Page 196 - รายงานผลการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง แนวทางการมีส่วนร่วมของประชาชนในการกำหนดแนวเขตที่ดินของรัฐ
P. 196

๑๖๙



                   ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 บทบัญญัติในหมวด 3 สิทธิและเสรีภาพของชนชาวไทย ส่วนที่

                   12 สิทธิชุมชน นอกจากจะได้มีการขยายสิทธิชุมชนแล้ว ยังมีเจตนารมณ์ที่จะท าให้การใช้สิทธิและ
                   เสรีภาพของประชาชนมีประสิทธิภาพและมีมาตรการคุ้มครองที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ด้วยการตัดถ้อยค าว่า

                   “ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายบัญญัติ”  ออกจากบทบัญญัติที่เกี่ยวกับสิทธิและเสรีภาพในหลายมาตรา อันส่งผล
                   ท าให้สิทธิและเสรีภาพของประชาชนได้เกิดขึ้นทันทีตามรัฐธรรมนูญ

                                 จากการศึกษาในพื้นที่ ๗ กรณีศึกษาที่กล่าวมาพบได้ว่า รัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

                   ในการก าหนดแนวเขตพื้นที่สงวนหวงห้ามของรัฐ ได้ด าเนินการอย่างเร่งรัดและเร่งรีบ เพื่อให้มีการ
                   ประกาศเป็นกฎหมายออกมาก่อนแล้วจึงจะแก้ไขปัญหาตามที่มีการเรียกร้องหรือกระทบสิทธิในที่ดิน

                   ของประชาชนในภายหลัง รวมไปถึงการมิได้ตรวจสอบพื้นที่อย่างละเอียดอย่างรอบด้าน และรับฟัง
                   ความเห็นของประชาชนในพื้นที่นั้น จึงสรุปได้ว่าต้นเหตุของปัญหาแนวเขตที่ดินของรัฐที่มีความขัดแย้ง

                   และกระทบสิทธิในที่ดินของประชาชนที่อยู่อาศัยและท าประโยชน์ในที่ดินนั้น เกิดมาจากต้นเหตุ คือ การที่
                   ไม่ได้ให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการด าเนินงานนั่นเอง หากให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการ

                   ด าเนินงานแล้ว จะเป็นการสร้างการยอมรับของประชาชนไม่มีการโต้แย้งกันอีก สามารถคงรักษาแนวเขต
                   พื้นที่ที่ก าหนดไว้อย่างยั่งยืน มิให้เสื่อมสภาพได้ตลอดไป ท าให้เกิดความโปร่งใสในการท างาน ทั้งยังเป็น

                   การแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุทั้งหมด

                          จึงจะเห็นได้ว่าผลจากการก าหนดแนวเขตพื้นที่สงวนหวงห้ามของรัฐ โดยที่มิได้ให้ประชาชนหรือ

                   ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้าไปมีส่วนร่วมในการด าเนินงาน ท าให้เกิดปัญหากระทบสิทธิของประชาชน
                   ในด้านที่ดินท ากินและที่อยู่อาศัย มีข้อพิพาท คือ

                          ๑. ในการด าเนินงานก าหนดแนวเขตพื้นที่สงวนหวงห้ามของรัฐ ประชาชนไม่ทราบข้อมูลและ

                   ข้อเท็จจริงของหน่วยงานของรัฐที่ก าหนดโครงการ ทั้งไม่ได้แจ้งให้ประชาชนและผู้ก าหนดเป็นกฎหมาย
                   ทราบถึงข้อมูลในพื้นที่นั้นอย่างครบถ้วน  เกิดการขัดแย้ง เมื่อมีการก าหนดแนวเขตพื้นที่สงวนหวงห้าม

                   ของรัฐแล้ว ท าให้ไปทับซ้อนกับที่ดินท ากินและอยู่อาศัยของประชาชนที่อยู่อาศัยใช้ประโยชน์มาแต่เดิม
                   ท าให้มีข้อโต้แย้งเรียกร้องสิทธิ ไม่ยอมรับแนวเขตที่ดินที่รัฐก าหนดนั้น


                          ๒. เมื่อหน่วยงานของรัฐมิได้ให้ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วม ในการก าหนดแนวเขตที่ดินสงวน
                   หวงห้ามของรัฐ ผลกระทบก็กลับไปยังหน่วยงานของรัฐนั้น คือ หน่วยงานของรัฐไม่ทราบถึงความไม่พอใจ

                   ของประชาชนตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งอาจจะหาทางเยียวยาหรือชี้แจงได้ แต่ก็ได้กลายเป็นปัญหาลุกลามใหญ่โต
                   ส่งผลถึงการไม่ให้ความร่วมมือในการดูแลรักษา

                          ๓. ในเมื่อไม่มีส่วนร่วมของประชาชน หน่วยงานของรัฐที่ก าหนดแนวเขตที่ดิน แม้ว่าจะทราบถึง

                   ปัญหาต่างๆ ที่เกิดจากการก าหนดแนวเขตที่ดินให้ไปกระทบสิทธิของประชาชนตามที่ได้ด าเนินการไว้
                   ก็ไม่มีการเร่งรัดแก้ไขปัญหา ปล่อยให้ปัญหาสะสมและเกิดปัญหาเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลายประการ อันเกิด

                   จากไม่มีการติดตามหรือหาทางแก้ไขร่วมกันระหว่างประชาชนและหน่วยงานของรัฐ
   191   192   193   194   195   196   197   198   199   200   201