Page 69 - รายงานผลการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง แนวทางการมีส่วนร่วมของประชาชนในการกำหนดแนวเขตที่ดินของรัฐ
P. 69

๔๒



               ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งท ำหน้ำที่ในกำรให้ค ำปรึกษำต่อรัฐมนตรีในกำรก ำหนดเขตที่ดินให้เป็นอุทยำน

               แห่งชำติ กำรขยำยหรือกำรเพิกถอน กำรคุ้มครองและดูแลรักษำอุทยำนแห่งชำติ ตลอดจนเรื่องอื่นๆ
               ที่รัฐมนตรีปรึกษำ


                              (๓) การก าหนดเขตอุทยานแห่งชาติ  เมื่อรัฐบำลเห็นสมควรก ำหนดบริเวณที่ดินแห่งใด
               ที่มีสภำพธรรมชำติเป็นที่น่ำสนใจ ให้คงอยู่ในสภำพธรรมชำติเดิมเพื่อสงวนไว้ให้เป็นประโยชน์แก่กำรศึกษำ

               และรื่นรมย์ของประชำชน รัฐบำลอำจก ำหนดให้บริเวณนั้นเป็น “อุทยำนแห่งชำติ” ได้  โดยกำรก ำหนด

               เขตอุทยำนแห่งชำติจะต้องออกเป็นพระรำชกฤษฎีกำและมีแผนที่แสดงแนวเขตแห่งบริเวณที่ก ำหนดแนบ

               ท้ำยพระรำชกฤษฎีกำด้วย ที่ดินที่จะก ำหนดเป็นบริเวณอุทยำนแห่งชำติต้องเป็นที่ดินที่มิได้อยู่ในกรรมสิทธิ์
               หรือครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมำยของบุคคลใดซึ่งมิใช่ทบวงกำรเมือง กฎหมำยยังก ำหนดให้มีหลักเขต

               และป้ำยหรือเครื่องหมำยอื่นแสดงเขตอุทยำนแห่งชำติไว้ตำมสมควร เพื่อให้ประชำชนเห็นได้ว่ำ

               เป็นเขตอุทยำนแห่งชำติ รวมทั้งก ำหนดวิธีกำรขยำยหรือเพิกถอนเขตอุทยำนแห่งชำติให้ต้องออกเป็น

               พระรำชกฤษฎีกำ

                              (๔) กิจกรรมที่ห้ามกระท าในเขตอุทยานแห่งชาติ  ในกำรคุ้มครองดูแลอุทยำนแห่งชำติ

               กฎหมำยได้ก ำหนดข้อห้ำมกำรกระท ำกิจกรรมบำงอย่ำงในเขตอุทยำนแห่งชำติ เช่น ห้ำมมิให้บุคคลใดยึดถือ
               ครอบครองที่ดิน รวมตลอดถึงก่นสร้ำง แผ้วถำงหรือเผำป่ำ ท ำด้วยประกำรใดๆ ให้เป็นอันตรำยหรือท ำให้

               เสื่อมสภำพแก่ดิน หิน กรวด หรือทรำย  เปลี่ยนแปลงทำงน้ ำ หรือท ำให้น้ ำในล ำน้ ำ ล ำห้วย หนอง บึง

               ท่วมท้นหรือเหือดแห้ง  ปิดหรือท ำให้กีดขวำงแก่ทำงน้ ำหรือทำงบก  และเข้ำไปด ำเนินกิจกำรใดๆ เพื่อหำ
               ผลประโยชน์ เว้นแต่จะได้รับอนุญำตจำกพนักงำนเจ้ำหน้ำที่


                              (๕) อ านาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ พนักงำนเจ้ำหน้ำที่มีอ ำนำจออกค ำสั่งให้ผู้กระท ำผิด

               ตำมมำตรำ 16 ออกจำกเขตอุทยำนแห่งชำติหรืองดเว้นกำรกระท ำใด ๆ ได้ หำกมีสิ่งปลูกสร้ำงขึ้นใหม่หรือ
               มีสิ่งที่ผิดไปจำกสภำพเดิมก็อำจสั่งให้ผู้กระท ำผิดท ำลำยหรือรื้อถอนออกไปหรือท ำให้กลับสู่สภำพเดิม

               ผู้ที่ฝ่ำฝืนกระท ำผิดอำจมีโทษจ ำคุกตั้งแต่หนึ่งเดือนถึงห้ำปี โทษปรับไม่เกินห้ำร้อยบำทถึงสองหมื่นบำท หรือ

               ทั้งจ ำทั้งปรับ และให้ริบอำวุธ เครื่องมือ เครื่องใช้และ ยำนพำหนะที่ใช้ในกำรกระท ำควำมผิดด้วย

                              (๖) การเข้าไปใช้ประโยชน์ในเขตอุทยานแห่งชาติ  กฎหมำยเปิดโอกำสให้ประชำชน

               เข้ำไปใช้ประโยชน์ในเขตอุทยำนแห่งชำติเพื่อกำรศึกษำและสันทนำกำร โดยให้อธิบดีมีอ ำนำจก ำหนดอัตรำ

               และวำงระเบียบเกี่ยวกับกำรเก็บค่ำบริกำร ค่ำธรรมเนียมหรือค่ำตอบแทนในกำรที่พนักงำนเจ้ำหน้ำที่
               ให้บริกำรหรือให้ควำมสะดวกต่ำง ๆ ในอุทยำนแห่งชำติ หรือกำรที่ได้รับอนุญำตให้ด ำเนินกิจกำรหรือ

               พักอำศัยอยู่ในอุทยำนแห่งชำติ
   64   65   66   67   68   69   70   71   72   73   74