สัตว์ป่ำและให้กำรสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่ำควบคู่กันไปและเนื่องจำกในขณะนั้นได้มีควำมตกลง

               ระหว่ำงประเทศในกำรที่จะร่วมมือกันเพื่อสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่ำของท้องถิ่นอันเป็นทรัพยำกรที่ส ำคัญ
               ของโลก ดังนั้น เพื่อปรับปรุงให้มำตรกำรในกำรสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่ำเป็นไปอย่ำงเหมำะสมและ

               สอดคล้องกับควำมตกลงระหว่ำงประเทศ จึงมีกำรปรับปรุงกฎหมำยว่ำด้วยกำรสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่ำ

               เสียใหม่
   66   67   68   69   70   71   72   73   74   75   76